เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook) นิยาย บท 143

ฝนซาลงจนใกล้จะหยุด หมิงเฉิงอวี่ทรงลูบหลังร่างน้อยในอ้อมกอดให้นางคลายสะอื้น “ฝนใกล้จะหยุดแล้ว เดี๋ยวข้าจะพาเจ้าลงจากรถม้า”

ชิงหลานยุดแขนองค์ชายสิบห้าเอาไว้ “หม่อมฉันไม่อยากลืมตาเพคะ”

“เดี๋ยวข้าอุ้มเจ้าลงไปเอง หลับตาไว้เช่นเดิมเถิด” นางรู้สึกคล้ายได้ยินเสียงหัวเราะพอใจเบาๆ ของชายหนุ่ม

ฝนหยุดแล้วองครักษ์ทั้งหลายจึงได้เห็นองค์ชายสิบห้าอุ้มสาวน้อยที่แอบอิงอยู่ในอกลงจากรถม้า...จงเหยียนกับเสี่ยวลิ่งหันไปสบตาและยิ้มให้กัน ดูเหมือนว่าคนทั้งสองจะมีใจตรงกันแล้ว คุณหนูชิงจึงยินยอมให้องค์ชายอุ้มง่ายดายเช่นนี้

“กังเฉินเอาม้ามาให้ข้า”

องค์ชายไม่ยอมให้เท้าของนางถูกพื้น ทรงอุ้มนางรออยู่กระทั่งองครักษ์กังจูงม้ามาเทียบข้าง พระองค์จึงส่งนางขึ้นบนหลังม้า

“เดี๋ยวเราขี่ม้ากลับด้วยกัน”

เสี่ยวลิ่งและจงเหยียนจึงต้องขึ้นรถม้าไป ส่วนกังเฉินเอาม้าของตนให้องค์ชายทรงขี่ประกบข้างคุณหนูชิง

“คุณหนูของเจ้าดูมีความสุขเช่นนี้คงจะไม่ปฏิเสธองค์ชายอีกแล้วกระมัง?”

“ท่านว่าคุณหนูกับองค์ชายจะลงเอยกันหรือเจ้าคะ?” แม้จะรู้ว่าองค์ชายสิบห้าทรงพอพระทัยในตัวคุณหนูของตนแต่เสี่ยวลิ่งก็อดจะกังวลถึงสิ่งที่คุณหนูเคยบอกมิได้

“เรื่องนั้นไม่มีผู้ใดรู้หรอก เราต้องคอยดูกันต่อไปอาจจะเป็นเหมือนเรื่องของเราสองคนก็ได้” จงเหยียนพูดแล้วก็ยิ้มหวานให้กับคู่หมั้น “เสี่ยวลิ่งในรถม้ามีแต่เราสองคนแล้วนะ”

“ทำไมหรือเจ้าคะ?” เสี่ยวลิ่งทำตาโต

จงเหยียนรีบดึงนางมานั่งตัก “ข้าขอชื่นใจเจ้าสักหน่อยเถิด ในนี้ไม่มีผู้ใดเห็นหรอกนะ นะ” ชายหนุ่มไม่รอให้นางตอบรับหรือปฏิเสธ เขาหอมแก้มนางทั้งซ้ายและขวา เสี่ยวลิ่งใบหน้าแดงก่ำ

“ท่านล่ะก็ เรายังไม่ได้เข้าพิธีกันเลยนะเจ้าคะ”

“กว่าจะรอจนถึงวันวิวาห์ข้าก็ขาดใจตายพอดี ข้าก็แค่อยากหอมเจ้า อยากจูบเจ้าไม่ได้หรือ?” ใบหน้าของชายหนุ่มงอง้ำ เสี่ยวลิ่งเห็นแล้วก็ขำคิกๆ

“ดูท่านสิ! ใครๆ ก็ว่าท่านเป็นองครักษ์จอมโหด หากมีคนมาเห็นยามนี้เข้าคงจะเอาไปล้อกันแน่ๆ” นางยกมือขึ้นประคองใบหน้าองครักษ์หนุ่มเอาไว้

“ข้าขอจูบเจ้าอีกทีหนึ่งเถิด ทีเดียวก็พอ”

เสี่ยวลิ่งหน้าแดงก่ำ พยักหน้าน้อยๆ ชายหนุ่มจึงยื่นมือไปประคองท้ายทอยให้หน้าก้มลงมารับจุมพิตของเขา จงเหยียนจูบคู่หมั้นสาวอย่างดูดดื่ม

“อะแฮ้ม! ข้ายังอยู่นี่ทั้งคนนะจงเหยียน” เสียงคนควบคุมม้าอยู่หน้ารถร้อง ดังขึ้นทำเอาเสี่ยวลิ่งสะดุ้งนางกระซิบบอกให้จงเหยียนปล่อยนางลงจากตักกลับไปนั่ง ที่เดิม

“เจ้ากินอิ่มกว่าผู้ใดยังจะขัดขวางความสุขเล็กๆ น้อยๆ ของข้าอีก...ช่างใจดำนัก” จงเหยียนแหวกม่านรถม้าออกมากัดฟันกรอดๆ ใกล้หูกังเฉิน

หัวหน้าองครักษ์ที่มือดึงบังเหียนม้าหันมายักคิ้วให้สหาย “เจ้าลงมือไม่เด็ดขาดล่ะสินะ ทำอยู่แค่นี้เมื่อใดจะได้แต่งงานเสียที”

จงเหยียนเลิกคิ้วขึ้นสูงลดเสียงต่ำลงจนกะว่าคนข้างในรถม้าไม่ได้ยิน “เจ้าหมายถึงเรื่องใด?”

