จินวั่งซู่ที่ได้ฟังทีแรกเพียงว่าซิวฮูหยินสะกดรอยตามใต้เท้าจื้อถึงกับหูผึ่ง
“นางหึงหวงใต้เท้าจื้อด้วยหรือ?”
“ข้าดูท่าทางนางเหมือนเป็นอย่างนั้นนะเจ้าคะ” มู่เยี่ยนฟางผงกศีรษะรับ
“อา...เห็นทีเรื่องนี้ท่าจะสนุกซะแล้ว!”
จินวั่งซู่จินตนาการบรรเจิด เขาเริ่มเห็นเค้าลางบางอย่างที่น่าสนใจระหว่างคนทั้งสาม “ที่เจ้าว่าซิวฮูหยินไปสอบถามแม่สื่อเรื่องของคุณหนูรองเผย นางอาจจะคิดหาทางให้เผยหนิงเอ๋อร์รีบแต่งงานไปเสียให้พ้นทางรักของนางก็เป็นได้!”
“ถ้าเช่นนั้น...ข้าเห็นจะต้องลงมือก่อน” ชิงหลานเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ขณะนั้นมือปราบหนุ่มจั๋วเหรินหาวก้าวเท้าเข้ามาในห้องพอดี
“เจ้าจะทำอันใดหรือ?”
“ศิษย์พี่! ท่านมาได้เวลาพอดี มา มา นั่งตรงนี้ฟังข้าอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดก่อน”
จั๋วเหรินหาวทำหน้าเหรอหราเมื่อเห็นคนทำสามพยักหน้าพร้อมกัน เขานั่งลงเก้าอี้ที่ว่างด้านขวามือของคุณชายจิน ชิงหลานลุกจากเก้าอี้ของนางมายังกระดานที่มีกระดาษขึงไว้ ก่อนจะหยิบพู่กันขึ้นมาเขียนชื่อของคนทั้งสาม จื้อซุ่นซี ซิวซีชวนและเผยหนิงเอ๋อร์ แล้วก็เริ่มการบรรยายความสัมพันธ์อันซับซ้อน
“เจ้าคิดว่าซิวฮูหยินยังคงรักใคร่ในตัวใต้เท้าจื้องั้นหรือ?”
“ข้าว่าใช่!” มู่เยี่ยนฟางยกมือขึ้นยืนยัน
“ข้าก็คิดว่าใช่! ในเมื่อพวกเขาเคยเป็นคู่รักกันมาก่อนก็อาจจะยังมีเยื่อใยหลงเหลืออยู่ ท่านลองคิดดูสิว่าหากในครั้งนั้นนางแต่งงานกับท่านพ่อของข้าด้วยความจำใจ สุดท้ายกลับมาพบกับใต้เท้าจื้ออีกครั้ง”
“เจ้าจะบอกว่าถ่านไฟเก่าของพวกเขาคุงั้นหรือ?”
ชิงหลานกับมู่เยี่ยนฟางลุกขึ้นตบมือคนละครั้งพร้อมกันเกิดเสียงดังลั่น
โพ๊ะ!
“อ๊ะ! แบบนั้นล่ะ...ศิษย์พี่ ท่านสรุปได้ตรงใจข้า”
“แล้วที่เจ้าว่าเจ้าจะชิงลงมือก่อน เจ้าคิดจะทำสิ่งใด?” จินวั่งซู่ยังคงข้องใจในคำพูดของชิงหลานก่อนหน้านี้
“ข้าก็จะทำให้นางสมหวังกับใต้เท้าจื้อน่ะสิ!”
คุณชายจินกับมือปราบจั๋วทำหน้าเหวอ
“หากนางคิดจะแต่งกับใต้เท้าจื้อ นางก็เป็นได้แค่อนุภรรยา จะเหมาะสมกับฐานะของนางหรือ?”
ชิงหลานตวัดสายตาขวับกลับมายังจินวั่งซู่ “ยังคิดเรื่องความเหมาะสมไปไย? นางลักลอบเล่นชู้กับคนผู้นั้นแล้ว หากยังคิดจะแต่งไปเป็นฮูหยินของผู้อื่นจะเป็นการยุติธรรมกับเจ้าบ่าวหรือเจ้าคะ?”
“จริงของเจ้า! หากว่ามีผู้เปิดโปงเรื่องนี้ในภายหลัง สกุลเผยคงอับอายแทบแทรกแผ่นดินหนี เมื่อครั้งเรื่องของถังหนิงหวงก็ทำให้ใต้เท้าเผยไม่กล้าสู้หน้าผู้คนไปแล้วคราหนึ่ง หากเรื่องนี้แพร่ออกไปคงแทบจะเอาปี๊บคลุมหัว จะว่าไปในหมู่บุรุษในเมืองหลวงข้าก็เคยได้ยินคำนินทาเรื่องของนางกับคุณชายหลายคน เพียงแต่นางไม่เคยถูกจับได้คาหนังคาเขาเท่านั้น”
“น้องสิบห้า เจ้าชะเง้อหาผู้ใดกัน? ข้าเห็นเจ้าใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเลยคืนนี้” ชินอ๋องที่อุ้มพระธิดาองค์เล็กหันมาทักพระอนุชาที่นั่งถัดไปจากอ๋องเก้า
“พี่ห้า ท่านยังดูไม่ออกอีกหรือ? น้องสิบห้ากำลังมีความรักน่ะสิ!” ท่านอ๋องที่กำลังพยายามดึงบุตรชายที่งอแงอยากไปเลือกโคมไฟกับพี่ๆ ให้นั่งตักของตนหันมาบอกชินอ๋องด้วยใบหน้ายิ้มละไม
“หือ! นางอยู่ในงานนี้ด้วยหรือ?”
“ใช่! แต่ว่านางยังไม่ปักปิ่นต้องรอไปอีกหลายเดือน ท่านจึงจะมีโอกาสได้เห็น ส่วนข้า...ได้เห็นแล้วนางน่ารักและฉลาดทีเดียว”
“ใช่...จิตรกรน้อยคนนั้นหรือไม่?”
“ความจำท่านใช้ได้นี่? ข้านึกว่าท่านจำแต่เรื่องภรรยากับลูกซะแล้ว” อ๋องเก้ารู้ว่าพี่ชายของตนใส่ใจเรื่องครอบครัวมากกว่าสิ่งอื่น เมื่อพระชายา ฟ่านซิ่วอิงขอให้กลับมาร่วมเทศกาลโคมไฟ ชินอ๋องก็ยอมลางานจากค่ายพยัคฆ์เหิน เป็นเพราะบ้านเมืองในยุคนี้สงบสุข กองทัพจึงไม่มีเรื่องให้ร้อนใจ
“ทำอย่างกับว่าเจ้าละเลยภรรยาได้นี่?”
“ก็ได้ๆ ข้าไม่ล้อท่านแล้ว”
“ตกลงว่าสัญญาหมั้นหมายกับตระกูลจื้อเจ้าสิบห้าจัดการเรียบร้อยแล้วหรือ?” ชินอ๋องรู้สึกเป็นห่วงองค์ชายสิบห้าเพราะพระชายาของตนเล่าข่าวลือของใต้เท้าจื้อผู้นั้นให้ฟัง
“คงอีกไม่นานหรอก ตอนนี้กำลังหาหลักฐานอยู่ว่าลายมือบนสัญญานั้นเป็นของปลอม”
**************************
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)