ตอนที่ทั้งทีมเข้าไปในห้องทำงานของประธาน เหลิงหยุนฉีกำลังคุยโทรศัพท์อยู่
ห้องทำงานชั้นบนสุด แสงสว่างมาก
เหลิงหยุนฉีนั่งอยู่บนเก้าอี้ โดยหันหลังให้กับประตูห้องทำงาน เธอหลับตาลงเพลิดเพลินกับแสงแดดอย่างสบายๆ
เสียงของผู้กำกับเคอ ดังมาจากในโทรศัพท์ มันทั้งอบอุ่น และเป็นห่วงเป็นใย
ถ้าคนที่ไม่รู้ คงคิดว่าทั้งสองคนคบกันมาหลายปีแล้ว
เหลิงหยุนฉีฟังอยู่แบบนั้น โดยไม่ขัดจังหวะ จนกระทั่งอีกฝ่ายกระแอมไอ “เออ งั้นคุณไปทำงานเถอะ ตอนที่คุณกลับไปที่เมืองหลวงอย่าลืมบอกฉันด้วย คนในทีมเครื่องแต่งกายอยากจะวัดตัวคุณ จะได้สั่งตัดเสื้อผ้าการแสดงได้ง่ายๆ”
เหลิงหยุนฉีอดที่จะยิ้มไม่ได้
น้ำเสียงนั้นมีความหมายที่ลึกซึ้งมาก จนผู้กำกับเคอหน้าแดง
ทางทีมงานต้องการวัดตัวที่ไหนกัน เห็นได้ชัดว่าเขากลัวว่าเหลิงหยุนฉีจะมีความสุขกับการใช้ชีวิตในเซี่ยงไฮ้มากเกินไป ก็เลยเปลี่ยนใจกะทันหัน และลืมเรื่องที่มีดารารับเชิญในภาพยนตร์ไปเลย
“วางใจเถอะ ในเมื่อฉันตกลง ฉันจะไม่เปลี่ยนใจ” เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู เหลิงหยุนฉีพูดกับผู้กำกับเคอไม่กี่คำ ก่อนจะวางสายไป วินาทีถัดมา เก้าอี้หันกลับมา ท่ามกลางแสงแดดที่ส่องเข้ามา เผยให้เห็นใบหน้าของเธอ
มานอิงหยุดหายใจไปชั่วขณะ!
เธอถือได้ว่าเป็นคนที่เคยติดต่อกับบุคคลที่มีชื่อเสียงและดารามามากมาย แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่งดงามของเหลิงหยุนฉี เธอหายใจไม่ออกไปชั่วขณะ
แสงแดดสอดส่องไปที่เธอ และได้เพิ่มออร่าให้กับเธอ
ความงามนั้นแทรกซึมผ่านรูปลักษณ์และเข้าไปอยู่ในจิตวิญญาณโดยตรง รวมถึงมีกลิ่นอายของความก้าวร้าวแอบแฝงอยู่ จนทำให้รู้สึกชาไปทั้งตัว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนทีเหลิงหยุนฉีกวาดมองมา แสงด้านหลังของเธอเป็นประกายอย่างมาก แต่ก็ยังสู้สายตาของเธอไม่ได้
ในขณะนั้น เธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกจับจ้องจากเธอทุกตารางนิ้ว
ทั้งที่เธอก็ยังเด็ก แต่ทำไมความรู้สึกที่เธอส่งมาถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้?
มานอิงชะงักไปครู่หนึ่ง ไม่ได้กล่าวทักทายเลย ในฐานะคนรับผิดชอบของทีม แม้แต่เธอก็ยังมีปฏิกิริยาแบบนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่นเลย
พนักงานสไตลิสต์ที่พบเห็นสาวสวยจนเคยชินไปแล้ว ตอนนี้กลับยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น
พวกแมวมองในวงการบันเทิง ควรจะต้องล้างตาบ้าง ตอนนี้ดาราสาวในวงการที่มักจะถูกพวกเขาชมว่า “สวยสดงดงาม มีเสน่ห์ดึงดูดใจ” ถ้าเอามาเทียบกับคนตรงหน้าคนนี้ พวกเธอก็เป็นแค่อะไรไม่รู้ ต่างก็เป็นเรื่องตลกทั้งนั้น!
ดูเหมือนผู้ช่วยเหมยจะไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาจะมีท่าทีเช่นนี้ เธอรับช่วงต่อ โดยแนะนำทุกคนให้เหลิงหยุนฉีรู้จัก
“คุณเหลิง ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” มานอิงเพิ่งรู้สึกตัว แต่เธอไม่ได้แสดงท่าทีเขินอาย เธอยื่นมือออกไปด้วยความยินดี
รูปร่างหน้าตาอย่างเหลิงหยุนฉีนี้ ไม่ว่าเธอจะแต่งตัวสไตล์ไหน เธอก็เอาอยุ่ทุกสไตล์ ประเด็นคือ ในเมื่อเชิญพวกเขามาแล้ว แน่นอนว่าผลรับที่ได้ต้องไม่ธรรมดา ขณะที่จับมือ มานอิงก็สังเกตท่าทีของเหลิงหยุนฉีอย่างระมัดระวัง และในสมองเธอก็มีเริ่มคิดถึงสไตล์การแต่งตัว
เหลิงหยุนฉียิ้มและจับมือกับเธอ จากนั้นก็มองไปยังชายร็อกเกอร์ที่ยืนอยู่ข้างๆ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “มีอะไรติดอยู่บนหน้าฉันหรือเปล่า?”
เป็นเพราะเธอมีรูปร่างหน้าตาที่ดีมากๆ จนมานอิงรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
“เรื่องเสื้อผ้า วันนี้ฉันเอาเสื้อผ้าไปใส่ในห้องแต่งตัวบางส่วนแล้ว พวกคุณลองดูก็ได้ว่าวันนี้เหมาะกับการถ่ายภาพกับชุดไหนมากกว่ากัน” เหลิงหยุนฉีกดปุ่มอัตโนมัติ ทันใดนั้น ประตูพับก็ปรากฏขึ้นทางทิศตะวันตกของห้องทำงานขนาดใหญ่
ด้านในประตู มีชุดเดรสหลากหลายสไตล์วางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ
ที่จริงทางทีมมานอิงก็ได้เตรียมเสื้อผ้ามา แต่ตอนที่ดวงตาของพวกเขามองไปที่เสื้อผ้าเหล่านั้น พวกเขาก็ไม่สามารถละสายตาได้เลย
ทั้งหมดนี้เป็นคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดจากทางยุโรป มีหลายคนในประเทศยังไม่เคยได้ใส่
อย่างน้อยก็ต้องเป็นระดับ VVIP ของแบรนด์หรูเหล่านี้เท่านั้น ถึงจะมีสิทธิ์ซื้อ
อะไรที่เรียกว่าทั้งหน้าตาดี ฐานะดี หรูหราและใจกว้างขนาดนี้???
ไม่ใช่ว่าไม่เคยแต่งตัวให้กับลูกสาวของตระกูลที่ร่ำรวย หรือหญิงสาวที่ร่ำรวยมาก่อน แต่เมื่อเทียบกับเหลิงหยุนฉีที่มีท่าทางสบายๆ ตรงหน้านี้...
เป็นการเปิดประสบการณ์!
เป็นการเปิดประสบการณ์จริงๆ! !
ในฐานะทีมสไตลิสต์ชั้นนำในเซี่ยงไฮ้รวมถึงในประเทศ เป็นครั้งแรกที่พวกเขาสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ที่ไม่ธรรมดาของคุณหนูตัวท็อปในตระกูลที่ร่ำรวย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่เป็นนางร้าย เอ๊ย! นางเอก