เชนน์อุ้มแยนนี่ไปที่รถด้วยสองมือของเขา
ผู้หญิงในอ้อมแขนของเขาอ่อนเพลียมาก
หลังจากผ่านประสบการณ์เฉียดตายถึงสองครั้งในคืนเดียว ความคิดของแยนนี่ก็เชื่องช้าและเฉื่อยชาจากประสบการณ์น่าสะพรึงกลัว
ขณะที่เชนน์อุ้มแยนนี่เข้าไปในรถ เขาก็ได้รับสายจากฮีลตัน
“นี่ ถ้านายยังไม่กลับมาที่ฐานเร็ว ๆ นี้ ฉันจะไปแล้วนะ พอดีฉันต้องรีบกลับบ้านไปนอน แล้วก็ต้องไปงานจับคู่อีก”
เชนน์ยื่นมือออกไปสัมผัสกับหน้าผากของแยนนี่ในขณะที่เธอกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่บนที่นั่งผู้โดยสาร เมื่อสัมผัสได้ว่ามันอุ่น เขาก็ขมวดคิ้วและเปลี่ยนน้ำเสียงของเขากลับไปหยิ่งจองหองเช่นเดิม แต่ก็ยังมีความจริงจังเจืออยู่บ้างขณะที่เขาพูดว่า “ไปไหนก็ไปเหอะ เมียฉันมีไข้ และฉันก็จะพาเธอไปยังคลินิกที่ใกล้ที่สุดด้วย”
ฮีลตันเค่นเสียงเฮอะ “เมียนาย? ฝ่ายหญิงเขาตอบตกลงให้นายเรียกว่าเมียแล้วแน่นะ?”
“กวนประสาท”
เชนน์วางสายหลังจากสวนกลับฮีลตัน
รถจี๊ปสีดำเร่งความเร็วผ่านพื้นที่ราบในความมืดของตอนกลางคืน
เชนน์อยากจะส่งตัวแยนนี่ไปยังคลินิกที่โดยเร็วเพื่อรับยาลดไข้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เป็นห่วงว่าจะทำให้แยนนี่รู้สึกวิงเวียนมากขึ้นหากเขาขับเร็วเกินไป
ราวกับว่าคืนนี้ทั้งคืนของเขาพลิกกลับไปมาเพราะแยนนี่
เขาไม่เคยรู้สึกทำอะไรไม่ถูกและกังวลเหมือนคืนนี้มาก่อนตลอดทั้งชั่วชีวิตนี้
ใช้เวลาสักพักใหญ่ในที่สุดเขาก็ขับออกมาจากทุ่งหญ้าสะวันนาและเข้าสู่ถนนสายหลัก ดูเหมือนว่าจะมีคลินิกอยู่ในอีก 20 กิโลเมตร ข้างหน้า ถึงอย่างนั้นแยนนี่ก็เริ่มเพ้อเพราะพิษไข้ในขณะที่เธอนอนอยู่บนที่นั่งผู้โดยสาร ขณะที่ปากของเธอก็เริ่มพึมพำไม่ได้ศัพท์ออกมา
เธอขดตัวและหลับตาลง แต่น้ำตาก็ยังไหลรินออกมาจากหางตาของเธอไม่ขาดสาย ขณะที่เธอก็เพ้อออกมา “ฉันไม่เคยเขียนจดหมายหาซามูเอล... ฉันไม่เคย... เชนน์... ทำไมคุณ... ไม่เชื่อฉันเลย”
เชนน์ชะงักไปแวบหนึ่งขณะที่เขากำพวงมาลัยไว้ด้วยดวงตาที่สั่นไหว
เขาชำเลืองมองไปยังเธอและเห็นว่าเธอร้องไห้หนักขนาดไหน เขาอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปเช็ดน้ำตาอุ่นของเธอออกจากหางตาให้อย่างแผ่วเบา
เขาพูดว่า “ฉันรู้ ฉันรู้ ว่าเธอไม่เคยเขียนจดหมายหาซามูเอล”
ฟังดูเหมือนว่าเขาตอบแยนนี่และตัวเขาเองในเวลาเดียวกัน
น้ำเสียงของเขาฟังดูนุ่มนวลและอ่อนโยน ทั้งยังเต็มไปด้วยความรักที่อัดแน่นอยู่ในนั้น