ในหมู่องครักษ์ทั้งหลายต่างกล่าวขานกัน ไม่ว่ากังเฉินไปที่ใดนางคณิกาผู้งดงามอันดับแรกๆ ของสำนักโคมเขียวนั้นต่างพากันติดอกติดใจอยากจะดูแลคนผู้นี้นัก หลายนางพยายามทอดกายให้กับองครักษ์กังโดยที่เขาไม่ต้องเสียเงินเสียทองแต่อย่างใด บุรุษทั้งหลายอยากรู้ความลับนี้ยิ่งว่ากังเฉินทำเช่นใดจึงได้กลายเป็นยอดบุรุษที่สตรีเฝ้าใฝ่ฝันเยี่ยงนี้ เหล่าสตรีในเมืองหลวงที่ถูกซุบซิบนินทาว่ามีสัมพันธ์สวาทกับบุรุษโดยไม่แต่งงานหลายนางก็มีข่าวพัวพันกับกังเฉินผู้นี้ด้วย

จินวั่งซู่จึงเริ่มเล่าเรื่องที่เขาได้รับการว่าจ้างให้ไปสืบชาติกำเนิดของจังเสี่ยวลิ่งที่เมืองพยัคฆ์เหิน ยามนี้ชัดเจนแล้วว่าเสี่ยวลิ่งคือเด็กทารกที่มีแผลจากคมดาบบนต้นแขนอย่างที่ฮูหยินของรองแม่ทัพมู่ระบุไว้

“บาดแผลของเสี่ยวลิ่งได้รับการรักษาอย่างดีจนแทบจะมองไม่เห็นเป็นเพราะความสามารถในการหาสมุนไพรรักษาแผลเป็นของพ่อแม่บุญธรรมของนาง ส่วนผู้ที่ลักพาตัวเสี่ยวลิ่งไปยังเมืองพยัคฆ์เหินนั้นมิใช่โจรทั่วไป หากแต่เป็นนายทหารนอกคอกกลุ่มหนึ่งที่มีเรื่องโกรธแค้นกับรองแม่ทัพมู่ในช่วงนั้น พวกเขาถูกจับได้ว่าโกงเสบียงในกองทัพจนถูกคุมขังแต่หนีออกมาได้ จากนั้นก็สืบเสาะหาครอบครัวของรองแม่ทัพมู่คิดจะทำการแก้แค้น”

“คุณชายจินท่านสืบได้ละเอียดถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”

“เคราะห์ดีของข้าที่เจอนายทหารเก่าที่เคยทำงานในกองทัพเดียวกับ รองแม่ทัพมู่พวกเขานึกถึงเรื่องอาฆาตมาดร้ายพวกนี้ได้ พอเขาเล่าให้ข้าฟัง ข้าจึงไปตามหาครอบครัวของคนพวกนั้นจนได้รู้ว่าพวกเขาคิดจะแก้แค้นจริงจนบัดนี้คนร้ายที่มาบุกสกุลมู่ในคืนนั้นก็ยังมิได้กลับไปหาครอบครัวอีก จากนั้นก็กลับมาเมืองหลวงสอบสวนผู้คนในจวนสกุลมู่ที่อยู่ในคืนวันเกิดเหตุ”

“เสี่ยวลิ่งตอนเจ้าถูกช่วยชีวิตเอาไว้มีสิ่งติดตัวมาด้วยหรือไม่?”

จังเสี่ยวลิ่งนึกทบทวนอยู่ครู่หนึ่ง “ท่านแม่บุญธรรมเคยเอาด้ายแดงที่ถักคล้องเหรียญอีแปะทองคำให้ข้าดู ท่านบอกว่ามันติดข้อมือข้ามาจึงได้เก็บเอาใส่กล่องไว้ ภายหลังท่านพ่อกับท่านแม่เสียชีวิตข้ากลับหามันไม่พบ”

จินวั่งซู่ยิ้มกว้าง...เป็นนางจริงๆ ด้วย!

“ใช่สิ่งนี้หรือไม่?”

เชือกสีแดงเส้นเล็กๆ ที่ถักคล้องเหรียญอีแปะสีทองอร่ามขนาดสั้นพอที่จะรัดรอบข้อมือเด็กถูกจินวังซู่แบมือยื่นออกมาให้นางดู เหรียญอีแปะนั้นทำจากทองคำแท้ บนเหรียญมีอักษรเขียนไว้สองตัวคือ ‘’มู่กับหง”

“ใช่ๆ ท่านไปหาเจอที่ใดกัน?”

**********************************

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)