เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook) นิยาย บท 233

เผยหนิงเอ๋อร์แอบลอบฟังการสนทนาระหว่างจื้อซุ่นซีกับเหล่าหนานจึงได้รู้ว่าคนทั้งสองมีสมุดรายชื่อของผู้รับสินบนทั้งหมด คนพวกนั้นล้วนเคยประทับลายนิ้วมือเพราะเห็นแก่เงินจำนวนมากที่ตนจะได้รับ นับว่าใต้เท้าจื้อไม่ยอมเสียเปรียบผู้ใด...เพราะหากสมุดเล่มนี้ถูกนำขึ้นถวายหมิงฮ่องเต้ล่ะก็...หัวของคนมากมายก็ย่อมหลุดออกจากบ่า

“หากพวกเขายังเซ้าซี้เรื่องเงินทองกับเจ้าอีกก็บอกไปเลยว่า...ยามนี้คงต้องปล่อยให้เรื่องเงียบกันไปก่อน”

“ทองที่นายท่านเก็บไว้จะไม่แจกจ่ายพวกเขาหน่อยหรือขอรับ?”

“ไม่ได้! ทองนั่นมีตราพระราชลัญจกรของอดีตฮ่องเต้ หากปล่อยให้ผู้อื่นเห็นเข้าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ เดิมทีฮ่องเต้ทรงนำออกมาใช้เพื่อซื้อเกลือกับข้าวสารจากแคว้นเหลียน และอีกส่วนเอาไปซื้อดินในการก่อสร้างเขื่อน จู่ๆ หากปรากฏทองเหล่านี้ขึ้นในเมืองหลวงก็จะสืบพบได้ง่าย”

จื้อซุ่นซีแอบตกลงกับขุนนางผู้ใหญ่กรมการคลังให้นำทองพวกนั้นมาซื้อเกลือหนีภาษีจากตนไปส่วนหนึ่งในราคาที่ถูกกว่าราคาทั่วไป โดยขุนนางผู้นั้นได้เงินใต้โต๊ะไปด้วย ทำให้ทองของอดีตฮ่องเต้ตกมาอยู่ในห้องเก็บสมบัติของ ใต้เท้าจื้อ

เผยหนิงเอ๋อร์ตื่นตกใจ นางเพิ่งรู้ว่าตำลึงทองที่นางลอบขโมยไปคือทองที่ไม่อาจจะเอาออกมาใช้ได้เพราะอาจนำภัยมาสู่ตน เมื่อนางกลับไปถึงเรือนจึงบอกไถส่วงให้รู้เรื่องนี้

“นายหญิง ท่านว่านายท่านจะไปนับดูทองอีกครั้งไหมเจ้าคะ?”

“ยามนี้เขามัวแต่วุ่นวายเรื่องกลัวคนจะมาวางยาฆ่าตนเอง จะเอาเวลาใดมาสนใจนับทองพวกนั้นเล่า? รอให้งานศพของจี่หย่าจิ้งจบลงไปก่อนเถอะ ข้าต้องหาวิธีครอบครองจวนสกุลจื้อให้ได้”

จื้อจื่อชงที่รู้จากน้องสาวว่ามารดามีอาการคล้ายคนถูกยาพิษก็เข้าไปถกเถียงกับบิดาในห้องหนังสือ จื้อต่ายวี่ตามติดเข้าไปด้วยนางพุ่งเป้าไปที่อนุเผยเพราะคิดว่าอนุเผยคงอยากจะเป็นฮูหยินเอก

“อนุเผยไม่เคยแสดงตัวเสียหน่อยว่าอยากจะแทนที่มารดาของเจ้า” จื้อซุ่นซีเอ่ยเสียงเข้มหน้าตาตึงใส่บุตรสาว

“ตั้งแต่อนุเผยเข้ามาในจวน นางก็ไม่เคยอ่อนข้อให้ท่านแม่เลยสักครั้งเพราะนางถือว่าท่านพ่อโปรดปรานนางยิ่งกว่าผู้อื่น หากไม่เป็นนางแล้วจะเป็นผู้ใดล่ะเจ้าค่ะ?”

“วี่เอ๋อร์ เจ้าเป็นคุณหนูในห้องหอยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ภายนอกบ้าง? ปิดปากตนเองไว้ซะแล้วกลับออกไปข้างนอกดูแลงานศพแม่เจ้าให้เรียบร้อยจะดีกว่า”

“ท่านพ่อ!”

“วี่เอ๋อร์! ไม่ได้ยินที่พ่อสั่งหรือ? ออกไปเดี๋ยวนี้!”

