เชนน์โทรหาแซนอ์เดอร์กลางดึก
"ทำไมถึงโทรมาดึกนักล่ะ? จะชวนฉันไปดื่มหรือไปรับสาว?"
เชนน์ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ตรงหน้าต่าง "ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง ฉันจะโทรมาบอกนายว่า ฉันมีบ้านที่ให้นายไปขายในอินเตอร์เน็ต"
แซนด์เดอร์ถามเขา "แค่ก! อะไรนะ? นายให้บ้านฉัน แต่ตอนนี้เอาไปขายในอินเตอร์เน็ตเนี่ยนะ? เชนน์ ใจร้ายชะมัด!"
"ลืมไปแล้วเหรอว่าฉันยังไม่ได้โอนบ้านให้นายเลย? มันยังไม่ได้เป็นของนายสักหน่อย"
แซนด์เดอร์บอกเขา "เชนน์ นี่นายกำลังจะล้มละลายหรือไง? ถ้าลำบากจริง ๆ ก็บอกฉันได้นะ ฉันช่วยนายได้"
เชนน์ดุเขา "ล้มละลายเหรอ? อย่ามาแช่งกันสิ!"
"แล้วทำไมถึงอยากขายบ้านกะทันหันล่ะ?"
เชนน์มีท่าทีจริงจังขึ้นมาเมื่อพูดเรื่องนั้น "อีกอย่าง ฉันต้องให้นายช่วยพรุ่งนี้"
"อะไรนะ?"
"ไปพบลูกค้าที่จะซื้อบ้านให้หน่อย"
แซนด์เดอร์เป็นคนฉลาด เขารู้สึกว่ามีบางอย่างแปลก ๆ เขายิ้มด้วยความภาคภูมิใจเพราะเชนน์มาขอให้เขาช่วย "ใครล่ะ?"
เชนน์ตอบตามตรง "ก็อย่างที่นายคิด แยนนี่ไง"
"แล้วทำไมต้องพูดอ้อมค้อมด้วยล่ะ? บอกมาตรง ๆ ก็ได้ ว่าอยากซื้อบ้านให้เธอ"
เชนน์คิดในใจ 'ผู้หญิงคนนี้เข้าใจยาก เธอต้องการอะไรจากฉันกันแน่?'
แซนด์เดอร์นึกอะไรขึ้นมาได้ เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "เดี๋ยวก่อนนะ เธอจะจำฉันได้ถ้าเห็นฉัน ฉันเคยเจอเธอมาก่อนและเธอจะรู้ว่านายเป็นเพื่อนฉัน จะไม่เป็นการเปิดเผยตัวเองเหรอ?"
เชนน์หัวเราะเยาะแล้วตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา "เธอเจอนายแค่ครั้งเดียวเมื่อปีที่แล้ว นายเป็นแค่คนที่เคยเจอผ่าน ๆ ไม่ต้องห่วง เธอจำนายไม่ได้หรอก"
"อะไรกัน? นายแน่ใจได้ยังไง? ฉันออกจะเด่นขนาดนี้ ฉันมั่นใจว่าเธอจะจำฉันได้"
เชนน์เยาะเย้ยเขา "นายนี่โง่จริง เธอมองฉันแค่คนเดียวตอนที่อยู่ในห้อง เธอจำใครไม่ได้หรอก"
แซนด์เดอร์หัวเราะ "นายรู้ได้ยังไงว่าเธอมองพวกเราหรือเปล่า? ฉันจำได้ว่าเธอมองตาแก่ฟัดด์นะ"
"เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว ฉันจะไล่เธอไป ถ้าเธอกล้ามองผู้ชายคนอื่น"
แซนด์เดอร์หัวเราะด้วยความขบขัน "ฉันจำได้ว่านายแกล้งทำได้ดีนี่ นายไม่ได้มองเธอสักนิด แต่จริง ๆ แล้วนายกำลังดูว่าเธอมองผู้ชายคนอื่นหรือเปล่า? ทำได้เนียนนะ"
"หุบปากซะ แล้วพรุ่งนี้อย่าทำพังล่ะ"
เชนน์วางสายหลังจากที่พูดแบบนั้น
แซนด์เดอร์คิดในใจ 'เฮอะ ทำตัวแบบนั้นได้ยังไง ในเมื่อเป็นคนที่มาขอให้คนอื่นช่วย? ทำตัวอย่างกับเป็นเจ้านาย'
วันต่อมาในตอนบ่าย ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ นัดแยนนี่กับเจ้าของบ้านมาดูบ้าน
พวกเขาตกลงมาเจอกันเวลา14.30 น.ในตอนบ่าย
แซนด์เดอร์ขับรถมาที่ บลู วอเทอร์ เรสซิเดนเชียล แอเรีย
แยนนี่กับตัวแทนอสังหาริมทรัพย์มาถึงก่อน 10 นาที พวกเขารอแซนด์เดอร์มาถึงเกือบครึ่งชั่วโมง
แซนด์เดอร์เห็นแยนนี่ทันทีที่ลงมาจากรถมาเซราตี
