โจรสามคนวิ่งตรงไปยังกำแพงเรือนกระโจนครั้งเดียวก็เหยียบบนกำแพงจากนั้นก็หายเข้าไปในเรือน หัวหน้าโจรยืนรออยู่ครู่ใหญ่ก็ไม่เห็นคนทั้งสามกลับออกมา
“เจ้าเข้าไปดูหน่อยสิ! ช้าจริงเทียว แค่เชือดคอคนไม่กี่คนเหตุใดเสียเวลาเช่นนี้? ไปตั้งสามคนน่าจะจัดการคนพวกนั้นได้แล้วแท้ๆ”
ลูกน้องที่ยืนอยู่ใกล้ๆ รับคำหัวหน้าแล้วรีบกระโจนเข้าไป
เหล่าลู่กับชิงหลานที่ซุ่มดักรออยู่ เมื่อโจรที่มาสังเกตการณ์กลับออกไปพวกเขาก็พยักหน้าให้กัน
“เดี๋ยวพวกมันคงเข้ามาใหม่!”
เจิงอิ่งทำหน้าที่อารักขาจังฮูหยินกับเสี่ยวลิ่งอยู่ในห้องนอนใหญ่เรือนด้านข้าง เมื่อโจรสามคนแรกเข้ามา เหล่าลู่กับชิงหลานก็ต่อสู้กับคนทั้งสาม พวกมันถูกแทงบาดเจ็บไปสองและถูกจับได้อีกหนึ่ง ศิษย์กับอาจารย์ช่วยจับมัดมือไพล่หลังอุดปากทั้งสามคนแล้วมัดติดไว้กับเสาในห้องนอนของพ่อบ้าน
“อีกไม่นานมันต้องส่งคนเข้ามาอีก...เราไปดักรอกันเถอะ”
จริงอย่างที่เหล่าลู่คาด ไม่นานนักโจรอีกผู้หนึ่งก็กระโจนขึ้นมาบนกำแพง
“เสียดายมาแค่คนเดียว!”
เมื่อโจรร้ายกระโดดลงกำลังจะยืดตัวขึ้นยืนเขาก็พบว่าตัวเองถูกดาบใหญ่พาดอยู่ตรงต้นคอแล้ว
“เจ้าคงไม่อยากถูกเชือกหรอกกระมัง? เดินหน้าซะดีๆ”
โจรทั้งสี่ถูกมัดรวมกันอยู่ในห้องนอนของเหล่าลู่ เจิงอิ่งได้ยินเสียงต่อสู้สงบลง นางจึงถือดาบออกมาดูเหตุการณ์ เมื่อเห็นประตูห้องเหล่าลู่เปิดอ้าอยู่ก็เดินไปดู
“คุณหนูจับโจรไว้ได้ทั้งหมดเลยหรือเจ้าคะ?”
“มิได้ๆ พวกมันมีทั้งหมดแปดคน นี่ยังขาดอีกสี่” ชิงหลานประเมินในใจว่าเฉาอวิ๋นจือได้รับบาดเจ็บหนักคงจะไม่มีปัญญาบุกเข้ามาในเรือนของตนเป็นแน่!
พลันเสียงเอะอะข้างนอกก็ดังขึ้น
“จับพวกมันให้ได้!” ชิงหลานใช้วิชาตัวเบาลอยขึ้นไปบนกำแพง เมื่อเห็นว่าข้างนอกมีมือปราบอยู่เต็มไปหมดก็รีบลงมาบอกให้เหล่าลู่ไปเปิดประตูหน้าจวน
องค์ชายสิบห้านำองครักษ์กลับเข้าเมืองมาหลังจากคนของหัวหน้ามือปราบหลิวไปแจ้งให้ทรงทราบ หลานชายของหญิงชราเจ้าของเรือนที่เหล่าโจรไปซ่อนในคราแรกออกมาแจ้งมือปราบ พวกเขาจึงรีบกราบทูลองค์ชาย หลังจากแกะรอยอยู่พักหนึ่งจึงรู้ว่าพวกมันเดินย้อนกลับจากเรือนร้างที่ซ่อนม้าเข้ามาในอำเภอ
เหล่าลู่รีบตะโกนเรียกหัวหน้ามือปราบหลิว
“ท่านหลิว พวกเราจับโจรได้ในจวน มารับไปที!”
กังเฉินที่อยู่ไม่ไกลได้ยินก็รีบไปกราบทูลองค์ชาย หมิงเฉิงอวี่ชักม้ามาถึงหน้าจวนแล้ววิ่งเข้าไปข้างในอย่างเร่งร้อน
“มีผู้ใดได้รับอันตรายหรือไม่?”
“ไม่พะยะค่ะ คุณหนูกับฮูหยินอยู่ด้านใน”
จงเหยียนที่คอยพะวักพะวงถึงหญิงคนรักครั้นเห็นประตูจวนชิงเปิดก็รีบวิ่งตามองค์ชายมาทันที ครั้นเห็นว่านางยืนหน้าตาแตกตื่นข้างจังฮูหยินเขาก็ถอนหายใจ
“เสี่ยวลิ่ง เจ้าปลอดภัยใช่หรือไม่?” องครักษ์จงก้าวพรวดไปจับมือหญิงคนรัก
“ถูกแทงที่ข้ากับที่ข้อมือเพคะ” นางตอบอย่างคล่องแคล่ว เหล่าลู่เข้ามายืนยันอีกแรงว่าเขาให้ชิงหลานซุ่มดูโจรกลุ่มนั้นอยู่จริง
“เป็นผู้ใดกันจึงแอบเข้าไปทำร้ายเฉาอวิ๋นจือได้? ปกติคนผู้นี้ระมัดระวังตัวนัก พวกมือปราบก็ล้วนไม่รู้ว่าพวกนั้นปลอมเป็นพ่อค้าขึ้นไปพำนักบนโรงเตี๊ยม หรือมือปราบเฉาจะมีศัตรูอื่นอีก?”
หัวหน้ามือปราบเฉาจึงรีบกราบทูล “มีผู้คนเห็นสวมหน้ากากกระโจนออกมาจากห้องพักของเฉาอวิ๋นจือพะยะค่ะ น่าจะเป็นการขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ มือปราบเฉาทำการค้าสตรีผิดกฎหมาย ซ้ำยังรับจ้างฆ่าคน ศัตรูก็คงไม่น้อย”
“อืม....” องค์ชายพยักหน้ารับ ทรงหันไปมองจังฮูหยินและชิงหลาน “ในเมื่อพวกท่านปลอดภัยก็ดีแล้ว ข้าต้องรีบไปสอบสวนคนพวกนั้นและตามล่าโจรที่หนีไปก่อน ถือโอกาสลาเลยก็แล้วกัน”
แวบหนึ่งชิงหลานเห็นสายพระเนตรอาลัยอาวรณ์สะท้อนในดวงพระเนตรขององค์ชาย ทรงสะบัดชายภูษาแล้วเสด็จไปอย่างเร่งรีบ หากเฉาอวิ๋นจือถูกคนตามฆ่า พระองค์กลัวเหลือเกินว่าจะเป็นการฆ่าปิดปาก...การทำผิดกฎหมายของเฉาอวิ๋นจือเกี่ยวพันกับขุนนางบางคนแน่นอน
.....หรือว่าแม้แต่คดีของเผยมู่ซีก็มิใช่คดีธรรมดา?.....
หากมิใช่เพียงการกำจัดสตรีผู้หนึ่งเพื่อให้บุตรหลานของตนเข้ามาเป็นพระชายาเอกขององค์ชาย แต่กลับเป็นการกำจัดคนที่อยู่ในตำแหน่งสำคัญซึ่งตำแหน่งพระชายาเอกนี้อาจจะช่วยอำนวยประโยชน์แก่คนอีกกลุ่มได้อย่างมหาศาล หมิงเฉิงอวี่ทรงเริ่มคลางแคลงพระทัยว่าการตายของเผยมู่ซีอาจจะมีเรื่องอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง
....กลับไปคงต้องสืบสาวราวเรื่องให้กว้างขึ้น....
“องค์ชายเกิดเรื่องแล้วพะยะค่ะ!” กังเฉินที่คุมตัวคนร้ายมาถึงห้องขังก็จัดการแยกพวกเขาทั้งหกออกจากกัน สองคนแรกถูกจับมัดขึงไว้บนเสากำลังถูกจงเหยียนสอบสวน ทว่าอีกสี่คนที่ถูกขังอยู่กลับน้ำลายฟูมปากเสียชีวิตไปเสียแล้ว
“ที่นี่! มีหนอนบ่อนไส้...เอาสองคนนั้นไปขังที่สำนักองครักษ์เสื้อแพรเดี๋ยวนี้!”
***********************
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)