จื้อต่ายวี่ได้แต่ฮึดฮัด นางไม่กล้าขัดคอบิดา ใต้เท้าจื้อมิใช่คนตามใจลูกมาแต่ไหนแต่ไร นางกับพี่ชายถูกเลี้ยงให้อยู่ภายใต้คำสั่งอันเข้มงวดมาโดยตลอด เมื่อบิดาบอกกล่าวด้วยใบหน้าเคร่งขรึมนางจำต้องกัดฟันก้มหน้าออกจากห้องไป

จื้อจื่อชงก้มหน้ารอฟังท่านพ่อของตนสั่งการด้วยความสงบ เขาเองก็รู้สึกสงสัยเช่นเดียวกับน้องสาว แต่หากเอาแต่กระโตกกระตากก็คงจะเสียการ

ใต้เท้าจื้อพยักหน้า “พ่อเองก็คิดเช่นนั้น คนของเราไปสืบดูแล้วก็พบว่ามีสองสามคนที่เคยทำงานให้ใต้เท้าจาง”

“ท่านพ่อบอกว่าใต้เท้าจางขอชีวิตอู่ฉางชิงไว้ บางทีอาจจะเป็นใต้เท้าจางที่คิดจะหักหลังพวกเรานะขอรับ!”

“แม้พ่อจะคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ แต่ยามนี้ก็ไม่แน่ หลังจากเจ้าออกจากเรือนลับแล้ว คนของใต้เท้าจางก็มาพาอู่ฉางชิงไปซ่อนตัว หากว่าคนที่คิดฆ่าจงเหยียนคือคนของใต้เท้าจาง ฉะนั้นคนที่จงเหยียนเห็นในคืนนั้นก็ต้องเป็นเขา”

จื้อซุ่นซีคิดกลับไปกลับมาหลายตลบ เขากับใต้เท้าจางร่วมมือกันมาตั้งแต่เริ่มลักลอบค้าเกลือหนีภาษีด้วยกันขบวนแรก โดยมีเขาเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมดในขณะที่ใต้เท้าจางทำหน้าที่ตรวจสอบเส้นสายภายในและชี้เป้าให้เขาเป็นผู้ไปติดสินบนขุนนางเพื่อให้เกลือเหล่านั้นผ่านทางได้สะดวก ภายหลังเมื่อเครือข่ายขุนนางชั้นผู้น้อยมากเข้า เขาจึงเริ่มมาทำหอคณิกาเถื่อน อาศัยประโยชน์จากตำแหน่งหน้าที่หัวหน้าสำนักมือปราบเมืองหลวงของจางหยงหย่วนทำให้รอดพ้นการปราบปรามมาได้ กระทั่งองค์ชายสิบห้าเข้ามาดูแลคดีทั้งสองอย่างจริงจังจึงทำให้การค้าทั้งสองทางเกิดสะดุด

“ในเมื่อพวกเราไม่อาจจะกำจัดองค์ชายสิบห้าที่เป็นต้นตอปัญหาได้โดยง่าย การทำลายหัวใจของพระองค์ก็อาจจะเป็นหนทางที่ถูกต้อง ในเมื่อองค์ชายทรงรักใคร่บุตรีสกุลชิงผู้นี้นัก หากเรากำจัดนางไปได้ บางทีองค์ชายอาจจะไม่มีแก่ใจจะมาตามไล่ล่าพวกเราอีก การสูญเสียสตรีอันเป็นที่รักย่อมสร้างความเจ็บช้ำให้แก่บุรุษอย่างใหญ่หลวง” สายตาของจื้อซุ่นซีเหม่อลอยรำลึกไปถึงคราที่เขาถูกซิวซีชวนสลัดทิ้งอย่างไม่ไยดี

ครั้งนั้นเขาเองก็จมอยู่กับความทุกข์โศกไปหลายเดือน เฝ้าแต่ดื่มสุราคลายความกลัดกลุ้มกระทั่งเปลี่ยนเป็นความคุมแค้น เมื่อรู้ว่านางถูกสามีชิงชังตั้งแต่วันเข้าเรือนหอ เขาก็วางแผนกลับไปตอแยกับนาง ช่วงนั้นซิวซีชวนรู้ว่า ชิงเว่ยมีเพียงจังเยว่หญิงนอกสมรสผู้นั้นอยู่ในหัวใจจึงได้คิดยืมมือจื้อซุ่นซีกำจัดศัตรู เขาได้โอกาสจึงรีบเสนอความช่วยเหลือและขณะเดียวกันในฐานะถ่านไฟเก่าความสัมพันธ์ของทั้งสองจึงรื้อฟื้นได้ไม่ยาก

“เสี่ยวชง...เราควรอาศัยจังหวะนี้กำจัดคนทรยศของเราไปด้วย!”

*************************