รถมายบัคหายเข้าไปในหมอก การจ้องมองอย่างเย็นชาของฮีลตัน ค่อย ๆ ลดน้อยลงจากกระจกหลัง
เด็กน้อยที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขาปีนขึ้นไปบนตักของเขาอย่างซุกซน มือที่อ่อนโยนและขาวสะอาดของเธอจับพ่อของเธอไว้ “คุณพ่อทำไมมอนตี้มาร่วมทานอาหารเย็นกับเราไม่ได้คะ”
ฮีลตันลดสายตาลง เขาลูบหัวลูกสาวด้วยมือใหญ่คู่นั้น และถามอย่างใจเย็นว่า “เจลลี่ บีน หนูชอบมอนตี้มากขนาดนั้นเลยหรอลูก?”
“ใช่ค่ะ!” เด็กน้อยกระพริบตาที่สดใสของเธอและพยักหน้าอย่างร่าเริง
“หนูชอบเธอเพราะเธอให้ลูกอมแค่นั้นหรือ?”
แม้ว่าผู้หญิงคนอื่นๆ ที่มาจากครอบครัวที่ร่ำรวย หรือที่เขาไปเดทนัดดูตัว พร้อมกับนำพามาให้เจลลี่ บีน รู้จักดูเหมือนเธอจะไม่ชอบพวกหล่อนมากนัก เธอถึงกับร้องไห้เพราะไม่ต้องการให้พ่อเข้ากันได้กับพวกหล่อน
เวอเรียนเธอดึงดูดหัวใจของเจลลี่ บีน ได้อย่างไร?
เจลลี่ บีน ส่ายหัวเล็กน้อย เธอใช้นิ้วเป็นวงกลมสองวงแล้ววางไว้บนดวงตาของเธอ เธอจ้องมองพ่อของเธอด้วยดวงตาที่เป็นประกายและหัวเราะเบาๆ “เป็นเพราะตาของมอนตี้ใหญ่พอ ๆ กับหนูไงคะ!”
ฮีลตัน รู้สึกประหลาดใจ เด็กน้อยจะรู้หรือไม่ว่าเธอและผู้หญิงคนนั้นดูคล้ายกัน
ฮีลตันมองเด็กน้อยบนตักของเขา ขณะที่เขาเม้มริมฝีปากแน่น ดวงตาของเขามืดมิด
หลังจากที่เล่นมาทั้งวัน เจลลี่ บีน ก็เกือบจะหลับไปในอ้อมกอดพ่อของเธอทันที ฮีลตันลดเสียงสนทนาลงและถามกับคุช ซึ่งเป็นคนขับรถว่า “ผลตรวจดีเอ็นเอจะรู้ผลได้เมื่อไหร่?”
“เร็วสุดภายในช่วงบ่ายของวันมะรืนครับเจ้านาย และถ้าหากคุณมอนท์เป็นแม่ผู้ให้กำเนิดของเจลลี่ บีน จริงๆ…”
ใบหน้าของฮีลตัน ดูกังวลใจ “ไปหาสาเหตุมาว่าทำไมเวอเรียนถึงตัดสินใจรับหน้าที่เป็นแม่อุ้มบุญเมื่อสามปีก่อน”
“ครับ”
หากผู้หญิงคนนั้นเข้าหาเขาและ เจลลี่ บีน ด้วยแรงจูงใจบางอย่าง เขาไม่รังเกียจที่จะปกปิดความจริงและตัวตนของเธอแม้ความเธอจะเป็นแม่ผู้ที่ให้กำเนิด เจลลี่ บีน ก็ตาม
…
เวอเรียน ไปที่ถนนนาวี ระหว่างทางกลับหลังจากการเลิกงาน รถบรรทุกขนาดใหญ่จอดอยู่หน้าบ้านพักของครอบครัวมอนท์ เมื่อเธอมาถึงดูเหมือนว่ามันจะถูกใช้เพื่อขนย้ายบ้าน
“อันนี้! ระวัง! ฉันซื้อแจกันนี้ราคามูลค่ามากกว่าหนึ่งล้านเหรียญ! แกสามารถจ่ายได้มั้ยถ้าแกทำมันแตก?”
เวอเรียน ได้ยินเสียงของหญิงวัยกลางคนที่คุ้นเคย เธอเงยหน้าขึ้นมาและเห็น ควีนน่า ชีน กำลังขมวดคิ้วหน้ามุ่ยและสั่งให้คนงานจัดการเคลื่อนย้ายของอย่างไม่เต็มใจ
คนงานที่ขนย้ายของเดินออกมาจากด้านหลัง ในขณะที่แบกรูปภาพเหมือนออกมาด้วยควีนน่า หรี่ตาลงขณะที่เธอพูดอย่างเหยียดหยาม “กำจัดภาพนี้ซะ ทั้งหนักและเกะกะพื้นที่ นิ่งไปกว่านั้นมันจะทำให้เราโชคร้าย!”
ขณะที่คนงานย้ายของกำลังจะโยนรูปนั้นภาพออกไป เวอเรียน ก็เหลือไปเห็นและรู้ทันที่ว่ามันคือภาพเหมือนพ่อของเธอ!
“เดี๋ยวก่อน!”
