ร่างที่ซุกอยู่กองฟางมุมห้องขังนอนบิดตัวไปมาร้องครวญครางแผ่วๆ อยู่ตลอดทั้งคืน “ฮือๆ ปวดจัง! ข้าปวดจัง!”
ถังฮูหยินในชุดนักโทษสีขาวด้านหน้ามีตัวอักษรสีดำในวงกลมขนาดใหญ่หันมามองไคฉีด้วยความประหลาดใจ “เจ้าปวดตรงใดหรือไคฉี?”
“ฮูหยิน! ข้าปวดข้างในทั้งปวดท้อง ปวดหัวใจ ปวดไปหมดเจ้าค่ะ” ไคฉีในชุดแบบเดียวกับนายหญิงยังคงส่งเสียงเจ็บปวดทรมานต่อไป
ถังหนิงหวงลุกจากเตียงตั่งที่นอนได้เพียงคนเดียวไปยังหน้าลูกกรงร้องเรียกมือปราบที่ดูแลคุกเสียงดังสองสามครั้งก็มีคนผู้หนึ่งเดินเข้ามาดู ครั้นเห็นว่ามีนักโทษนอนกุมท้องอยู่ก็กลับไปเอายาแก้ปวดซึ่งเป็นยาสามัญที่ใช้ในคุกแห่งนี้กลับมาให้
“เอายาเม็ดนี้ให้คนของเจ้ากินซะ! มีให้เท่านี้ล่ะ หากอยากให้ตามหมอก็คงต้องรอพรุ่งนี้เช้า ยามนี้ยามอิ๋นแล้ว (03.00-04.59 น.) ข้าไม่อาจจะไปตามหมอมาให้ได้ อดทนได้ก็อดทนต่อไปเถอะ”
ถังฮูหยินรับยาลูกกลอนเม็ดใหญ่และน้ำดื่มมาจากผู้คุมนักโทษก่อนจะเอาใส่ปากให้กับไคฉี “เจ้าได้ยินแล้วใช่หรือไม่? อดทนไปก่อนนะ ยามตกอับแม้แต่สุนัขยัง ดูแคลน นี่หากเป็นที่จวนสกุลเผยล่ะก็...ป่านนี้หมอคงมาได้หลายคนแล้ว”
“โอ๊ย! อื๋อ! ฮูหยิน ท้องไส้ของข้าปั่นป่วนไปหมดเหมือนมีคนเอามือมาช่วยกันบิดเลยเจ้าค่ะ” ไคฉียังคงใช้สองมือกดท้องบ้าง หน้าอกบ้างระงับอาการเจ็บปวด
“เหตุใดเจ้าจึงมีอาการเช่นนี้? ถูกผู้ใดวางยาหรือไม่?”
ไคฉีชะงักครู่หนึ่ง “ยา...ยาเช่นนั้นหรือ? มีเพียงยาที่ข้ากินของลูกศิษย์หมอจวงเท่านั้นล่ะเจ้าค่ะ”
“นางแก่นั่นคงให้คนตลบหลังวางยาเจ้าเป็นแน่!”
ไคฉีหน้าซีด “นี่ๆ คงมิใช่! พวกมันหลอกข้าดื่มยาผสมดอกกักวิญญาณเข้าไปหรอกนะเจ้าคะ”
“เจ้ามีอาการอย่างไรบ้างล่ะ?”
“ข้าปวดภายในหลายส่วน ปวดไปหมดเลยเจ้าค่ะ ทีแรกก็ปวดน้อยๆ ตอนนี้เริ่มปวดแรงขึ้นแล้ว ฮือๆ ฮือๆ” ไคฉีเริ่มทนไม่ไหวนางร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาอีกครา นับตั้งแต่มีอาการจนกระทั่งตอนนี้ผ่านไปครึ่งชั่วยามแล้วและยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลงแต่อย่างใด? “นี่มันเป็นอาการที่คนขายนั่นบอกกับข้าโดยแท้”
นางนึกถึงคำบอกเล่าของหนุ่มใหญ่ที่นำดอกกักวิญญาณมาขายและอธิบายอาการให้นางฟังอย่างละเอียด อาการจะค่อยๆ เริ่มจากท้องอืดจากนั้นก็จะลุกลามไปส่วนอื่นจนทั่วภายในจากนั้นจะมีอาการหัวใจเต้นแรง อวัยวะภายในจะถูกทำลายทีละน้อยๆ ยิ่งกินมากก็จะยิ่งมีอาการมากเจ็บปวดทรมานกระทั่งขาดใจตาย
“หากให้กินทีละน้อยๆ จะค่อยๆ ป่วยและตายเหมือนการล้มป่วยทั่วไป แต่ถ้าให้กินภายในครั้งเดียวจะถอนพิษยากมากและทรมานจนขาดใจตาย คนที่ดื่มครั้งเดียวมากกว่าหนึ่งช้อนจะต้องเจ็บปวดจนกว่าฤทธิ์ของมันจะคลายลงแต่ก็ไม่หายขาดเพราะจะเกิดอาการเช่นนี้อยู่เป็นระยะๆ”
“แล้วถ้ากินทีเดียวสองถ้วยเล่า?”
“หากเจ้ากินถึงสองสวยก็คงต้องไปพบยายเมิ่ง*ในเวลาแค่คืนเดียวแล้วล่ะ”
ไคฉีลำดับอาการที่ตนเป็นแล้วนึกถึงใบหน้าของคนที่ขายยาห่อนั้นให้แก่ตน “เป็นนางเจ้าค่ะ! นางคนที่มาใหม่พร้อมหมอจวง มันหลอกให้ข้าดื่มยาของมัน”
ถังฮูหยินปักใจเชื่อว่าฮูหยินผู้เฒ่าอยู่เบื้องหลังแผนตลบหลังตนเองทั้งหมด
“นางแก่...เจ้าร้ายนัก! กล้าให้คนมาหลอกวางยาเจ้า ดูสิ! นับตั้งแต่ข้าแต่งเข้าจวนนี้มา นางคอยกีดกันมิให้ข้าดูแลจวน ยกหลานรักของตนเองขึ้นมาเป็นว่าที่พระชายาทั้งๆ ที่ข้าต้องการให้หนิงเอ๋อร์ได้เชิดหน้าชูตา ยามนี้ยังทำให้ข้ากับท่านพี่ต้องขาดจากกันอีก! ข้าไม่มีทางยอมให้นางกำจัดข้าได้สำเร็จแน่”
“พ่อบ้านเหวินผู้นั้นถูกคุมขังที่ใด?”
“เห็นว่าถูกนำตัวไปสำนักองครักษ์เสื้อแพรเจ้าค่ะ”
ใต้เท้าถังถอนหายใจ หากผู้ใดถูกนำเข้าไปยังที่แห่งนั้นย่อมยากจะยื่นมือเข้าไปจัดการได้ การนำตัวพยานไปที่นั่นเป็นการป้องกันการฆ่าปิดปากได้ดีที่สุด “เฮ้อ! หากเป็นที่นั่นคงจะหมดความหวัง! เช่นนั้นรอดูเจ้าขึ้นไต่สวนก่อนก็แล้วกัน”
พ่อบ้านเหวินเขียนคำสารภาพต่อหน้าองค์ชายสิบห้าและตุลาการในศาลเรียบร้อยก็ลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน ไคฉีที่ยังคงกุมท้องอยู่ตลอดเวลาถูกนำหมอมาตรวจดูอาการแต่ก็อย่างที่นางรู้มา ท่านหมอทำได้เพียงให้ยาบรรเทาอาการนางดื่มเท่านั้นไม่อาจช่วยถอนพิษนี้ออกจากตัวได้ นางถูกนำตัวไปสอบสวนแยกจากถังฮูหยินเมื่อถูกซักไซ้กันคนละทีพวกนางจึงโกหกไม่สอดคล้องกัน จากการตรวจค้นห้องของไคฉีท่านหมอจวงพบเศษดอกกักวิญญาณและยาอ่อนแรงนี่เป็นหลักฐานชี้ชัดว่าไคฉีเป็นผู้วางยาฮูหยินผู้เฒ่าและวางยาคุณหนูใหญ่เผยตามที่พ่อบ้านเหวินกล่าวอ้าง
“สำหรับคดีเผยมู่ซี เจ้าใช้ให้นางกำนัลผู้หนึ่งเอายาที่อ้างว่าเป็นยาบำรุงไปให้คุณหนูใหญ่ดื่มซึ่งยาชนิดนี้ดื่มแล้วร่างกายจะอ่อนแรงขยับเขยื้อนตัวมิได้ เจ้ารู้ว่านางมีวรยุทธ์จึงได้ป้องกันมิให้นางหนีออกจากรถม้าได้ใช่หรือไม่?”
ไคฉีใช้มือหนึ่งกดท้องปากก็ปฏิเสธ “มิใช่เจ้าคะ! ข้าเอายาบำรุงไปให้นางกินจริงๆ เพราะช่วงนั้นนางร่างกายเหนื่อยอ่อนนอนน้อยเพราะต้องเตรียมตัวเข้าวัง”
“เหลวไหล! พ่อบ้านเหวินรับสารภาพทั้งหมดแล้ว หากเกิดเหตุแค่นั้นด้วย วรยุทธ์ของซีซี นางต้องหยุดรถม้าได้แน่!” ฮูหยินผู้เฒ่าที่เข้ามาดูการไต่สวนอดรนทน ไม่ไหว หลังจากที่นางได้ยินสิ่งที่พ่อบ้านเหวินสารภาพจึงได้รู้ตัวว่าตนเองไม่ควรมัวแต่เสียใจจนลืมจะตรวจสอบการตายของหลานสาวให้ละเอียดรอบคอบ หลานสาวสุดที่รักของนางถูกคนรังแกจนถึงแก่ชีวิต แต่นางกลับเอาแต่ร้องห่มร้องไห้จนล้มป่วย...ช่างไร้สติเสียจริง!
************************
--------------------------------------------------------------------
*ยายเมิ่งหรือเมิ่งปั๋วเป็นเทพที่เฝ้าอยู่ปรโลกคอยดูแลหอลืมชาติและให้วิญญาณทั้งหลายดื่มน้ำเมาลืมอดีตชาติก่อนจะมาเกิดใหม่ น้ำเมานี้มักเรียกกันว่า “น้ำแกงยายเมิ่ง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)