เมื่อพวกผู้ใหญ่ที่มีอำนาจในงานเองก็พูดกันอย่างระมัดระวังมากขึ้น ดังนั้นจึงทำให้เรื่องนี้ยิ่งลึกลับและยังทำให้ผู้คนเกิดความสนใจและจินตนาการกันไปไกล
อย่างไรก็ตาม ข่าวนี้ยังไม่ทันทำได้ความเข้าใจ สามวันถัดมา ก็มีข่าวระเบิดอีกครั้งในเจียงไห่ดังขึ้นมาทำให้รู้สึกเยอะจนงง
ทั้งตระกูลซือคงไม่ได้จัดงานศพให้นายท่านซือคง แต่ร่วมไว้ทุกข์ให้งานศพของคนที่ชื่อมังกรสาม!
มังกรสาม ตอนยังมีชีวิตเขาเป็นคนตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่ใช้ชีวิตเอาตัวรอดไปวัน ๆ ในชนชั้นต่ำสุดของสังคม หลังจากตาย ทิวทัศน์ก็เปลี่ยนไปในที่สุด ชาวเมืองเจียงไห่ทุกคนจดจำชื่อนี้ได้ในวันหนึ่ง
จากนั้นมีการเผยแพร่ว่าตระกูลซือคงกำลังขายทรัพย์สิน,หุ้น,ที่อยู่อาศัยและอื่น ๆ ในราคาต่ำกว่าราคาตลาดโดยเร่งด่วน!
เพียงครู่เดียว ตลาดทุนเล็ก ๆ ของเจียงไห่ก็เดือดขึ้นมา
คืนที่สาม
ซือคงเจี๋ย ผู้นำตระกูลคนใหม่ของตระกูลซือคงผูกคอตายในห้องโถงบรรพบุรุษ!
เช้าวันถัดมา ทั้งตระกูลซือคงได้ถอนตัวออกจากเมืองไปแล้วในเวลาชั่วข้ามคืนราวกับไม่เคยมีอยู่มาก่อน
ในคลื่นกระแสของประวัติศาสตร์ ตระกูลซือคงเป็นเพียงมหาสมุทรเล็ก ๆ อย่างไรก็ตาม ในเจียงไห่ มันคือตระกูลมหาอำนาจที่อยู่มานานนับร้อยปีโดยไม่เสื่อมถอย ชื่อเสียงที่โด่งดังและความยิ่งใหญ่ของอำนาจล้วนทิ้งรอยหมึกสีเข้มเอาไว้ในใจของชาวเจียงไห่
โลกไม่เที่ยง ใครเล่าจะสามารถรู้ว่าเพียงแค่สามวัน ตระกูลมหาอำนาจที่อยู่มานานนับร้อยปีที่แสนจะรุ่งเรืองจะถอนตัวออกจากที่นี่ไปอย่างน่าเศร้า
เวลาจะเยียวยาทุกสิ่ง
ในที่สุดข่าวเกี่ยวกับตระกูลซือคงก็เริ่มถูกผู้คนลืมเลือนไป หลังจากที่พูดกันอย่างดุเดือดเกินครึ่งเดือนกว่า
ท้ายที่สุดชีวิตก็ยังต้องดำเนินต่อไป ฟืน ข้าว น้ำมัน เกลือ กินข้าวและใส่เสื้อผ้าเท่านี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับคนส่วนใหญ่ที่ทำงานหนัก การออกไปจากที่นี่ของตระกูลที่ร่ำรวยดูเหมือนจะไม่สร้างความแตกต่างมากมายให้กับผู้คนส่วนใหญ่
ทรัพย์สินของตระกูลซือคงถูกแบ่งให้ตระกูลอื่นที่มีอำนาจ ซ่งชิงโจเองก็ไม่ลังเล คว้าเอาหุ้น 25% ของจินสีกรุ๊ป บ้านบรรพบุรุษของตระกูลซือคงและอสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ อีกหลายอย่างมาในคราเดียว
สำหรับพันธมิตรที่เจิ้งหยุนเห้อสร้างขึ้นมาต่อต้านตระกูลซ่งก็ยุบลงโดยสมบูรณ์ แม้ว่าจะไม่มีการถอนตัวออกไปของตระกูลซือคง เมื่อซ่งชิงโจกลับมา อิทธิพลของตัวแทนที่อยู่เบื้องหลังของเขาก็เพียงพอที่จะทำลายพวกเขา
เจียงไห่กลับคืนสู่ความสงบ
ในสำนักงานของเซียวชุ่น สตาร์ไลท์บีโอ
ซ่งชิงโจหลังจากจัดการขั้นตอนทุกอย่างของบ้านบรรพบุรุษตระกูลซือคงเสร็จก็เอาใส่ซองเอกสารแล้วให้เซียวชุ่น
“ราคาเท่าไหร่?เดี๋ยวฉันจะโอนให้คุณ”เซียวชุ่นเปิดซองเอกสารพลางยิ้มตาหยีและเอ่ยถาม
“อ้อ 540ล้าน”ซ่งชิงโจพูดเบา ๆ
แค่ก แค่ก!