ควีนน่าหันไปตามทิศทางของเสียง และเธอก็เห็นใบหน้าที่หายไปนาน ดวงตาของเธอสั่นระริก
“เวอ, เวอเรียน มอนท์…? ฉันคิดว่าเธอออกไปจากนอร์ท ซิตี้แล้ว?”
เวอเรียนฉีกยิ้มอย่างเยือกเย็น เธอกล่าวทักทายอย่างเย้ยหยัน “คุณชินไม่เจอกันตั้งนาน”
“เธอกลับมาที่นอร์ท ซิตี้ทำไม?”
เวอเรียนคว้ารูปภาพจากมือของคนงานย้ายของและสวมกอดไว้แน่น “นี่คือบ้านของฉันทำไมฉันจะกลับมาไม่ได้?”
“ฮ่าๆ!” ควีนน่าหัวเราะเยาะ “งั้นเหรอ ฉันก็จะบอกเธอว่าบ้านหลังนี้กำลังถูกรื้อถอนในไม่ช้า เธอไม่สามารถหยุดมันได้! ยิ่งไปกว่านั่นเธอไม่มีสิทธิ์หยุดมันเพราะบ้านพักนี้อยู่ภายใต้ชื่อของฉัน!”
เวอเรียนจับภาพคนนั้นเอาไว้แน่นจนกระทั่งนิ้วของเธอเปลี่ยนเป็นสีขาว ความมุ่งมั่นในดวงตาของเธอ เธอพูดว่า “ฉันจะไม่นั่งเฉยๆและดูบ้านของฉันพังพินาศลงไปแบบนี้แน่!
เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ และกดเบอร์โทรของกวิน เธอจำได้ว่ากวิน บันทึกเบอร์ติดต่อคนที่มีอิทธิพลจำนวนมากไว้ในโทรศัพท์ของเธอ
“กวินนี่ เธอมีเบอร์ติดต่อของฮีลตัน ฟัดด์ไหม?”
…
ประธานฟัดด์ อยู่ภายในห้องทำงานในคฤหาสน์ฟัดด์
ฮีลตันยืนอยู่ข้างหน้าต่างเมื่อเขารับโทรศัพท์
“ท่านครับ เวอเรียน มอนท์ รับหน้าที่เป็นแม่อุ้มบุญเมื่อสามปีก่อนเพราะ เกรย์สัน มอนท์ พ่อของเธอล้มละลายและทิ้งภาระหนี้สิ้นไว้เบื้องหลัง เธอรับหน้าที่อุ้มบุญเพื่อชดใช้หนี้ของพ่อ อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเงินสิบล้านเหรียญที่เธอได้รับนั้น ได้ถูกแม่เลี้ยงและน้องสาวของเธอนั้นเอาไป จากนั้นพ่อของเธอถูกเจ้าหนี้บังคับให้ฆ่าตัวตายและบ้านพักครอบครัวมอนท์ ก็กลายเป็นสมบัติของแม่เลี้ยงของเธอ เธอได้เดินทางไปปารีสเพื่อศึกษาต่อเมื่อสามปีก่อนหลังคลอดลูก ดูเหมือนว่าเวอเรียนจะไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า เจลลี่ บีน เป็นลูกสาวของเธอ”
ทันทีที่คุช พูดจบก็มีโทรศัพท์อีกสายเข้ามา ขณะที่ฮีลตันยังสนทนาอยู่
เขาวางสายของคุช และรับสายจากหมายเลขที่ไม่รู้จัก เสียงเรียกของหญิงสาวดูคุ้นเคยดังมาจากอีกฟากหนึ่งของสาย เสียงที่แหบเล็กน้อย ฟังดูเหมือนเธอเพิ่งร้องไห้มา
“สวัสดีค่ะ ท่านประธานฟัดด์ ฉันคือ เวอเรียน มอนท์ คุณบอกว่าคุณสนใจร่างกายของฉัน คุณยังต้องการมันอีกไหม?”
คิ้วของฮีลตันขมวดขึ้น แววตาฉายแววเจ้าเล่ห์ ในขณะที่เขาพูดว่า “ฉันแค่ล้อเล่น แต่ดูเหมือนว่าคุณมอนท์จะคิดจริง?”
เวอเรียน ที่อยู่อีกฟากของสายเธอกลืนน้ำลายของเธอ เธอพูดต่อว่า “ท่านประธานฟัดด์ ฉันเต็มใจทำทุกอย่าง ตราบเท่าที่คุณ สามารถรักษาบ้านพักของครอบครัวมอนท์ไว้ได้”
ฮีลตันนิ่งเงียบอยู่นาน เขาใช้เวลานานมากจนเธอรู้สึกเหมือนจมอยู่ในทะเลที่เย็นยะเยือกจนแทบขาดอากาศหายใจ จากนั้นก็มีเสียงผู้ชายที่เฉยชาดังขึ้นจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์
“ฉันไม่สนใจที่จะมีภรรยาน้อย”
เวอเรียนรวบรวมความกล้าทั้งหมดของเธอ หลับตาและพูดช้าๆ ว่า “ฉันไม่ได้อยากเป็นภรรยาน้อยของท่านประธานฟัดด์ แต่ฉันรู้ว่าคุณขาดคุณผู้หญิงของตระกูลฟัดด์ ในทางกลับกันฉันขาดคนสนับสนุนที่มีอิทธิพลเช่นคุณ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน