“ทำไมหรือขอรับ?”
“ยามนี้หลานเอ๋อร์เข้ามาอยู่ในเมืองหลวงแล้ว นางพักอยู่จวนรองแม่ทัพมู่และยังทำงานเป็นจิตรกรอยู่ในสำนักพู่กันทองของอาจารย์จ้าวอีก หากว่าซุนจ้านส่งเงินให้พวกนางจริง ไฉนจึงมิได้บอกกล่าวข้าในเรื่องนี้”
“นายท่านให้ข้าน้อยไปสืบเรื่องนี้ก่อนเถอะขอรับ”
หยุนเถิงเป็นคนคล่องแคล่วเขาหาวิธีหลบหลีกเข้าไปในห้องของพ่อบ้าน ซุนจ้าน เมื่อเปิดดูบัญชีประจำเดือนพบว่ามียอดเบิกเงินระบุว่าส่งไปอำเภอเฉินทุกเดือนโดยผู้ที่ลงลายมือชื่อรับรองการจ่ายคือซิวฮูหยิน เบี้ยหวัดของพ่อบ้านลู่ก็ถูกเบิกนำไปส่งพร้อมกัน เมื่อค้นดูบัญชีในรอบปีนี้เรียบร้อย หยุนเถิงก็กลับไปออกไปรายงานให้นายท่านได้ทราบ
“หากยังมีการเบิกจ่ายเงินจริงข้าก็คงต้องไหว้วานให้เจ้าออกไปอำเภอเฉินเพื่อสอบถามคนที่นั่นแล้วล่ะว่าได้รับเงินจริงหรือไม่?”
“ข้าน้อยจะหลบไปได้อย่างไรเล่าขอรับ? หูตาของฮูหยินผู้เฒ่ากับฮูหยินใหญ่เต็มเรือนอยู่เช่นนี้”
“ข้ามิได้ติดต่อจังเยว่นานแล้วตามที่ได้รับปากท่านแม่เอาไว้ จดหมายที่เคยฝากซุนจ้านไปส่งสองสามครั้งก็บอกนางไว้แล้วว่าไม่ต้องตอบกลับมาเพราะเกรงว่าทางนี้จะรู้ความเคลื่อนไหว หากจะให้เจ้าออกไปอำเภอเฉินคงต้องหาข้ออ้างให้ดี”
ชิงเว่ยวางแผนเสร็จสรรพก็ออกไปพักผ่อนเรือนเล็กด้านหลัง นับตั้งแต่แต่งงานกันมาเขาเคยไม่เคยร่วมห้องกับฮูหยินใหญ่แม้แต่ครั้งเดียว...หากเป็นความผิดพลาด ชิงเว่ยก็หวังว่าชีวิตเขาจะทำพลาดเพียงครั้งเดียวเท่านั้น!
ซิวซีชวนมองดูสามีที่บัดนี้ขึ้นเป็นเจ้ากรมกลาโหมเดินผ่านเรือนใหญ่ของนางไปยังเรือนเล็กด้านหลัง “เจ้าดู! หากว่าข้าไม่คิดว่าเขาเป็นบิดาของเสี่ยวซานล่ะก็ ข้าก็คงไม่อดทนมาจนถึงวันนี้”
เจียวมี่มองดูร่างสง่างามของนายท่านที่ไม่ปรายตาสักน้อยมองมาทางเรือนภรรยาใหญ่ แต่กลับตรงไปสลับหลับนอนที่เรือนอนุภรรยาทั้งสองที่หลังจวน แม้ว่านายท่านจะให้ความเมตตาแก่บุตรชายคือ ชิงหลวนซานเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่เคยมีสักคืนที่จะมาเยือนในห้องนายหญิงของนาง เจียวมี่จำคืนวันวิวาห์ของซิวฮูหยินกับใต้เท้าชิงได้ คืนนั้นหลังจากเดินเข้าห้องหอแล้ว ชิงเว่ยไม่เพียงไม่ยอมเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวแต่ยังไม่ยอมร่วมเตียงอีกด้วย เขารังเกียจคุณหนูซิวที่ใช้เล่ห์เพทุบายในการทำให้เขาจนมุมจำต้องยอมแต่งนางเป็นฮูหยินเอก ทั้งๆ ที่เขามีคนรักอยู่แล้ว!
“ฮูหยินเจ้าคะ ผ่านมาตั้งสิบหกปีแล้ว ท่านยังไม่ชินอีกหรือเจ้าคะ?”