เธอสวยจริง ๆ เธอดึงดูดความสนใจของผู้คนได้เพียงแค่ยืนอยู่เฉย ๆ
ตาแก่เชนน์นี่ช่างโชคดีเรื่องผู้หญิง
แม้ว่าจะมีผู้หญิงสวยหลายคน คนที่สวยอย่างเป็นธรรมชาติเหมือนแยนนี่นั้น พบเห็นได้น้อยมาก
แซนด์เดอร์เดินเข้าไปหาพวกเขา เขายิ้มให้แยนนี่และตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ตอนที่ทักทายพวกเขา "ขอโทษด้วยนะครับ พอดีรถค่อนข้างติด หวังว่าจะไม่ทำให้พวกคุณต้องรอนานนะครับ"
ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์รู้ว่าเจ้าของบ้านเป็นคนร่ำรวย จึงไม่กล้าทำให้เขาโกรธ ถ้าปิดการขายได้เขาก็จะได้ค่านายหน้า เขายิ้มแล้วตอบ "ไม่เป็นไรครับ ผมกับคุณแยนนี่เพิ่งมาถึง เราเข้าไปข้างในกันเถอะ"
แยนนี่ไม่ได้พูดอะไร แล้วทั้งสามคนก็เข้าไปในลิฟท์
แยนนี่กับตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ยืนอยู่ข้างหน้า ส่วนแซนด์เดอร์ยืนพิงลิฟท์อย่างไม่ค่อยสนใจ
ผนังลิฟท์ทำด้วยกระจก แยนนี่อดมองเจ้าของบ้านที่ยืนอยู่ข้างหลังพวกเขาไม่ได้ เธอคิดว่าเขาดูคุ้นหน้า
แซนด์เดอร์นั้นดูโดดเด่น ใช่ว่าจะลืมได้ง่าย ๆ
แต่ก็จำเขาไม่ได้แม้ว่าจะพยายามคิด เธอแค่คิดว่าเขาดูคุ้นหน้า
ลิฟท์มาถึงชั้น 13 ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์เปิดประตูลิฟท์ค้างไว้ เขาให้เจ้าของบ้านและผู้ซื้อออกไปก่อน ส่วนเขาตามออกไปทีหลัง
แซนด์เดอร์แนะนำบ้านตอนที่พวกเขาเดินเข้ามา "บ้านหลังนี้ของเป็นเพื่อนผมเอง แต่ธุรกิจของเขาไม่ดีและจ่ายผมไม่ไหว เลยยกบ้านหลังนี้ให้ผม และตอนนี้ผมก็เป็นเจ้าของบ้าน ตอนนี้มันก็ชัดเจนแล้ว ผมไม่ได้พักที่นี่บ่อย การออกแบบและตกแต่งภายในนั้นชั้นเยี่ยม ผมอยากซื้อคฤหาสน์หลังใหญ่ แต่ตอนนี้ยังมีเงินไม่พอเลยขายบ้านหลังนี้ ไม่อย่างนั้นผมคงไม่ขายมันในราคาเก้าล้านเหรียญหรอก ถึงจะมีคนใช้มีดขู่ก็เถอะ ถ้าดูจากการตกแต่งภายในและสถานที่แล้ว"
ฟังดูเหมือนแซนด์เดอร์จะพูดไปเรื่อยเปื่อย คำอธิบายของเขานั้นไร้ที่ติและน่าเชื่อถือ
แซนด์เดอร์เปิดประตู แล้วทั้งสามคนก็เข้าไปในบ้าน
บ้านหลังใหญ่โตนั้นกว้าง 180 ตารางเมตร เป็นบ้านแบบขนาดเล็ก สีของบ้านก็ดูหรูหราเช่นกัน หน้าต่างนั้นอยู่ในห้องนั่งเล่น มีแสงอาทิตย์ส่องผ่านเข้ามา มันถ่ายเทอากาศได้ดีเช่นกัน อากาศสดชื่นเข้ามาในห้องเมื่อพวกเขาเปิดหน้าต่าง
"นายไม่รู้อะไร มันจะไม่น่าสนใจสิถ้าให้เธอฟรี กลับไปทำงานได้แล้ว"
แซนด์เดอร์บอกเขา "ก็ได้ รับทราบครับเจ้านาย ฉันไม่ได้กำไรเลยที่ช่วยนายขายบ้านหลังนี้"
แซด์เดอร์ออกมาจากห้องน้ำแล้วเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ภรรยาผมบอกว่าให้ราคาต่ำสุดได้ 8.5 ล้าน ไม่ถูกไปกว่านั้นแล้ว ผมคิดว่ามันดีแล้วนะ ที่มีคนบ้าขายให้ในราคา 8.5 ล้าน"
ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์คิดว่าเขาปิดการขายได้แล้ว เขายิ้มแล้วพยักหน้าด้วยความตื่นเต้น "คุณลูคัสพูดถูกแล้ว โชคดีที่ได้บ้านหลังนี้ในราคา 8.5 ล้านเหรียญ ผมจะซื้อทันทีเลยถ้ามีเงิน คุณแยนนี่ คุณคิดว่ายังไงครับ?"
