มองแล้วก็ไม่อยากจะเชื่อ รอยยิ้มของโค่วโม่ชูได้หยุดคาหน้าทันที
เป็นไปไม่ได้!
เจ้าลูกเขยไร้ประโยชน์นี่จะไปรู้จักกับจักรพรรดิของเมืองเจียงไห่ได้ยังไงกัน——หัวหน้าสมาคมชิงจุน!
อีกทั้งท่านจวงจินมองดูแล้วยังเคารพเขาอย่างงั้น มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน?
คนที่มีความคิดแบบนี้นั้นไม่เพียงแต่มีเขาแค่คนเดียว ผู้คนในที่นี้ต่างก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์นี้ โค่วโม่ชูเรียกให้มาช่วยแต่กลับว่าไปนั่งกับฝั่งตรงข้ามสะแล้ว
โจวฉู่แต่ละคนที่ต่างกันมองหน้ากัน ทุกคนต่างงุนงง
“เจ้าสมาคมจวง นี่หมายความว่ายังไงกัน?”โค่วโม่ชูเอ่ยถาม
“นี่ความหมายมันยังไม่ชัดเจนหรือยังไง?” จวงจินเอ่ยอย่างสีหน้าไม่แสดงอารมณ์
จวงจินหรือจะมองอะไรหนักเบาแบบนี้ไม่ออก?
ตอนนี้เซียวชุ่นนั้นได้เป็นเจ้าสำนักของสำนักบู๊ในเมืองหนิงโจว ส่วนจินหลินกรุ๊ปนั้นเป็นแค่บริษัทที่อาศัยอำนาจของสำนักบู๊ แต่ว่าเซียวชุ่นนั้นเป็นคนที่คอยดูแลกุมอำนาจของสำนักบู๊ทั้งหมดในเมืองหนิงโจว เรื่องหนักเบาอะไรแค่นี้เขาหรือแยกแยะไม่ออก?
“เจ้ายังมีคนอีกมั้ย?หากไม่มีล่ะก็ ตอนนี้ก็ถึงตาผมแล้ว ผมไม่จำเป็นที่จะต้องเรียกคนมาหรอกนะ” เซียวชุ่นเอ่ยเรียบๆ
“ไม่จำเป็นต้องให้คุณเซียวลงมือหรอก ว่าวันนี้ไม่สามารถที่จะทำให้คุณเซียวพอใจได้ เขาก็อย่าหวังที่จะได้ออกไปจากที่นี่เลย!”จวงจินเอ่ยด้วยสีหน้าที่บูดบึ้งออกมา
ในตอนนี้โค่วโม่ชูได้เกิดความกลัวจริงๆแล้ว ในตอนนี้จวงจินนั้นได้พาชายชุดดำมาราวๆกว่าร้อยคน ในเจียงไห่นั้นเขามีเส้นสายไม่มากนัด อีกทั้งตอนนี้ ใครจะมาสู้กับจักรพรรดิของเมืองเจียงไห่จวงจินได้?
กลัว โค่วโม่ชูเกิดความกลัว
ตั้งแต่เกิดมาจนโตขนาดนี้เขานั้นไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน หมดหนทางจนไม่รู้จะทำยังไง
ทันใดนั้นก็มีความรู้สึกปวดหัวที่หมดหนทางจะช่วยเหลือ
คิดไปคิดมา คนที่จะสามารถช่วยเขาได้นั้นคงจะมีแค่พ่อของเขาโค่วเจิ้งชิง
ปกติเขานั้นจะเย่อหยิ่งมาก นั่นก็เพราะพ่อของเขา เรื่องแบบนี้เขารู้ดีว่าหากจะด่าตัวเองก็คงทำไม่ได้ งั้นจะทำยังไง? คงจะให้เสียทั้งสองขาไปคงจะไม่ได้ วันนี้น่าจะแพ้แล้ว
โค่วโม่ชูนั้นได้ลองกดโทรศัพท์อีกครั้ง เพื่อที่จะโทรไปหาโค่วเจิ้งชิง
“โค่วชู ดึกขนาดนี้แล้วโทรมามีอะไรกันหรือ?”ฝั่งตรงข้ามเสียงของโค่วเจิ้งชิงนั้นแหบพร่า ในช่วงเวลานี้ เขาควรจะนอนไปแล้ว
“พ่อ มาช่วยผมที ตอนนี้ผมโดนคนรุมล้อมอยู่ที่เมืองเจียงไห่” โค่วโม่ชูเอ่ยอย่างใจร้อน กังวลจนแทบอยากจะร้องไห้
“ลูกพูดว่ายังไงนะ?เจ้าบ้านี่ ไม่มีอะไรทำแล้วไปที่เจียงไห่ทำไม?” โค่วเจิ้งชิงปวดหัว และเสียงดังขึ้นมานิดหน่อย
ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น เขานั้นก็รู้จักลูกชายของเขาดี
เพราะเขานั้นเป็นถึงลูกชายของประธานบริษัทจินหลิง กรุ๊ป ดวงตาของเข้านั้นใฝ่สูง เพราะหากไม่เจอสถานการณ์ที่เลวร้ายจริงๆ เขานั้นไม่มีทางที่จะเอ่ยเสียงเบาๆกับเขา ฟังจากน้ำเสียงแล้วเขาน่าจะหวาดกลัวจริงๆ
“ไม่พูดเรื่องนี้ก่อนได้มั้ย?พ่อ รีบหาวิธีมาช่วยผมก่อน!”
“ฝั่งตรงข้ามอยากได้อะไร?เขาจะทำอะไร?”
น้ำเสียงของโค่วเจิ้งชิงนั้นเต็มไปด้วยน้ำเสียงที่มีแต่ความอาฆาต
ถึงแม้ว่าโค่วโม่ชูจะไม่ได้เรื่อง แต่ว่ายังไงวะเขานั้นก็คือลูกชายของโค่วเจิ้งชิง
“ไม่คิดว่าในเมืองเจียงไห่เล็กๆนั้นยังจะมีใครกล้ามาแตะต้องลูกขายของโค่วเจิ้งชิงอีกหรอ? แลท่าจะบ้าไปแล้ว เอาโทรศัพท์ยื่นให้เขาไปสิ!”
โค่วโม่ชูนั้นได้ใช่ความกล้าในการเดินไปยื่นโทรศัพท์ให้เซียวชุ่น“พ่อของฉันมีเรื่องอยากจะพูดกับคุณหน่อย”
เซียวชุ่นหันไปมองก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ เปิดลำโพงแล้วเอาไปวางบนเวที
เขาเอ่ยอย่างไม่เกรงกลัว“ผมคือเซียวชุ่น ลูกชายของคุณใช้อำนาจของคุณโค่วเจิ้งชิงเอาในการดูถูก เหยียดหยามรังแกคนอื่น วันนี้ผมอยากจะยักขาสองข้างของเขาไว้ที่นี่ คุณมีอะไรอยากจะพูดก็พูดมาเถอะ”
ไม่อยากจะเชื่อว่านอกจากที่โค่วเจิ้งชิงจะเอ่ยถึงโค่วโม่ชู เพราะนอกจากเซียวชุ่นแล้ว กลัวว่าคนที่ได้ยินนั้น ไม่มีใครอยากจะเชื่อว่าคำพูดนี้จะพูดออกมาจากปากของโค่วเจิ้งชิงเอง
อีกทั้งโทรศัพท์ยังเป็นโค่วโม่ชูโทรไปเองอีก เสียงนั้นแน่นอนว่าไม่มีปลอมแน่ๆ ไม่งั้นโค่วโม่ชูกับพรรคพวกของเขาก็คงไม่อยากจะเชื่อ
แต่เพื่อนของเขาที่ร่ำรวยนั้นต่างก็สติหลุดไปหมด แต่ละคนนั้นแทบจะไม่มีแรงยืนหยัด
คนที่รู้สึกไม่ดีก็ยังมีโจวฉู่อีกคน นี่คือลูกเขยที่ใครๆเขาก็รังแกกันจริงๆหรอ?
จวงจิน สมาคมชิงจุนขอเคารพ แม้แต่ประธานกรรมการของจินหลิงกรุ๊ป โค่วเจิ้งชูยังต้องเชื่อฟังเขา
เขานั้นสามารถที่จะควบคุมคนได้หมด หากจะลองตีหัวหมาของตัวเองดูแล้วยังคิดไม่ออกเลยว่าเขานั้นเป็นคนยังไงกันแน่?
“คุณเป็นใครกันแน่?”
โค่วโม่ชูหันหน้ามามอง สองตาเปลี่ยนเป็นสีแดง ก่อนที่สายตาที่เคียดแค้นราวกับสัตว์ร้ายที่มิอาจจะควบคุมได้มองไปที่เซียวชุ่น
ตีเขาให้ตายเขาก็ไม่อยากจะเชื่อว่าลูกเขยคนนี้จะมีพลังอำนาจล้นฟ้า อีกทั้งยังสามารถบังคับให้พ่อของเขานั้นก้มหัวเชื่อฟังอีก
“คุณชายโค่ว คุณเล่นพอหรือยัง?” จวงจินเอ่ยด้วยสีหน้านิ่งเรียบ
ตุ๊บ!
ในที่สุดโค่วโม่ชูก็ระเบิดออกมา ก่อนที่จะคุกเข่าไป ในที่สุดเขาก็ยอมรับว่าเขาก็แค่เป็นเด็กร่ำรวยที่วันๆเอาแต่เที่ยวเล่น ไม่ใช่ชายที่เข้มแข็งอะไร
“พี่เซียว……ท่านประธานเซียว ผมผิดไปแล้ว คุณให้อภัยผมเถอะนะ ผมขอให้คุณให้อภัยผมสักครั้งเถอะ!”
เขาราวกับว่าคิดออกแล้วว่าควรทำอะไร ก่อนที่จะหันไปทางหลินเจียอินแล้วเอ่ย “เป็นเพราะผู้หญิงคนนั้น เลยทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ ผมไม่ได้มีอะไรกับคุณนะ เป็นเพราะความผิดของเธอคนนั้นเลยทำให้ผมไม่ได้เคารพคุณ ขอให้ท่านไว้ชีวิตผมด้วยเถอะ หลังจากนี้ผมจะฟังคุณ”
หลังจากลุกขึ้นเขานั้นรีบวิ่งเข้าไปที่ด้านหน้าของหลินเจียอิน ก่อนที่จะใช้มือหยิบไปที่ผมของเธอ และลากเธอมาที่ข้างหน้าของเซียวชุ่น ก่อนที่จะเอ่ยราวกับจะร้องไห้ “พี่เซียว ผู้หญิงคนนี้ผมให้พี่ แล้วแต่พี่จะจัดการเลย คุณต้องเชื่อผมนะ เป็นเพราะเขายุผม นี่มันไม่เกี่ยวอะไรกับผมเลยจริงๆ”
หลินเจียอินเอ่ยร้องอย่างเจ็บปวดและพยายามดิ้นไปมาอย่างน่าสงสาร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...