เจียวมี่ก็เหมือนกับนายหญิงของนาง ทั้งสองต่างปรารถนาในตัวของใต้เท้าชิงแต่ไม่อาจทำให้เขาหันมามองพวกนางได้
“เจ้าเล่าเจียวมี่ ท่านแม่ข้าอยากให้เจ้าเป็นอนุท่านพี่นักหนา ข้าให้โอกาสเจ้ายั่วยวนเขาสักเท่าใดก็ยังทำไม่สำเร็จสักที”
สาวใช้ที่ติดตามนางมาตั้งแต่อายุสิบสี่จนบัดนี้สามสิบปีแล้วกลับมิได้ออกเรือนเพราะนางปักใจมั่นอยากเป็นภรรยานายท่านเพียงผู้เดียว ซิวชีชวนเป็นผู้รู้ความลับว่าเหตุที่มารดาของนางผลักดันให้เจียวมี่เป็นของแถมที่แต่งออกมาพร้อมกันก็เพราะสาวใช้ผู้นี้มีรูปร่างเย้ายวนชวนลุ่มหลงยิ่ง เจียวมี่กับพี่ชายคนโตของนางลักลอบได้เสียกันหลายหนจนไปขอให้มารดาแต่งนางเป็นอนุภรรยา นายหญิงของสกุลซิวไม่ชอบที่เจียวมี่มักจะเล่นหูเล่นตากับบุรุษและพลอยชักชวนให้ซิวชีชวนเป็นไปเช่นนั้นด้วยจึงหาทางผลักดันนางให้ออกจากตระกูลซิวไป โดยการเร่งรัดให้คุณหนูซิวรีบแต่งงานและให้เจียวมี่ไปเป็นคนช่วยปรนนิบัติสามี
“ฮูหยินก็เห็นนี่เจ้าคะว่านายท่านใจแข็งสักเพียงใด? ขนาดท่านงดงามอ่อนหวานกว่าข้าไม่รู้เท่าไหร่ยังง้างใจนายท่านไม่สำเร็จเลยนะเจ้าคะ” เจียวมี่ตอบกลับอย่างหงุดหงิด ระหว่างนางกับซิวฮูหยินมีเรื่องลับๆ ให้ต้องช่วยกันปกปิดหลายเรื่องนัก เจียวมี่จึงมิค่อยกลัวซิวชีชวน
“หึ! ช่างเถอะ ในเมื่อเขาก็พอใจอยู่แต่เรือนหลังเล็ก ข้าก็ออกไปผ่อนคลายข้างนอกก็ได้”
อนุผังเป็นภรรยาคนที่สามแต่ถูกนับเป็นอนุภรรยาคนที่หนึ่งของใต้เท้าชิงที่ถูกคัดเลือกมาโดยฮูหยินผู้เฒ่า เมื่อนางเห็นว่าบุตรชายไม่ยอมร่วมห้องกับฮูหยินเอกจึงได้หาทางรั้งเขามิให้คิดถึงจังเยว่โดยการสรรหาสตรีคนใหม่ตบแต่งเข้ามาเป็นอนุภรรยา ใต้เท้าชิงลองใช้สตรีผู้นี้อยู่นานจึงเห็นว่านางเป็นคนซื่อไม่มีจิตอิจฉาริษยาผู้ใดชิงเว่ยจึงได้บอกกล่าวจังเยว่ในยามนั้นว่าเขาจะรับนางเป็นอนุภรรยาด้วยความเต็มใจ ผังเสี่ยวหรานมีบุตรชายหนึ่งคนนามว่า ‘ชิงเสี้ยว’ ซึ่งเกิดภายหลังชิงหลานหนึ่งปี
“ช่างพวกนางเถอะ ว่าแต่ท่านหมอเหวยมาหรือยัง?”
“มาแล้วขอรับ ตรวจร่างกายคุณหนูเล็กเสร็จแล้ว ตอนนี้กำลังดูแลการต้มยาอยู่ที่เรือนครัวขอรับ”
“ดี! กินข้าวเย็นเสร็จแล้วข้าจะออกไปดู เจ้าไปบอกอนุอันไว้ด้วย”
อันซิยี่เป็นอนุภรรยาคนที่สองที่บิดาของเขารับมาให้ เป็นเพราะตระกูลอันเคยช่วยเหลือเกื้อกูลบิดาของชิงเยว่ในตอนที่เข้ารับราชการใหม่ๆ แต่ภายหลังสกุลอันตกต่ำ นายท่านใหญ่จึงรับปากบิดาของอันซิยี่รับนางมาเป็นอนุภรรยาของบุตรชาย
อนุอันเป็นคนเงียบๆ ชอบทำงานฝีมือ นางเป็นคนว่านอนสอนง่ายทำให้ใต้เท้าชิงรู้สึกพอใจ บุตรสาวคนเล็ก ‘ชิงเว่ยเว่ย’ ถือกำเนิดหลังจากอนุจังกับชิงหลานระเห็จออกจากเมืองหลวงไปแล้ว แต่สิ่งที่โชคร้ายคือบุตรสาวผู้นี้ประสบอุบัติเหตุตกลงไปในบ่อน้ำร้างขณะกลับไปเยี่ยมท่านตากับท่านยายที่นอกเมือง แม้จะเคราะห์ดีที่ยื้อชีวิตนางมาจากความตายได้แต่นางกลับไม่สามารถพูดได้และยังต้องนั่งรถเข็น ใต้เท้าชิงเสาะหาหมอทั่วทั้งเมืองหลวงมารักษาเด็กหญิงแต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ
“เว่ยเว่ย เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? วันนี้ได้ออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้างหรือไม่?”
สาวน้อยในชุดแต่งกายสีเหลืองสดใสบนรถเข็นหันมาส่ายหน้าเบาๆ ความทุกข์ที่นางต้องอยู่ในร่างที่ทั้งพูดไม่ได้และเดินไม่ได้นี้ช่างนักหนานัก!
***************************
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)