เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook) นิยาย บท 83

องค์ชายสิบห้าพระพักตร์ไม่สู้ดีเมื่อได้ยินว่ากังซือเฉินได้รับเชิญจากคุณหนูชิงให้ไปรับประทานอาหารที่จวน องครักษ์กังผู้พี่รู้สึกถึงความกริ้วเป็นระลอกแผ่ออกจากพระวรกาย ทุกคราวที่องค์ชายเสด็จไปเสวยพระกระยาหารที่จวนสกุลชิงเป็นเพราะทรงบังคับเจ้าของเรือนทั้งสิ้น จะมิให้อิจฉากังซือเฉินในยามนี้น่าจะยากยิ่ง องครักษ์กังผู้พี่นึกอยากจะหันไปห้ามญาติผู้น้องมิให้กราบทูลสิ่งใดต่อ ทว่าไม่ทันเสียแล้ว!

“หม่อมฉันอยากทูลขอว่าต่อไปให้หม่อมฉันอารักขาคุณหนูชิงโดยเปิดเผยได้หรือไม่พะยะค่ะ?”

“เพราะเหตุใด?”

“เมื่อวานเพียงแค่หม่อมฉันไปช่วยนางถือของจากตลาดและเดินไปส่งถึงจวน คุณหนูชิงก็เชิญหม่อมฉันเข้าจวนและเลี้ยงอาหารอร่อยๆ หม่อมฉันแล้วพะยะค่ะ”

องค์ชายพระพักตร์คล้ำมืดลงไปหลายส่วน ‘ข้ายังต้องบีบบังคับจึงจะได้ไปกินข้าวที่จวนนั้น แต่เจ้า...แค่ไปช่วยนางถือของก็ได้รับเชิญแล้วงั้นหรือ?’

องครักษ์กังผู้พี่เหมือนจะเดาพระทัยองค์ชายถูก ในใจก็นึกเกรงองค์ชายจะกริ้วและสั่งลงโทษญาติผู้น้อง

“ไม่ได้! เจ้าแค่ตามดูแลนางห่างๆ ก็พอ”

กังซือเฉินไม่เข้าใจว่าเหตุใดองค์ชายจึงต้องให้ตนลอบดูแลคุณหนูชิง? การอารักขาโดยเปิดเผยไม่ดีหรือไรกัน? ได้แต่คิดและสงสัยแต่ไม่กล้าเอ่ยออกมา....

มิใช่มีเพียงองค์ชายเท่านั้นที่รู้สึกหงุดหงิดแต่องครักษ์จงที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกอยากจะชกหน้าเจ้าแซ่กังผู้น้องสักหมัด...ปิ่นที่เตรียมไว้ให้นางยังอยู่ในอกเสื้อ เขายังไม่มีโอกาสได้ปรับความเข้าใจกับนางสักนิด แต่กังซือเฉินกลับได้ไปเดินเที่ยวตลาด ช่วยนางซื้อถือของ ซ้ำยังกินอาหารอยู่ในจวนสกุลชิงอีก!

องครักษ์กังผู้น้องออกมาวิหารเก้าเทพหวังจะมาหาเสี่ยวลิ่งเพื่อตกลงกับนางเรื่องอาหาร สองนายบ่าวกำลังทำงานอยู่หน้าผนังวิหารอย่างคร่ำเคร่งจึงยังไม่สะดวกจะหันมาพูดคุยกับองครักษ์หนุ่ม

“เช่นนั้นข้าจะรอให้เจ้าเสร็จงานก่อนก็แล้ว”

เสี่ยวลิ่งยกมือขึ้นโบกเป็นเชิงให้รอตอนที่นางเสร็จงานแล้วค่อยมาคุยกัน พักใหญ่องค์ชายสิบห้าเสด็จออกมาทอดพระเนตรจิตรกรที่ทำงานในวิหารเก้าเทพทีละชั้นอย่างพินิจพิเคราะห์ จงเหยียนที่เดินตามมาข้างหลังมองเห็นกังซือเฉินนั่งเฝ้าอยู่ไม่ไกลเสี่ยวลิ่งก็หน้าคล้ำลงไปทันควัน

“กังเฉิน น้องชายของเจ้าดูเหมือนจะติดใจจวนสกุลชิงนะ” น้ำเสียงของ จงเหยียนดูขบเขี้ยวเคี้ยวฟันจนองครักษ์จังผู้พี่นึกเป็นห่วงญาติผู้น้อง

‘ซือเฉินนะซือเฉิน เจ้าสร้างศัตรูคราวเดียวถึงสองคนโดยไม่รู้ตัวเช่นนี้ ข้าคงต้องเตือนเจ้าสักหน่อยแล้ว’

