ทั้งสองมองดูรถที่อยู่ข้างหน้า ปรากฏเป็นพอร์เชอ 911 ระดับสูงสุด คาดว่าราวสี่ล้าน
“มัวอึ้งอยู่ทำไม ขึ้นรถ” มังกรสามพูดอย่างไม่เต็มใจ
“นี่……นี่เป็นรถของพวกนาย?” หยางโปพูดอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ
มังกรสามกำลังจะเอ่ยปากก็ได้เซียวชุ่นตอบ : “ขึ้นรถเถอะ อย่าเสียเวลาเลย”
มังกรสามไม่รู้สถานะที่แน่ชัดของซ่งหลิงเอ๋อร์ เซียวชุ่นกลับรู้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง เขาดูออกว่าซ่งหลิงเอ๋อร์ไม่อยากเปิดเผยสถานะต่อหน้าเพื่อนพวกนี้ของเธอ
แกล้งทำตัวเป็นผู้หญิงว่านอนสอนง่าย ก็เป็นการทำให้เธอลำบากแล้ว
หยางโปยิ้มเก้อเขิน พลันนั่งที่เบาะหลังกับโจวจื่อฟา
ตรงทางเข้า ออฟโรด เบนซ์คันนั้นของหลันญ่าหมิงจอดรอพวกเซียวชุ่นอยู่ที่นั่น
“ฉันขับรถคันนี้มาสามปีแล้ว เบื่อนิดหน่อย ไว้กลับไปจะปรึกษากับที่บ้านว่าจะเปลี่ยนเป็นรถสปอร์ตไว้เที่ยวหน่อย เด็กผู้หญิงอย่างพวกเธอชอบรถแบบไหนเหรอ ?” หลันญ่าหมิงพูดพลางชำเลืองมองซ่งหลิงเอ๋อร์ที่อยู่ข้าง ๆ
“แพง ๆ ” ซ่งหลิงเอ๋อร์ตอบพร้อมกับทำหน้ายิ้ม
หลันญ่าหมิงอึ้งไปเล็กน้อย แล้วจึงยิ้ม ๆ บอก : “นั่นแน่นอนอยู่แล้ว ราคาถูกไม่มีของดีหรอก”
ซ่งหลิงเอ๋อร์ไม่พูดจา
เขาจึงถามต่อ : “บ้านเธออยู่ที่ไหนเหรอ ? จากนี้ฉันไปรับเธอไปเรียนได้”
“ไม่ต้องหรอก” ซ่งหลิงเอ๋อร์มองไปข้างหน้า น้ำเสียงเย็นชา
จู่ ๆ หลันญ่าหมิงมีความรู้สึกอย่างหนึ่งว่า “จีบยากจัง” ทำไมถึงยังมีแม่หนูที่จีบยากขนาดนี้ ?
ในตอนนี้เอง เด็กสาวไว้ผมแดงคนนั้นเห็นว่ามีพอร์เชอคันสีขาวขับมาจากไกล ๆ จึงรีบเอ่ย : “หลันญ่าหมิง ดูรถสปอร์ตสีขาวคันนั้นทางนั้นสิเป็นไง ? ฉันว่าสวยมาก เด็กผู้หญิงน่าจะชอบกัน”
หลันญ่าหมิงมองไปตามทิศทางของนิ้วเธอ
พลางว่าในใจ ยัยหนูนี่รู้จักเลือกจริง รถราคาหลายล้าน พูดกับที่บ้านไปก็เปล่าประโยชน์ ไม่มีทางเห็นด้วยแน่ !
ทว่าเวลานี้สาวสวยอยู่ข้าง ๆ จะตื่นตระหนกไม่ได้
เขาหันหน้ามาถามซ่งหลิงเอ๋อร์ในทันที : “เธอคิดว่าเป็นไง ? ชอบไหม ?”
“ชอบ” ซ่งหลิงเอ๋อร์พูดพร้อมกับยิ้มอ่อน ๆ
ไร้สาระ รถของฉันเองไม่ชอบแล้วฉันจะซื้อมาทำไมล่ะ ?
