เหยาเสินหันหลังกลับ ก่อนที่จะคิดแหละเหลือบมองไปที่พื้น กับพบกับความว่างเปล่า ทันใดนั้นภายในใจก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้น
ตั้งแต่แต่งงานกันมาจนถึงตอนนี้ สามปีแล้ว ที่เซียวชุ่นเอาแต่นอนอยู่ที่นั่น ตอนที่เขาอยู่กลับไม่รู้สึกอะไร อีกทั้งยังรู้สึกเกะกะอีกด้วย
ตอนนี้ที่เขาไม่อยู่ กลับรู้สึกแปลกๆหดหู่ใจอย่างบอกไม่ถูก ราวกับเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง ที่ทำให้เธอไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
เธอเอามือคลำไปใต้หมอนเพื่อหาโทรศัพท์ก่อนจะมอง ตอนนี้ก็เที่ยงกว่าแล้ว
แล้วก็ไม่รู้ว่าจะบ้านั่นไปไหนแล้ว? ครึ่งวันแล้วยังไม่โทรมาหาอีก
ไม่รู้ว่าจะประสบอุบัติเหตุหรือไปเจอคนไม่ดีหรือเปล่าก็ไม่รู้?
เขานั้นเป็นผู้ชายที่ตัวใหญ่ อีกทั้งยังต่อสู้เก่งอีก หากเจอคนไม่ดีล่ะก็...ไม่ว่าจะเจออะไรยังไงก็ควรจะโทรมารายงานบ้าง
ช่างมันเถอะ จะไปยุ่งกับเขาทำไม ตายไปข้างนอกนั่นแหละดีแล้ว
เกิดความคิดมากมายภายในหัวของเขา ก่อนที่เหยาเสินดึงผ้าห่มมาคลุมหัว ในชั่วขณะนั้นเธอก็ได้รีบดีดตัวลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว ก่อนจะอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
ทำไมในใจมันถึงได้วุ่นวายขนาดนี้?
เธอแหงนมองงงๆไปที่นอนที่เซียวชุ่นเคยนอนเมื่อก่อน
เจ้าบ้านี่มันจะมากเกินไปแล้ว อีกทั้งยังกล้าที่จะไม่กลับมาที่บ้านอีก จะกล้าไปมากแล้วนะ! ไม่อย่างงั้นหรือจะโทรหาดี…
เขาจะคิดว่าเราตามเขากลับบ้านหรือเปล่านะ? น่าจะไม่มีอะไรหรอกมั้ง? ยังไงสะฉันกับเขาก็เป็นสามีภรรยากันไม่ใช่หรอ?
เมื่อพูดกับตัวเองเสร็จแล้ว เธอก็ถอนหายใจออกมาอย่างแรง ก่อนที่กดโทรหาเซียวชุ่น
ไม่นานนักเสียงเซียวชุ่นทางนู้นได้ตอบกลับมา และนี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่าเสียงนี้ช่างมีความดึงดูดสะเหลือเกิน ที่ทำให้เธอนั้นรู้สึกสบายใจขึ้นมา
“คุณอยู่ที่ไหน?”เหยาเสินเอ่ยถามขึ้น
“อ้อ อยู่ข้างนอกน่ะ ใกล้จะกลับแล้ว มีอะไรหรอ?”
“เอ่อ……ไม่มีอะไร……แค่รู้สึกเหนื่อยๆนะ ฉันรู้สึกว่ารอบก่อนที่คุณฝังเข็มให้ฉันรอบก่อนมันไม่เลวเลยนะ เลยรออยากจะให้คุณมาช่วยฝังเข็มให้ฉันหน่อยอีกสักสองเข็ม”เธอถามด้วยความตะกุกตะกัก
เซียวชุ่นหันโทรศัพท์มาไว้ด้านหน้า ก่อนที่จะมองไปที่นาฬิกาแวบหนึ่ง“ดึกขนาดนี้แล้ว คุณนอนไปก่อนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมค่อยฝังเข็มให้คุณนะ”
เหยาเสิน“ถ้าอย่างงั้นก็ได้ อย่างงั้นคุณ……”
“ผมวางสายก่อนนะ รถแท็กซี่มาแล้วนะ”
เหยาเสินมองไปที่โทรศัพท์ที่หน้าจอถูกกดตัดสายด้วยความไม่พอใจ
เจ้าบ้านี่สรุปเขารู้ไหมนะว่าเขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่!
เธอล้มลงไปนอน ก่อนที่จะห่มผ้าห่ม และแตะผ้าห่มไปสองสามทีด้วยความโกรธแค้น
เซียวชุ่นกลับบ้านมาก็ตีหนึ่งแล้ว ก่อนที่เขาจะค่อยๆห่มผ้าห่มอย่างระมัดระวัง
เหยาเสินเดิมทีแล้ววางแผนที่จะแกล้งนอนหลับ เพื่อไม่ให้เขาคิดว่าเธอกำลังรอเขากลับมา แต่ทว่าเมื่อมองเห็นท่าทางเดินย่องๆราวกับผี เธอก็อดไม่ได้ที่จะทั้งโกรธและขำ และอดไม่ได้ที่จะเอ่ย“ทำไมคุณถึงกลับมาดึกขนาดนี้หละ?”
เซียวชุ่นตกใจเกือบตาย ก่อนจะเอ่ย“ผู้อำนวยการโจววันนี้มีคนไข้โรคประหลาดหายากคนหนึ่ง เขาขอให้ผมช่วยไปดูให้หน่อยนะ
เลยล่าช้าไปหน่อย แล้วทำไมดึกขนาดนี้คุณถึงไม่นอนล่ะ”
“ก็ช่วงนี้มันนอนไม่ค่อยหลับ เลยอยากจะรอให้คุณมาช่วยฝังเข็มให้หน่อย”
เหยาเสินพูดอย่างไม่มั่นใจ แต่โชคดีที่เซียวชุ่นไม่ได้รบกวนเธอ ที่กลับมาถึงก็ไม่ได้เปิดไฟ ไม่อย่างงั้นคงจะได้เห็นหน้าเขินอายสีแดงของเธอ
“จริงๆแล้วคุณไม่ต้องฝังเข็มก็ได้นะ แค่ผมนวดให้คุณสักหน่อยก็ยังดี”
“ถ้าอย่างงั้นคุณก็นวดให้ฉันสักหน่อยก็แล้วกัน?”เหยาเสินพูดลังเล
“ง่วงแล้ว พรุ่งนี้ก็แล้วกัน”เซียวชุ่นพูดจบก็ล้มตัวลงนอนข้างๆ เมื่อหัวถึงหมอน เปลือกตาของเขาก็เริ่มต่อสู้กัน และพูดด้วยความเหนื่อยล้าเกียจคร้าน
“อ้อ ผมอยากจะโอนสักสิบล้าน โอนข้างนอกคงจะไม่ได้”เซียวชุ่นพูดอย่างเคร่งขรึม
เมื่อพูดดังนั้น ผู้คนรอบข้างๆก็ค่อยๆหันหน้ามามองเขา
ผู้จัดการหญิงชื่อว่าฟางเชี่ยนนั้นที่มีรูปร่างสวยงามเป็นอย่างมาก
ฟางเชี่ยนตกตะลึงครู่หนึ่ง ก่อนจะมองขึ้นลงไปที่เซียวชุ่น ที่แต่งตัวมาธรรมดาและเชยเป็นอย่างมาก และภายในใจอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะอิดสะเอียน
เธอทำงานอยู่ที่นี่ตลอด ในทุกๆวันมีผู้คนเข้ามามากมาย จะมีคนแบบไหนหรอที่เธอไม่เคยเจอ?
แต่ว่าคนที่ชอบทำตัวหลอกลวงอะไรแบบนี้ เพิ่งจะเคยเจอครั้งแรก ถ้าหากเขานั้นมีสิบล้านจริงล่ะก็ คงจะไปที่ที่ห้องรับรองของแผนกVIPแล้วแหละ มีหรือจะมาที่นี่เพื่อกดบัตรคิว
ฟางเชี่ยนรู้สึกขยะแขยง
ผู้ชายแบบนี้เธอเจอมาเยอะและ คงเพราะเห็นว่าเธอสวย ส่วนมากก็จะเป็นพวกคนใจใหญ่ไร้ความสามารถ ดีแต่ปากเก่งพูดหยอกล้อเธอ แม่แต้มองหน้าเธอไม่กี่วินาที พวกเขาก็รู้สึกเหมือนได้กำไรแล้ว พอเธอมาคิดๆก็รู้สึกอุบาทว์น่าขยะแขยง
เธอพูดด้วยสีหน้านิ่ง“คุณค่ะ อันนี้มันไม่ตลกเลยนะ”
“งั้นคุณคิดว่าผมเล่นตลกหรอ?”เซียวชุ่นพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“ฉันมองดูแล้วคิดว่าใช่นะ”
ทันใดนั้นก็มีเสียงส่งมาจากข้างหลังเธอ เมื่อหันหลังไปก็พบกับฮู๋เสว๋ซงและไป๋เคอ
ในตอนนี้ฮู๋เสว่ซงได้ใส่ชุดสูทสีเทา ที่เดินโอบกอดเอวบางๆของไป๋เคอเดินมามองที่เขา ก่อนที่จะส่งรอยยิ้มทะเล้นออกมา
“เซียวชุ่น รอบก่อนที่แกล้งแสดงทำตัวเป็นคนจนในงานนิทรรศการก็ว่าจะช่างมัน แต่ตอนนี้กลับมาเสแสร้งถึงที่ธนาคารเลยหรอ?”
รอบก่อนที่งานแสดง เซี่ยวชุ่นก็ทำให้ฮู๋เสว่ซงและไป๋เคอนั้นกลายเป็นฉากหลังของงานไปสะงั้น ซึ่งเรื่องนี้เองนั้นไป๋เคอไม่เคยลืมลง
ไม่คิดเลยว่าเจ้าคนไม่มีประโยชน์จะเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้ เมื่อฟังหลายๆคนพูด ที่แท้เจ้าเซียวชุ่นคนไร้ประโยชน์นั้นมันก็คือคนที่เกาะกินและอยู่อาศัยกับคนของตระกูลเหยา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...