ดูเหมือนโม่ยี่ไป๋จะไม่ได้ฟังเขาพูดเลย เธอจ้องมองไปยังร่างที่เดินอยู่ไม่ไกลด้วยความมึนงง
แน่นอนว่าร่างนั้นก็คือเซียวชุ่น เขาเหมือนคนสัญจรผ่านไปมาที่ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอเลย เขาก้าวผ่านคนสองคนอย่างรวดเร็วโดยไม่แม้แต่จะเหล่มอง
“คุณเซียว”
โม่ยี่ไป๋ทิ้งหลี่ซ่างจื้อแล้วเดินตามเขาไปได้สองก้าวก่อนจะเรียก
“มีอะไรงั้นเหรอ?”เซียวชุ่นหยุดฝีเท้าแล้วหันไปถาม
“เออ……ฉัน อีกไม่กี่วันก็วันเกิดฉันแล้ว ฉันอยากเชิญคุณมาเป็นแขกที่บ้าน……”โม่ยี่ไป๋พูดเหตุผลทั่วไปง่าย ๆ อย่างตะกุกตะกัก
“ฉันไม่ว่าง”เซียวชุ่นไม่ได้มีความประทับใจที่ดีกับเธอนักเลยพูดปฏิเสธโดยตรง
พูดจบก็หันกลับแล้วเดินจากไปทันที หลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ได้ยินเสียงโม่ยี่ไป๋กรีดร้องอยู่ด้านหลัง
“ไอ้เย็ดแม่ ไอ้เชี่ย โง่รึไงถึงได้ปฏิเสธ! ฉันพูดกับนายอยู่นะ ไม่ได้ยินหรือไง?!”
หลี่ซ่างจื้อที่ถูกเมินโดยตรง เขาไม่เคยได้รับความอับอายแบบนี้มาก่อน เขาจึงโมโหในทันที
เขาจับผมของโม่ยี่ไป๋ ลากเธอมาอยู่ตรงหน้าตัวเองและพูดด้วยความโกรธ
“ปล่อยนะ!”โม่ยี่ไป๋ร้องด้วยเสียงสะอื้นพลางพยายามดิ้นให้หลุด
เซียวชุ่นบ่นกับตัวเองนิดหน่อย ผู้หญิงคนนี้ช่างเป็นปัญหาจริง ๆ
“ปล่อยเธอ”
“แกอย่ามายุ่งเรื่องของคนอื่น……”หลี่ซ่างจื้อถลึงตามองเขาและพูดอย่างโกรธเคือง จากนั้นเขามองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้าสักพักก็จำเซียวชุ่นได้
เมื่อตอนนั้น ในคฤหาสน์ หลี่ซ่างจื้อเคยเห็นคน ๆ นี้ใช้กำลังล้มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสิบกว่าคนด้วยตัวคนเดียวและเคยเห็นเมิ่งเล่อจื้อเคารพและให้เกียรติเขา ต้องเป็นคนที่มีอำนาจคนนึงแน่ ๆ ขณะนั้นเขาร้อนตัวนิดหน่อย ท่าทีก็อ่อนลงเล็กน้อย
“ฉันสั่งสอนผู้หญิงของฉัน ไม่ใช่เรื่องของแก”
“ไม่ใช่ ฉันเพิ่งรู้จักเขาวันนี้”โม่ยี่ไป๋ส่ายหัวพลางพูดด้วยใบหน้าเศร้าหมอง ในใจยิ่งรู้สึกแย่ ทำไมทุกครั้งเธอถึงปล่อยให้ชายคนนี้เห็นภาพน่าอับอายของเธอกันนะ
“ไปซะ”เซียวชุ่นขมวดคิ้วนิดหน่อยราวกับกำลังตำหนิสั่งสอนหลานชาย
หลี่ซ่างจื้อกลืนน้ำลายอย่างเงียบๆ ถึงเขาจะหยิ่งผยอง เขาก็รู้เหตุผลที่ว่าบุรุษที่แท้จริงต้องรู้จักการไม่ทำให้ตัวเองเสียเปรียบแม้ว่าตอนนี้เซียวชุ่นอยากจะต่อยเขาสักยกจริง ๆ เขาก็ทำอะไรไม่ได้
มือที่จับผมของโม่ยี่ไป๋ออกแรงมากขึ้นทำให้โม่ยี่ไป๋ร้องออกมาด้วยความตกใจ เธอถอยหลังออกไปสองสามก้าวและสะดุดล้มลงบนพื้น
“เชี่ยเอ๊ย ฝากไว้ก่อนเถอะ”
หลี่ซ่างจื้อกัดฟันกรอดและชี้นิ้วด่าเขาด้วยความโกรธ เขาขึ้นรถและขับออกไป
“ไอ้เด็กเซียวชุ่นก็จัดการไม่ได้ ฉันยังจัดการคุณไม่ได้ด้วยรึไง โม่ยี่ไป๋? กล้ามากที่หยอกล้อฉัน!”