เซียวชุ่นหลังจากได้ยินราคาก็ไอสองครั้ง ตอนนี้ทั้งตัวเขาก็มีแค่400ล้านกว่า เขาอึกอักชั่วครู่
“หนุ่มน้อยไม่มีกระเป๋าตังค์เหรอ? ไม่มีปัญหานะถ้าจะต่อรองราคา”ในสายตาของซ่งชิงโจเซียวชุ่นยังเป็นรุ่นน้องคนหนึ่ง สำหรับเขากลับไม่ได้น่าเกรงขามหมือนคนอื่น ๆ เขายิ้มพลางพูดล้อเลียน
“ฉันมีเงิน แต่ต้องรอสองสามวัน”เซียวชุ่นกุมขมับพร้อมพูด
“พอละ ฉันล้อคุณเล่น เงินนี่ไม่ต้องรีบหรอก คุณให้ฉันเมื่อไหร่ก็ได้ทั้งนั้น ฉันซื้อหุ้นของตระกูลซือคงและยังมีอสังหาริมทรัพย์อีกหลายแห่งในราคาต่ำ ประหยัดเงินไปได้ประมาณ200ล้านเลย”ซ่งชิงโจยิ้มพลางพูดอย่างมีความสุข
เซียวชุ่นยกนิ้วโป้ง: ”คุณอาซ่ง สุดยอดมาก”
“งั้นถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ฉันไปก่อนนะ ทางฉันยังมีเรื่องยุ่งมากมาย”ซ่งชิงโจกล่าว
“ไม่มีแล้ว เดี๋ยวฉันไปส่ง”
เซียวชุ่นลุกขึ้นและเดินออกจากโต๊ะสำนักงาน เขาเดินพลางพูด: “คุณอาซ่งกลับไปบอกหลิงเอ๋อร์หน่อยว่าตอนเย็นให้เธอมาหาฉันสักหน่อย.....”
“ไม่ได้!”เซียวชุ่นพูดไม่ทันจบ
ซ่งชิงโจบอกปฏิเสธทันที: “มีเรื่องอะไรถึงพบกันตอนเช้าไม่ได้? หรือคุณมีอะไรก็บอกกับฉันโดยตรงได้นะ สิ่งที่เธอทำได้ ฉันก็ทำได้”
“คือว่า......คุณอาซ่ง ฉันไม่ได้หมายความอย่างอื่นเลย ฉันแค่จะพาเธอไปเปิดประสบการณ์ซึ่งตอนเช้ามันไม่สะดวก”
เซียวชุ่นลากเธอด้วยมือข้างหนึ่งและเดินไปข้างหน้าเพื่อเปิดประตู
เสียงแอ๊ดดังขึ้นพร้อมประตูที่เปิดออก ถนนชิงฉืออันกว้างเส้นหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้า ลานกว้างขนาดใหญ่ อาคารที่ซ่อนอยู่ในความมืดมิดยามค่ำคืนดูชั่วร้ายเป็นพิเศษอย่างเห็นได้ชัด
หงส์แดงเป็นนักฆ่าที่ฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา โดยปกติแล้วเธอไม่เชื่อในเรื่องผี แต่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ก็อดกังวลไม่ได้
เซียวชุ่นเดินไปข้างหน้าอย่างสบาย ๆ
เขาสามารถเข้าถึงประสาทสัมผัสทั้งห้าได้ แม้ว่าจะอยู่ในความมืด เขาก็มองเห็นสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างชัดเจน
หงส์แดงหยิบปืนไรเฟิลของเธอที่อยู่ข้างหลัง ลูกกระสุนในปืนได้รับสลักลายทิพย์แบบพิเศษจากเซียวชุ่น ซ่งหลิงเอ๋อร์ก็มองซ้ายมองขวาอย่างกลัว ๆ เธอเดินตามติดอย่างระมัดระวังอยู่ด้านหลังสุด
โดยทั่วไปแล้ว เซียวชุ่นอ่อนไหวกับสิ่งที่เกี่ยวกับชี่ทิพย์อย่างมาก แม้ว่าบ้านบรรพบุรุษตระกูลซือคงจะใหญ่พอสมควร ก็ไม่ถึงขนาดรับรู้ลมหายใจเล็กน้อยไม่ได้เลย
ทั้งสามคนเดินไปรอบ ๆ อย่างไร้จุดหมายอยู่หน้าลานบ้าน แต่ก็ไม่ได้อะไรเลย
พวกเขาจึงเดินจากทางเดินยาว ๆ ผ่านประตูพระจันทร์สองบานจนถึงสวนหลังบ้าน
ที่นี่ คือ สถานที่ที่ครอบครัวตระกูลซือคงอยู่ในวันธรรมดา ในเวลานี้ไม่มีใครอยู่แม้แต่คนเดียว ดูรกร้างเป็นพิเศษอย่างเห็นได้ชัด
“ท่านอาจารย์ คุณมาหาอะไรกันแน่? ที่นี่เป็นบ้านของคุณแล้ว หลังจากนี้ก็ยังมีเวลาอีก พวกเราดูฤกษ์ดีแล้วตอนเช้าค่อยมาอีกรอบดีกว่า ตกลงไหม?”
ซ่งหลิงเอ๋อร์มองรอบ ๆ และพูดเสียงเบา
เซียวชุ่นเคาะหัวเล็ก ๆ ของเธอ: “ถ้าพูดมากอีก ฉันจะจับคุณแขวนบนต้นไม้”
ซ่งหลิงเอ๋อร์แลบลิ้นและไม่พูดอีก
ทั้งสามเดินวนไปรอบ ๆ สวนหลังบ้านเป็นวงกลม แต่ยังไม่พบอะไรเลยแม้แต่น้อย
เซียวชุ่นอดไม่ได้ที่จะสงสัย หรือฉันตัดสินใจผิดไป เป็นไปไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...