แซนด์เดอร์ลดราคาให้แล้ว ตอนนี้เธอคงพอใจแล้ว
ใครจะรู้ว่าเธอจะตอบว่า "ฉันมีแค่ 8 ล้าน ฉันจะซื้อทันทีถ้าขายในราคา 8 ล้าน แต่ฉันรู้ว่าคุณคงให้ราคาต่ำกว่านี้ไม่ได้ ดูเหมือนว่าบ้านหลังนี้ไม่มีความหมายกับฉันแล้ว ไม่เป็นไรค่ะ"
แซนด์เดอร์คิดในใจ 'ยังจะต่อรองอีกเหรอ? ผู้หญิงคนนี้ใจร้ายมาก!'
แยนนี่บอกอย่างสุภาพ "ขอโทษด้วยนะคะ คุณลูคัส"
แยนนี่กำลังจะออกไปทันทีที่เธอพูดจบประโยค
แซนด์เดอร์พูดอย่างลนลาน "เดี๋ยวก่อนครับ! ให้ผมโทรหาภรรยาอีกที! อย่าเพิ่งไปนะ!"
เชนน์คงได้ฆ่าเขาถ้าแยนนี่ไป
แยนนี่ก็ตกใจเช่นกัน เธอไม่คิดว่าเจ้าของอยากจะขายบ้านให้เธอ นี่เขาบ้าไปแล้วหรือไง?
แซนด์เดอร์ถอนหายใจ เขาเข้าไปในห้องน้ำแล้วโทรหาเชนน์อีก
ครั้งนี้เชนน์ไม่ดุเขา แต่ก็โกรธเหมือนกัน
"8 ล้านเหรอ? ฉันเป็นคนโง่สำหรับเธอหรือไง? ถ้าขายให้เธอฉันก็โง่สิ!"
แซนด์เดอร์บอกเขา "งั้นก็ไม่ต้องขายให้เธอ อย่าทำให้พวกเราต้องดูโง่เลย"
เชนน์เงียบไปสักพักก่อนจะพูด "ช่างมันเถอะ ยังไงฉันก็ไม่ต้องการเงินล้านนั้นอยู่แล้ว ฉันแค่รู้สึกเสียใจแทนเธอ ปิดการขายที่ 8 ล้านเลย"
แซนด์เดอร์พูดไม่ออก เขาคิดในใจ 'นายนี่มันโง่จริง'
แซนด์เดอร์ออกมาจากห้องน้ำแล้วบอกเธอ "คุณแยนนี่ โชคต้องเข้าข้างคุณแน่เลย คุณได้ราคาต่อรองที่ดีมาก ภรรยาผมปิดการขายที่ 8 ล้านเหรียญ ถ้าคุณยังไม่พอใจ...ผม...ผมจะฆ่าตัวตาย"
ดวงตาของแยนนี่เป็นประกาย "ปิดการขายที่ 8 ล้านเหรียญ!"
แซนด์เดอร์บอก "งั้นก็ตกลงตามนี้นะครับ"
เขาไม่ได้ขายบ้านหรอก มันเหมือนกับให้เธอไปฟรี ๆ และทำให้ตัวเองกลายเป็นคนโง่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน