เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊ นิยาย บท 81

ซ่งหลิงเอ๋อร์รู้สึกไม่สะใจเลยสักนิด สองคนนี้สู้ไม่ได้แม้กระทั่งนักเลงข้างถนนพวกนั้น

“แบบนี้ยังเลียนแบบคนอื่นจีบสาว? ไอ้สวะ !”

ซ่งหลิงเอ๋อร์ส่ายหน้าแล้วเอ่ย

“ตกลงว่าพวกแกจะไปไหม ? ไม่ก็รีบไสหัวไป!”

คราวนี้มีผู้อาวุโสผมสีขาวค่อนหัว สายตาดุจเหยี่ยวคนหนึ่งเดินมา ด้านบนสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ด้านล่างสวมกางเกงลำลองสีดำที่ตรงดิ่ง ท่าทีกระปรี้กระเปร่า ใบหน้าซูบผอมมีชีวิตชีวา

ผู้ที่มาก็คือซู่ยิ่น ส่วนคนที่นั่งอยู่ด้านหลังบน Big Gสีดำคันใหญ่ก็คือซือคงเฉิน

เนื่องจากถนนที่นี่คับแคบ รถข้างหน้าไม่ไป พวกเขาก็ไปไม่ได้

พอชายชราผมขาวยืนอยู่ที่นี่ ซ่งหลิงเอ๋อร์รู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่ทรงพลังวนอยู่บริเวณรอบ ๆ ในทันที อดไม่ได้ที่จะใจเต้น

นี่ก็คือยอดฝีมือที่เล่าลือกันสินะ ?

ลองหมัดชีเสวียนที่อาจารย์สอนให้ฉันได้พอดีเลย !

ซ่งหลิงเอ๋อร์เป็นลูกวัวเพิ่งเกิดไม่กลัวเสือ อยากลองขึ้นไปขอคำแนะนำสักรอบไว ๆ กลับถูกเซียวชุ่นเรียกไว้ : “หลิงเอ๋อร์ ปล่อยพวกเขาไปเถอะ ขึ้นรถ”

ดวงตาอันฉับไวของซ่งหลิงเอ๋อร์กวาดสายตามองชายชราผมขาวสองสามรอบ พลันทำปากมุ่ย แล้วขึ้นรถไปอย่างไม่เต็มใจนัก

หวางข่ายเจี๋ยในเวลานี้รีบไปประคองชายออฟโรดขึ้นกลับไปบนรถแล้ว

ในที่สุดถนนก็กลับคืนสู่สภาพปลอดโปร่ง

“อาจารย์ ชายชราคนนั้นเมื่อครู่น่าจะเป็นยอดฝีมือ ทำไมอาจารย์ไม่ให้ฉันลองแข่งกับเขาล่ะ ? กลัวฉันจะสู้เขาไม่ได้แล้วจะเสียเปรียบเอาหรือเปล่า ?”

หลังซ่งหลิงเอ๋อร์กลับขึ้นบนรถก็เอ่ยถาม ใจคิดว่าอาจารย์รักเธอมากอย่างแน่นอน

“สู้ที่นี่ ซ้ำยังไม่มีเงิน จะเปลืองแรงไปทำไม” เซียวชุ่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

ซ่งหลิงเอ๋อร์เหมือนลูกบอลยางที่ลมรั่วในทันที ส่งเสียง “อ้อ” เบา ๆ

เซียวชุ่นก็สังเกตได้ถึงกลิ่นอายที่กระจายออกมาจากร่างกายของผู้อาวุโสคนนั้น ทว่ากลิ่นอายไม่เหมือนกับผู้ที่บำเพ็ญตบะ น่าจะเป็นกำลังภายในของผู้ที่ฝึกบู๊ที่พูดติดปากกันล่ะมั้ง

แม้ว่าทั้งสองล้วนยกระดับสมรรถนะทุกด้านของร่างกายผ่านการฝึกฝนชี่ กลับไม่ใช่เส้นทางเดียวกันโดยสิ้นเชิง

หากต้องสู้จริง ซ่งหลิงเอ๋อร์ก็อาจจะยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้อาวุโสคนนั้น แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา เหมือนอย่างที่เซียวชุ่นว่า สู้ที่นี่ ซ้ำยังไม่มีเงิน การต่อสู้ที่ไร้ความหมายหลีกเลี่ยงได้ก็หลีกเลี่ยงเถอะ

บนรถBig G

ซู่ยิ่นเอ่ยอย่างทอดถอน : “ในหมู่คนทั่วไปช่างเป็นเสือหมอบมังกรซ่อน ฝีมือของแม่หนูคนนั้นเมื่อครู่ไม่แน่ว่าจะอยู่ต่ำกว่าฉัน”

“จะเป็นไปได้ยังไง” ซือคงเฉินส่งเสียงหัวเราะเยาะ

ซือคงเฉินโอ้อวดความสามารถของตนเองว่าเป็นอัจฉริยะที่พบได้ยากในร้อยปี แม่หนูเมื่อครู่อายุแค่ยี่สิบต้น ๆ

หากเป็นจริงอย่างที่ซู่ยิ่นว่า ฝีมือของเธอในตอนนี้ไม่ได้อยู่ต่ำกว่าซู่ยิ่นอีกต่อไป เช่นนั้นความสามารถของแม่หนูคนเมื่อครู่คนนั้นก็น่าจะไม่ได้อยู่ต่ำกว่าซือคงเฉินเช่นกัน

นี่จะเป็นไปได้ยังไงล่ะ ?

หากมีบุคคลระดับนี้ สมาคมบู๊โบราณน่าจะสังเกตเห็นเธอตั้งนานแล้ว

ก็เหมือนกับตนเองเมื่อปีนั้น หกเจ็ดขวบก็ถูกขุดค้น จากนั้นถูกอาจารย์พาเข้าไปฝึกอบรมที่สมาคม แต่ผู้ที่มีความสามารถพิเศษทั้งหมดนั้นยากที่จะซ่อนเอาไว้ได้

เขารู้ว่าแต่ไหนแต่ไรซู่ยิ่นไม่พอใจตนเองอยู่บ้าง เกรงว่าเป็นเพียงการจงใจพูดเพื่อให้ตกใจกลัวเพียงเท่านั้น

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ถึงแม้แม่หนูคนนั้นไม่ได้อยู่ต่ำกว่าซู่ยิ่นแล้วจะยังไง ต้องรู้ไว้ว่านักบู๊ขั้นแปดกับนักบู๊ขั้นหกแม้จะแตกต่างกันเพียงสองขั้น ก็มีความแตกต่างราวฟ้ากับเหว

“เอาแบบนี้แล้วกัน ที่นี่ก็มีกฎระเบียบของที่นี่ นี่ก็จนปัญญา ทว่าฉันกับเหลียงฮั่นมีอยู่กันคนละห้อง พวกเราเบียดเสียดกันหน่อยได้ พวกเธอสามคนก็รวมกลุ่มอยู่กันในหนึ่งห้องได้ อย่างไรเสียก็เวลาแค่สองวัน พริบตาเดียวก็ผ่านไปแล้ว” โฮ๋เฉิงเหอ เอ่ย

บิ๊กบอสโลกธุรกิจแบบนี้อย่างโฮ๋เฉิงเหอก็จนปัญญาจะขอห้อง ดูท่ากฎระเบียบที่นี่จะประนีประนอมกันไม่ได้เลยจริง ๆ

ทั้งสามคนต่างเหลือบมองกัน เซียวชุ่นเอ่ย : “ดูท่าแล้วก็คงเป็นได้เช่นนี้แหละ เช่นนั้นขอบใจประธานโฮ๋มาก”

“ยังต้องเกรงอกเกรงใจฉันขนาดนี้ไปทำไม ไปกัน” โฮ๋เฉิงเหอพูดด้วยความเบิกบานใจ

คนหนึ่งกลุ่มกลับไปที่โรงแรมใหม่อีกครั้ง ห้องของโฮ๋เฉิงเหอมีอยู่สองห้องคือ 603 604 จึงยกห้อง 603 ให้พวกเซียวชุ่นสามคน

โฮ๋เฉิงเหอเห็นมังกรสามที่ตามหลังเซียวชุ่น พอเห็นก็รู้ว่าเป็นผู้ที่ฝึกบู๊ จึงเอ่ยถาม : “พี่เซียวก็พาคนมาต่อสู้ที่ลานประลองบู๊หรือ ? หรือว่ามาเป็นเพื่อนเพื่อน ?”

“มาดูไปงั้น มาร่วมสนุกน่ะ” เซียวชุ่นยิ้มกล่าว

“ดูไม่ออกเลยว่าพี่เซียวก็เป็นคนตรงไปตรงมา” โฮ๋เฉิงเหอเอ่ยพลางส่งเสียงหัวเราะ ฮ่า ๆ

ทั้งสองคนจึงพูดคุยกันไม่กี่ประโยคตามประสา

เซียวชุ่นก็ได้รู้จากปากของโฮ๋เฉิงเหอ ตอนนี้ผู้ชนะการแข่งขันประลองบู๊ระดับต้นได้เกิดขึ้นแล้ว รอบพรุ่งนี้เป็นการแข่งขันระดับกลาง มะรืนนี้ก็เป็นการแข่งขันระดับสูงที่ได้รับการจับตามองมากที่สุด

แชมป์การแข่งขันระดับกลางในขณะนี้เป็นลูกศิษย์โยมพ่อเส้าหลินคนหนึ่ง วิชาหมัดเส้าหลินเรียบง่ายไม่โอ่อ่ากลับคว่ำผู้ท้าชิงทั้งหมดไว้ได้

ส่วนคนนั้นที่มีนามว่าเหลียงฮั่นที่ติดตามโฮ๋เฉิงเหอเป็นทหารหน่วยพิเศษที่ปลดประจำการคนหนึ่ง เคยได้รับสมญานามว่าเป็นราชาแห่งพลทหาร การมาในครั้งนี้ก็เพื่อท้าแชมป์ระดับกลางคนนี้

“ทำไมถึงไม่ท้าลานประลองบู๊ระดับสูงล่ะ ? เงินรางวัลจะยิ่งมากกว่าไม่ใช่เหรอ ?” ซ่งหลิงเอ๋อร์เอ่ยถามอย่างประหลาดใจ

ได้ยินดังนั้น โฮ๋เฉิงเหอจึงยิ้มส่ายหน้า พร้อมกล่าวอย่างทอดถอนใจ

“ลานประลองบู๊ระดับสูงง่ายขนาดนั้นที่ไหนกัน ? แม้แต่ระดับกลางนี้ก็มียอดฝีมือปรากฏมาไม่ขาดสายแล้ว แม้ว่ากำลังของเหลียงฮั่นจะเหนือกว่าคนธรรมดา แต่ว่าหากเทียบกับสัตว์ประหลาดพวกนั้นอย่างลานประลองบู๊ระดับสูงแล้ว……ความต่างยังมากโขอยู่เลย เพราะว่าพวกเขาได้อยู่เหนือขอบเขตคนธรรมดาไปแล้ว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