ทางฝ่ายประชาสัมพันธ์โพสต์รูปของเหลิงหยุนฉีพร้อมกับประกาศการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งประธานบริษัทลงบนเว็บไซต์ทางการของบริษัท และทำการแชร์ไปให้พนักงานทุกคน ทำให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่
โอ้พระเจ้า! โอ้พระเจ้า! โอ้พระเจ้า!!! ไอดอลในละครออกมาในโลกความเป็นจริง! ทำไมถึงเหมือนนางฟ้าได้ถึงขนาดนี้นะ!
“ขอบอกตามตรง ซีรี่ย์ “รักใสๆ หัวใจสี่ดวง” อะไรพวกนั้น ต้องถอยหลังให้เลย นี่ต่างหากที่เป็นผู้ชนะในชีวิตจริง!”
“ได้ข่าวกันไหม ในการประชุมช่วงเช้าวันนี้ ท่านประธานแสนสวยสุดเท่ของเราคนนี้ทำการน็อกเอาต์คุณเจียง ไปภายในสิบนาที ฉันได้ยินมาว่าตอนนี้อีกฝ่ายถูกส่งไปดำเนินคดีแล้ว”
“ฉันได้ยินข้าวที่ใหญ่กว่าอีก! อีกไม่ช้านี้บริษัทของเราจะมีการเปลี่ยนแปลงบุคลากรครั้งใหญ่!”
“นี่หรือคือประเด็นเหรอ??? ประเด็นคือท่านประธานของเราและเจ้าพ่อภาพยนตร์เหลียงถ่ายรูปด้วยกัน!! ผู้กำกับเคอถึงกับขอร้องให้เธอเปลี่ยนอาชีพ! เหตุการณ์นี้ มีเพียงคนเดียวที่ได้รับเกียรตินี้!”
“รูปนี้มาจากนิตยสารเล่มไหนเหรอ มันสุดยอดมาก! แทบจะหุบยิ้มไม่ได้เลย!!!”
ตลอดช่วงเที่ยง ไม่ว่าจะเป็นในห้องดื่มน้ำชา โรงอาหาร หรือในห้องทำงาน การสนทนาแบบนี้มีอยู่ทุกที่
แต่เหลิงหยุนฉีไม่สนใจเรื่องนี้ และยังคงมุ่งความสนใจไปกับงานที่ทำอยู่
การเริ่มต้นใหม่นั้นยาก แต่ปัญหาด้านบุคลากรได้รับการแก้ไขแล้ว จากนี้ไป เรื่องทุกอย่างก็จะสะดวกยิ่งขึ้น
สองวันต่อมา เหลิงหยุนฉีเลิกงานกลับถึงบ้าน หลังจากทานอาหารฝรั่งเศสที่เชฟปรุงขึ้นให้เป็นพิเศษเสร็จแล้ว เธอก็มายืนอยู่ตรงระเบียงพร้อมกับแชมเปญในมือหนึ่งแก้ว พร้อมกับชมทิวทัศน์ภายนอกในยามค่ำคืน
“ติ๊ง”—
ลิฟต์ภายในก็ส่งเสียงดังออกมา ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังมา:
“แม่เจ้า!!! นี่มันอะไรกัน!!! เพื่อนรัก! เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่!! นี่มันเพนท์เฮาส์ที่ได้รับความคุ้มครองจากทางรัฐบาลเลยนะ เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน????” สิ่งที่โจวหยุนเห็นเป็นสิ่งแรก คือเหลิงหยุนฉีที่ยืนอยู่บนระเบียงสวนกลางอากาศ โดยมีภาพบรรยากาศที่แสนสวยงามของเซี่ยงไฮ้อยู่ข้างหลังเธอ แต่ในเวลานี้ พวกมันกลับกลายเป็นแค่พื้นหลังให้กับเธอ
เหลิงหยุนฉีหัวเราะออกมาเบาๆ บอกตามตรง เพื่อนสนิทคนนี้ของเธอสามารถไปแสดงตลกได้แล้ว การแสดงนี่อยู่ในระดับมืออาชีพเลยล่ะ
“ของขวัญจากคุณยายที่ฉัน มันสะดวกที่จะไปทำงาน ชอบไหม” เธอพูด ก่อนจะยื่นแชมเปญอีกแก้วหนึ่งให้อีกฝ่าย
“มากกว่าชอบซะอีก คุณยายของเธอยังอยากได้หลานสาวเพิ่มอีกคนไหม?? ตอนนี้ฉันไปกอดขาท่านจะช้าไปไหม” เธอหยิบแชมเปญขึ้นมา แล้วมองไปยังตึกที่อยู่ตรงหน้าเธอ สีหน้าเต็มไปด้วย “แววตาอิจฉา”
ทั้งที่เป็นลูกคุณหนูเหมือนกัน แต่ทุกครั้งที่เธอเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับเพื่อนสาวตรงหน้า เธอก็อดที่จะหลั่งน้ำตาออกมาไม่ได้
ทั้งที่ทำงานแล้วเหมือนกัน เธอมาถึงเมืองหลวงต้องไปพักในโรงแรม แต่เพื่อนสาวของเธอมาเซี่ยงไฮ้ ครอบครัวของอีกฝ่ายกลับก็ซื้อเพนท์เฮาส์ริมชายหาดที่ได้รับการคุ้มครองระดับประเทศให้
พอเอามาเปรียบเทียบกันแล้ว เธอแทบอยากจะปิดกั้นตัวเองไปเลย! ! !
“ฉันจะเล่าให้ฟัง ผู้หญิงสมัยนี้นะ ไม่รักนวลสงวนตัวเอาซะเลย มีอยู่คืนหนึ่ง เพราะการถ่ายทำก็เสร็จดึกเกินไป ฉันขี้เกียจจะกลับไปที่โรงแรมในเมือง ฉันก็เลยไปพักที่โรงแรมเดียวกับพวกเขา คุณเฉินหวังดี และรู้ว่าฉันเป็นแฟนคลับของเจ้าพ่อภาพยนตร์เหลียง ก็เลยจัดให้ฉันพักอยู่ชั้นเดียวกับเขา เธอรู้ไหม!”
พอพูดถึงเรื่องนี้ โจวหยุนก็ตบต้นขาของเธออย่างแรง
“ตลอดทั้งคืน มีเสียงเคาะประตูห้องของเจ้าพ่อภาพยนตร์เหลียงหลายสิบครั้ง เพื่อนรัก! ฉันนึกว่าผีจะมาหลอก! พอเปิดประตูออกไป ก็เห็นดาราสาวทุกคนในกองเรียงตัวกันมาเคาะประตูห้องกลางดึก ! ทำไมพวกเธอถึงไม่คิดเลยนะ ถึงแม้ไตของเจ้าพ่อภาพยนตร์เหลียงจะทำมาจากเหล็ก แต่เขาคงไม่สามารถทนความถี่แบบนี้ได้ !!!”
ท่อนแรกเหลิงหยุนฉียังฟังอย่างสนุก แต่ท่อนหลัง พอเธอได้ยินโจวหยุนพูดถึงเรื่องนั้น เธอก็อดที่จะ “หัวเราะ” ออกมาไม่ได้
“ไตของเขาไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของเธอ เธอจะควบคุมกว้างขวางไปไหม”
โจวหยุนขัดใจ: “ประเด็นสำคัญก็คือ ความถี่ของเสียงเคาะประตู มันทำให้ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาตลอด พอฉันผล็อยหลับไป ก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นอีกครั้ง ทำให้ฉันไม่ได้นอนตลอดทั้งคืนจนกระทั่งฟ้าสาง ดูสิ สาวน้อยที่แสนบอบบางราวกับดอกไม้อย่างฉัน ตอนนี้มีทั้งถุงน้ำใต้ตาและรอยคล้ำใต้ตาเต็มไปหมดเลย”
เธอพูด ก่อนจะยกมือชี้ให้เพื่อนรักดู
เหลิงหยุนฉีมองตามมือเพื่อน และเป็นไปตามที่เพื่อนของเธอบอกไว้จริงๆ
“บางทีอาจเป็นเพราะเธอคุมเข้มเกินไป ไม่แน่นะ เจ้าพ่อภาพยนตร์เหลียงอาจจะเต็มใจก็ได้?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่เป็นนางร้าย เอ๊ย! นางเอก