เกิดใหม่เป็นนางร้าย เอ๊ย! นางเอก นิยาย บท 52

แท้จริงแล้วเฉียวหยู่โม่ได้ขอเวชระเบียนจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมืองหลวงหลังจากที่เหลิงหยุนฉีเปิดเผยต่อเขาเมื่อคืนนี้

ทว่าอารมณ์ของเขานั้นแตกต่างไปจากเซียวหรานอย่างสิ้นเชิง

หากข่าวลือนั่นเป็นจริง เขาไม่สนใจเหลิงหยุนฉีที่เย่อหยิ่งยโสโอหังหรอก

ทว่าในตอนนี้ เหลิงหยุนฉีมีบุคลิกที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง……

พูดตามตรง เขาไม่อยากให้เธอกลับไปเป็นเหมือนเดิมเลย

คณบดีโรงพยาบาลเมืองหลวงรวบรวมรายงานของแพทย์ที่ปรึกษาทั้งหมด และคำตอบที่ได้รับก็เหมือนกับที่เหลิงหยุนฉีกล่าวทุกประการอย่างไม่คาดคิด

เนื่องจากจบน้ำนานเกินไป สมองจึงเคยมีภาวะขาดออกซิเจน จึงทำให้ชั้นความทรงจำเกิดความว่างเปล่า

ส่วนผลข้างเคียงที่ตามมาของการฟื้นตัวนั้น ยังไม่เป็นที่ทราบอย่างแน่ชัดในด้านการแพทย์ บางทีก็ไม่เห็นผล หรือบางทีวันหนึ่งเธอก็อาจจำขึ้นมาได้เอง

เจ้าจิ้งจอกน้อยนี้ไม่ได้โกหกเขา……

เฉียวหยู่โม่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ

ด้วยนิสัยของท่านเหลิงที่ตามใจเธอ เมื่อกลับมาแล้วรู้เข้า ไม่หัวใจวายตายเหรอ?

“เก็บเวชระเบียนของเธอเอาไว้ และอย่าให้ใครเห็นมัน” หลังจากที่เฉียวหยู่โม่มอบหมายคณบดีแล้ว เขาก็ใช้ปลายนิ้วลูบเบาๆบนโซฟาครู่หนึ่ง แล้วโทรหาท่านเหลิงทันที

“โอ้! ช่างน่าแปลกใจจริงๆ! หายากมากที่นายจะโทรหาฉัน! ฉันได้ยินมาว่าเฉียวซื่อจะมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในเร็วๆนี้ แล้วดึงๆขนาดนี้นายมาหาคนแก่อย่างฉันทำไมล่ะ? มาเล่นหมากรุกออนไลน์งั้นเหรอ”

เสียงอันทรงพลังดังมาจากปลายอีกด้านของโทรศัพท์ นี่ก็เป็นเวลาห้าทุ่มกว่า ซึ่งเมื่อดูจากความเร็วและอารมณ์ในการรับสายแล้ว เกรงว่าดึกขนาดนีแล้วท่านเหลิงคงยังยุ่งกับงานอยู่เลย

เฉียวหยู่โม่บอกไม่ได้ว่าเพราะเป็นห่วงร่างกายของเขา หรือเพราะดวงตาที่สดใสของเหลิงหยุนฉี ในขณะนี้เขายิ้มขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

ฉันจะทำอะไรได้อีก

ก็ช่วยปกปิดนะสิ

“ฉันให้หลานสาวของท่านเข้ามาเยี่ยมชมที่เฉียวซื่อแล้ว ไม่ต้องกังวลไปหรอก หลานสาวของท่านสายตาดีพอใช้ได้ สามารถเปิดโลกธุรกิจได้ในอนาคตได้เลย”

เมื่อท่านเหลิงได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของเขาก็สว่างขึ้นทันที

เฉียวหยู่โม่ไม่เคยปล่อยให้บุคคลภายนอกเข้าไปในบริษัทของเขาเลย และประเด็นสำคัญคือ เฉียวซื่อมีเทคโนโลยีที่เป็นความลับอยู่มากมาก ซึ่งเร็วๆนี้เฉียวซื่อก็กำลังมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ แล้วยังจะให้หลานสาวของเขามาเยี่ยมชมอีก

เขาแค่ขอให้เขาไปงานวันเกิดของหลานสาว เพื่อคอยช่วยสนับสนุนเธอ แต่เมื่อดูแบบนี้แล้ว เขาก็เทียบเท่ากับครึ่งผู้นำของเหลิงหยุนฉีในโลกธุรกิจเลย!

น้ำใจนี้ไม่ธรรมดาเลยนะ!

“หยุนฉีเด็กคนนี้ชีวิตราบรื่นมาตั้งแต่เด็ก ถ้านายมีเวลาก็ช่วยฉันดูแลเธอสักหน่อย ภายหลังเรามารวมตัวกัน เล่นหมากรุกสักห้าสิบรอบไปเลย!”

สถานะของเฉียวซื่อนั้นพิเศษเกินไป เมื่อก่อนตอนที่เขายังไม่มีอำนาจนั้น เขาก็เป็นเพื่อนกับท่านเหลิงแล้ว

ภูมิหลังของทั้งสองฝ่าย ทำให้พวกเขาไม่จำเป็นต้องเปิดปากขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเลย แต่กลับเข้ากันได้ง่ายและเป็นกันเองมากขึ้น

ท่านเหลิงคิดเพียงว่าเฉียวหยู่โม่ได้รับความไว้วางใจจากเขา ดังนั้นเขาจึงสนใจหลานสาวของเขามาก ซึ่งเขาไม่เคยคิดเลยว่าเฉียวหยู่โม่กำลังยืนอยู่บนเรือลำเดียวกับเหลิงหยุนฉี ที่เป็นการทำให้นิสัยของเธอเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน

หลังจากวางสายแล้ว เฉียวหยู่โม่ก็กลุ้มคิดในใจ

เฉาหมิงรู้สึกว่าเสียงนั้นคุ้นเคยมาก เมื่อเขาเงยหน้าขึ้น เขาเห็นโจวหยุนและเหลิงหยุนฉียืนอยู่ที่ประตู และดวงตาของเขาก็สว่างขึ้นทันที!

ด้วยความตื่นเต้น เขาลุกขึ้นยืนและโบกมือให้พวกเขาทันที: “โจวหยุน เหลิงหยุนฉี!”

ทั้งสองมองหน้ากันแล้วกระพริบตาทันที

หัวหน้าห้อง?

ทำไมเขาถึงอยู่ที่นี่ล่ะ?

เฉาหมิงมากับแฟนสาวของเขา และพวกเขาก็จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเมืองหลวงด้วย ทว่าไม่ใช่คณะเดียวกันกับโจวหยุนพวกเธอ

ในขณะนี้ก็ได้ยินเฉาหมิงตะโกนว่า: “เหลิงหยุนฉี” จึงอดไม่ได้ที่จะดึงที่มุมเสื้อของแฟนหนุ่มและกระซิบว่า: “นี่คือ ‘ที่ทำให้คนอื่นล้มละลาย’ ที่นายเคยบอกหรือไม่?”

หุ้นของตระกูลฉีเกิดการล่มสลาย แท้จริงก็เป็นเพราะคำพูดของเหลิงหยุนฉีเท่านั้น

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แฟนหนุ่มของเธอได้เล่าการดำเนินการที่น่ากลัวนี้ให้กับเธอฟังทุกวัน

จนทำให้สายตาของเธอที่มองเหลิงหยุนฉีตอนนี้ ราวกับว่ากำลังมองเทวดาจากมิติต่างโลกเลย!

เมื่อโจวหยุนเห็นดวงตาที่เลื่อมใสนี้แล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะลดเสียงของเธอลงและเอนตัวเข้าไปใกล้หูของเหลิงหยุนฉี: “เพื่อนรัก ฉันว่าเสน่ห์ของเธอมันกว้างจริงๆ!”

ไม่ว่าจะชายหรือหญิงต่างก็หลงรัก!

สุดยอดไปเลย!