ทว่าอย่างไรก็ตามเธอยังคงชอบสีฟ้าคันเล็กคันนั้นมากที่สุด เพียงแต่น่าเสียดายถูกเซียวชุ่นซื้อไปแล้ว เป็นรุ่นลิมิเต็ดอยากจะซื้ออีกคันก็ยากมาก
หลันญ่าหมิงหัวเราะแห้งสองที พลันเอ่ยอย่างขาดความมั่นใจ : “รถนั่นก็หลายล้าน ฉันปรึกษากับที่บ้านหน่อย น่าจะไม่มีปัญหา”
ในตอนนี้ยังไม่ถกว่ามีปัญหาหรือเปล่า ต้องรักษาหน้าไว้ก่อน
หลังจากพอร์เชอสีขาวขับมาใกล้ เด็กสาวไว้ผมแดงเห็นคนที่ขับรถชัดเจนก่อน จึงกล่าวอย่างตกใจ : “หลิงเอ๋อร์ นั่นเป็นเพื่อนสองคนนั้นของเธอไม่ใช่เหรอ ? รถนั่นเป็นของพวกเขา ? คนเราตัดสินกันที่หน้าตาไม่ได้ มองดูแล้วก็เป็นเพียงคนบ้านนอกสองคน นึกไม่ถึงว่าจะเป็นคนมีเงินมาก”
ทว่าเธอคิดอีกทีพลางพูดต่อ : “รถคันนี้พวกเขาคงไม่ได้เช่ามาหรอกนะ? ตอนนี้มีพวกต้มตุ๋นประเภทนี้เยอะ เช่ารถยนต์หรูหราไปหลอกเด็กสาวที่ไร้เดียงสาอย่างเธอไปทั่ว เธอต้องระวังไว้ล่ะ”
“ฉันว่าสองคนนี้น่าจะเป็นพวกต้มตุ๋น อีกเดี๋ยวเราก็คิดหาวิธีไล่พวกเขาไป” หลันญ่าหมิงพูดด้วยความแค้นเคือง
ซ่งหลิงเอ๋อร์พูดอย่างหมดคำจะพูด : “พวกเขาเป็นเพื่อนของฉันจริง ๆ ”
ในตอนนี้เองพอร์เชอได้จอดอยู่ข้างรถของหลันญ่าหมิงแล้ว มังกรสามเลื่อนกระจกรถลงพลางกล่าว : “ไปกัน”
หลันญ่าหมิงใช้สายตาที่เปี่ยมด้วยความเกลียดชังชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ง ไม่พูดถึงว่าตกลงสองคนนี้เป็นพวกต้มตุ๋นหรือเปล่า เพียงพวกเขาอยู่ก็เห็นได้ชัดว่าขวางมือขวางเท้า
จากนั้นรถสองคันมุ่งไปยังหมู่บ้านเสี้ยเหอตาม ๆ กัน
เขาถูกบีบบังคับจึงทำได้แต่ขึ้นเหนือไปเมืองหลวง
ภายในระยะเวลาสั้น ๆ เพียงสิบกว่าปีก็กลับมาอีกครั้ง คาดไม่ถึงว่าพลิกโฉมเป็นบุคคลระดับบิ๊กบอสที่มีชื่อเสียงเลื่องลือของเมืองเหว้ยฮุยที่อยู่ข้าง ๆ พูดได้ว่าเป็นตำนานช่วงหนึ่ง
ซ่งหลิงเอ๋อร์เรียกเขาว่าพ่อ นั่นก็หมายความว่าซ่งหลิงเอ๋อร์ถึงกับเป็นหลานสาวแท้ ๆ ของซ่งเจิ้นไห่? !
ที่แท้ในสายตาของพวกหลันญ่าหมิง ซ่งหลิงเอ๋อร์อาจจะเป็นเพียงเด็กสาวที่เกิดในตระกูลร่ำรวยเล็ก ๆ ถึงขนาดที่เป็นชนชั้นมนุษย์เงินเดือน แม้จะเกิดมาสะสวย โลกทัศน์คับแคบมากก็ตาม
บัดนี้เพียงชั่วพริบตาเธอกลายเป็นลูกสาวของซ่งชิงโจแล้วซึ่งเป็นคุณหนูผู้ร่ำรวยแห่งตระกูลซ่งผู้นำของสี่ตระกูลใหญ่แห่งเจียงไห่
หวนนึกถึงที่เมื่อเช้ายังสำแดงว่าตนเหนือกว่าต่อหน้าเขาบ่อย ๆ ทุกคนพลันอับอายจนเหงื่อตก แทบอยากจะหาตะเข็บมุดหนีเข้าไปเลย
เผชิญหน้ากับคนใหญ่คนโตแบบนี้อย่างซ่งชิงโจ นอกจากเซียวชุ่นแล้วคนอื่น ๆ ต่างลุกขึ้นยืนโดยไม่รู้ตัว
ซ่งชิงโจถอนหายใจเฮือกหนึ่งเบา ๆ จนยากที่จะสังเกตเห็นได้ พูดกับทุกคนด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลายเล็กน้อย : “พวกเธอเป็นเพื่อนของหลิงเอ๋อร์กันหมดเลยใช่ไหม? ทุกคนนั่งลงเถอะ”
ทุกคนจึงค่อย ๆ นั่งลง
ซ่งชิงโจก็ดึงเก้าอี้มานั่งพลางพูดด้วยคำพูดที่จริงจัง : “ฉันเป็นพ่อของหลิงเอ๋อร์ ก็นับเป็นผู้อาวุโสของพวกเธอ ฉะนั้นฟังฉันพูด สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่สถานที่ที่พวกเธอควรมา ไม่มีธุระละก็อย่ามาอยู่ที่นี่อีก กลับไปเรียนซะ”
น้ำเสียงของเขาไม่ขึงขัง กลับเผยอำนาจที่ไม่อนุญาตให้ขัดขืน จึงอดไม่ได้ที่จะทำให้ในใจของพวกหลันญ่าหมิงกระวนกระวาย
“นั่นสิ คุณอา งั้นพวกเรากลับไปก่อนนะครับ” หลันญ่าหมิงรีบเอ่ย
ซ่งชิงโจไม่ได้พูดจา นับว่าเป็นการอนุญาตโดยปริยาย
พวกหลันญ่าหมิงก้นยังนั่งไม่ทันร้อนก็รีบร้อนลุกขึ้นจากห้องส่วนตัวไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงพวกเซียวชุ่นสามคน
“สองคนนี้คือ ?” ซ่งชิงโจมองพวกเซียวชุ่นทั้งสองคนไม่เหมือนนักเรียน และไม่ได้ออกไปอีก จึงเอ่ยปากถาม
“เซียวชุ่น มังกรสาม เป็นเพื่อนของหนู” ซ่งหลิงเอ๋อร์กล่าวแนะนำอย่างไม่เต็มใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...