ภายในรถ เขาทุบพวงมาลัยสองสามครั้งด้วยความโกรธ
โม่ยี่ไป๋นั่งบนพื้นที่เต็มไปด้วยหิมะที่เย็นเฉียบด้วยความอับอาย เธอฝังหัวไว้ระหว่างสองแขน ในใจรู้สึกแย่อย่างมาก
นัยน์ตาสองข้างซ่อนหยาดน้ำตาเอาไว้ เธอรู้สึกอ่อนแอจนอยากร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ออก
โดยเฉพาะต่อหน้าเซียวชุ่น เธออับอายต่อหน้าเขาหลายต่อหลายครั้ง ในใจเธอรู้สึกสับสนจริง ๆ
“ที่คุณหลอกใช้ฉันเมื่อกี้ ทางที่ดีที่สุดครั้งหน้าอย่ามีเลยดีกว่า”
เซียวชุ่นเอ่ยประโยคนี้อย่างเย็นชาแล้วเดินจากไป
“ไม่มีอีกแน่”
“สุสานของมังกรสามถูกซื้อไว้แล้ว ฉันคิดว่าจะให้ทั้งตระกูลซือคงไปไว้ทุกข์ส่งมังกรสามสักช่วงนึง”
เมื่อได้ยินชื่อมังกรสาม ไม่กี่นาทีเซียวชุ่นสังเกตเห็นสีหน้าของเหยาเสินที่ไม่สู้ดีนักก็รู้ว่าเธอยังไม่ปล่อยวาง
เขาลูบผมของเธอพลางพูดปลอบใจ: ”การตายของมังกรสามไม่ได้เกิดจากคุณและความแค้นของเขาก็ได้ชำระแล้ว ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะนะ ตกลงไหม?”
เหยาเสินพยักหน้าน้อย ๆ ก่อนจะตระหนักได้ทันทีว่าประโยคก่อนหน้าของเซียวชุ่นไม่สมเหตุสมผล เธอมองเขาพลางพูดด้วยใบหน้าที่ประหลาดใจ: “คุณไปปรึกษากับตระกูลซือคง......ให้ตระกูลของพวกเขาไว้ทุกข์ให้มังกรสามของฉันงั้นเหรอ?”
“ใช่ พวกเขาตกลงแล้วด้วย”เซียวชุ่นดันเธอไปนั่งลงที่โซฟา ก่อนจะพูดประเด็นสำคัญ
"คุณยังไม่ได้ทานข้าวเลยใช่ไหม? พ่อกับแม่ก็ไม่อยู่บ้าน พวกเราร่วมมือกันทำสักสองชามดู คุณดูทีวีสักครู่ แป๊ปเดียวก็เสร็จ"
เหยาเสิน:“……”
หมอนี่ยังเป็นคนใช่ไหม? เขาทำได้ยังไงกัน? ตระกูลซือคงกับเขาถือเป็นศัตรูตัวฉกาจ หนึ่งในสี่ตระกูลหลักของเจียงไห่ ดังนั้นการที่จะทำให้พวกเขายอมไว้ทุกข์ให้คนนอกนั้นยากกว่าการฆ่าพวกเขาเสียอีก
เรื่องนี้มันยากที่จะจินตนาการถึง แต่ตอนนี้เซียวชุ่นพูดเรื่องที่คาดไม่ถึงออกมาซึ่งเธอเชื่อก่อนนิดหน่อย ใครบอกเธอว่าชายคนนี้ไม่ใช่คนปกติกัน......
วันนี้งานศพของซือคงซินหรงยกเลิกกะทันหัน คนเจียงไห่สังเกตถึงกลิ่นที่แปลกประหลาดจำนวนหนึ่ง ท้องฟ้าของเจียงไห่ได้เปลี่ยนไปแล้ว
เรื่องใหญ่ที่เกือบทั้งเมืองสนใจจบลงอย่างน่าเศร้า เพียงคืนเดียว ข่าวซุบซิบก็แพร่กระจายไปทั่วถนนทุกสาย
"ได้ยินมาว่าด้านในมีเสียงระเบิดดังออกมา ล่าสุดตระกูลซือคงกับตระกูลซ่งคงตีกันอย่างลับ ๆ ต้องเป็นคนของตระกูลซ่งที่ไปก่อกวนแน่ ๆ ทั้งสองฝ่ายจึงต่อสู้กัน พระเจ้าช่วย ไม่ควรนำระเบิดมือมาใช้นะ"
"ฉันกลับได้ยินมาว่ามีคนใหญ่คนโตไปก่อกวน รบกวนงานศพ แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นคนใหญ่คนโตแบบไหนถึงกล้าเล่นบนหัวตระกูลซือคง"
"ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ในวันที่ดี การยกเลิกเป็นเรื่องไม่มงคลอย่างมาก ตระกูลซือคงไม่ปล่อยไปอย่างแน่นอน"
คนทั่วไปที่ไม่สามารถเข้าร่วมงานได้แพร่ข่าวนี้ที่ยิ่งนานวันยิ่งแปลกขึ้นเรื่อย ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...