องค์ชายสิบห้าเดินตรวจตราผลงานของจิตรกรทุกคนเรียบร้อยแล้วก็ไปหยุดยืนอยู่ด้านหลังชิงหลานเป็นคนสุดท้าย ทรงข่มใจไม่พูดคุยกับนางแม้สักประโยค จากนั้นก็สะบัดชายพระภูษาจากไป

เผยมู่ซีหันหลังมามองหมิงเฉิงอวี่แวบหนึ่ง ตลอดเวลาที่เขายืนอยู่ข้างหลังนางทำให้กดดันยิ่ง เขาไม่พูดไม่จาเอาแต่ถอนหายใจยืนเฝ้าดูนางอยู่นานคล้ายมีเรื่องหงุดหงิดเสียเหลือเกิน

‘ไปเสียได้ก็ดี จู่ๆ ก็มาทำตัวกดดันข้า พิลึกคนเสียจริง!’

แม้นางจะรู้สึกแปลกๆ อยู่สักหน่อยแต่ก็รู้สึกโล่งใจที่เขายอมไปเสียที จนช่วงพักกลางวัน องครักษ์กังผู้น้องก็เข้ามาประจบประแจงพวกนางทั้งสอง

“เจ้าอยากได้อาหารที่จวนของข้าหรือ?”

“ใช่ๆ ข้าขอแบ่งซื้อได้หรือไม่? มิใช่ว่าดูถูกจวนเจ้าหรอกนะ แต่ข้าติดใจรสมือของจังฮูหยินจริงๆ ข้าอยากจะให้เจ้าทำอาหารมาเผื่อพวกข้าสำหรับกินตอนเที่ยงวัน”

“ได้สิๆ แต่ราคาอาหารขึ้นกับวัตถุดิบนะ”

“เรื่องราคาไม่มีปัญหา”

เสี่ยวลิ่งได้ยินคำว่า ‘ซื้อ’ ก็หูผึ่ง นางมองเห็นโอกาสสร้างรายได้จึงรีบหลบไปตกลงราคากับกังซือเฉิน โดยมีชิงหลานยืนยิ้มรออยู่ห่างๆ

“ขอบใจมากเสี่ยวลิ่ง”

จงเหยียนโมโหจนหน้ามืด เขาไม่คิดเลยว่าแค่ตัวเขาไปเมืองหลวงสิบสี่วัน เสี่ยวลิ่งกับกังซือเฉินจะสนิทสนมกันถึงขั้นทำอาหารเที่ยงมาส่งเช่นนี้ องครักษ์หนุ่มเซถอยหลังสองก้าว ยกมือขวาขึ้นกดขมับแรงๆ สองสามที รีบก้าวเท้าตามกังซือเฉินที่หิ้วปิ่นโตไม้อันใหญ่ไปด้านหลังอาคาร องครักษ์กังผู้น้องยิ้มระรื่น อาหารวันนี้เป็นขาเป็ดเห็ดหอม ปลาเส้นดอกกุ้ยฮวา กับขนมจีบดิ้นทอง

“เร็วเข้า! ข้าเอาของกินมาแล้ว” กังซือเฉินวางปิ่นโตลงบนโต๊ะแล้วยกอาหารออกมาวางทีละจาน กลิ่นอาหารส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายยิ่งนัก องครักษ์อีกสองคนที่ออกเงินช่วยกันกับกังซือเฉินรีบถือถ้วยข้าวกับตะเกียบมาวาง

“นี่ของเจ้า...เห็นแก่ที่ลำบากหาอาหารอร่อยมาให้พวกเราได้กิน หากว่าเจ้าไม่สนิทกับเสี่ยวลิ่งล่ะก็ เห็นทีพวกเราคงไม่ได้กินของอร่อยเช่นนี้”

จงเหยียนที่แอบอยู่ผนังด้านข้างได้ยินบทสนทนาของคนทั้งสามก็ยิ่งโมโห

‘นางสนิทสนมกับกังซือเฉินเช่นนี้ ข้าก็คงไม่มีความหมายเลยสินะ’

ยิ่งคิดจงเหยียนก็โกรธตัวเองที่ไม่มีเวลาได้เข้าใกล้นางเหมือนอย่างกังซือเฉิน และก็พาลโกรธนางที่เห็นกังซือเฉินไปป้วนเปี้ยนอยู่ด้วยไม่กี่วันก็ถึงกับทำอาหารมาส่งคนผู้นั้น...ช่างน่าโมโหเสียจริง!

องครักษ์จงเดินฟึดฟัดออกมาจากหลังอาคาร พบกับองครักษ์กังสหายสนิทที่กำลังเดินตามหาเพื่อเรียกให้เขาไปรับประทานอาหารเที่ยง

“เจ้าเป็นอันใด? สีหน้าเหมือนอยากจะต่อยคนแบบนั้น”

*******************

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)