ไม่ใช่ว่าเขาเชื่อคารา หรือเพราะเขาไม่เชื่อมั่นในตัวแยนนี่ ไม่มีอะไรมากเกินไปกว่าความหึงหวงส่วนตัวของเขา เขาหึงที่ซามูเอลพบแยนนี่ก่อนเขา และเขาก็อิจฉาที่ซามูเอลได้ครอบครองหัวใจของเธอตั้งแต่ตอนที่เธอยังไร้เดียงสาและมีอายุเพียง 16 ปี
แยนนี่พร้อมที่จะหนีตามซามูเอลไปด้วยซ้ำ
เชนน์ไม่คาดคิดว่าผู้หญิงที่นึกถึงตนเองก่อนแบบแยนนี่จะมีด้านที่ยอมทิ้งทุกอย่างไปเพื่อคนคนหนึ่ง
และคนคนนั้นที่แยนนี่ใส่ใจไม่ใช่เชนน์ แต่แท้จริงแล้วเป็นซามูเอล
เชนน์รู้สึกได้เพียงว่าเธอเป็นพวกช่างคิดและวัตถุนิยมในตอนที่อยู่กับเขา อีกทั้งแยนนี่ไม่เคยเปิดใจให้เชนน์และค่อนข้างจะมีความลับกับเขา
แยนนี่อิดโรยจากอาการไข้และไม่ได้ยินสิ่งที่เชนน์พูด อาการของเธอหนักมากเสียจนเธอไม่สามารถรับรู้ได้ว่าใครอยู่ข้าง ๆ หรือเขาคนนั้นเป็นใคร
เขาไม่คาดหวังว่าเธอจะหนักแน่น หรือใจเย็นได้ เนื่องจากเธอได้ประสบกับเหตุการณ์เฉียดตายถึงสองครั้งในวันเดียว จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เธอรู้สึกช็อกและหวาดกลัวจากสิ่งที่พบ
แยนนี่ยังคงพึมพำแผ่ว ๆ เป็นกลุ่มคำ “เชนน์... คุณเลวร้าย... แย่ที่สุด”
แยนนี่ขดตัวอยู่บนเก้าอี้ตัวยาวที่กว้างขวาง ร่างบางของเธอทำให้เธอดูอ่อนแอยิ่งขึ้นไปอีก ภาพนี้ทำให้เชนน์ปวดใจ และดูเหมือนว่าที่เธอเคยโกรธเขาไปมากเท่าไร ทุกอย่างนั้นได้จางหายไปในทันที
แยนนี่พิงศีรษะลงบนเก้าอี้ที่มั่นคงและแข็งแรงของเชนน์ ท่านอนของเธอดูเหมือนจะอึดอัดมาก ดังนั้น เชนน์จึงนั่งลงข้างเธอ เอื้อมมือไปประคองศีรษะเธอไว้ด้วยมือใหญ่ของเขา และวางมันซบลงบนไหล่
จากนั้นเขาก็กอดเธอเอาไว้
แล้วเขาก็ก้มหน้าลงจูบหน้าผากของเธอพร้อมกับพึมพำบางอย่างหลังจากที่จ้องมองเธอด้วยความพ่ายแพ้ในแววตา “เป็นความผิดของฉันจริง ๆ แยนนี่ ช่วยหายไว ๆ ทีเถอะนะ โอเคไหม?”
ไม่ว่าเธอจะก้าวร้าวกับเขาแค่ไหนหลังจากที่ดีขึ้น มันก็ย่อมดีกว่าสภาพของเธอในตอนนี้มาก
จากนั้นเชนน์ก็คิดได้ว่าเขาไม่อยากเห็นแยนนี่อยู่ในสภาพที่อ่อนแอและหมดรูปเช่นนี้ เขายอมที่จะต้องต่อสู้กับผู้หญิงคนที่หัวก้าวร้าวรุนแรงอย่างที่เธอเป็นเสียยังดีกว่า
แยนนี่อยู่ในอาการเพ้ออย่างรุนแรงในขณะที่รับน้ำเกลือเข้าร่างกายตลอดทั้งคืน โดยที่มีเชนน์คอยอยู่ข้าง ๆ และดูแลเธอตลอดเวลา
สุดท้ายเชนน์ก็ถอนหายใจยาวในขณะที่เขาโอบศีรษะของเธอไว้และกดมันไว้แนบอกก่อนที่เขาจะกล่าวด้วยน้ำเสียงหดหู่ “ฉันยอมแพ้เธอแล้ว ฉันยอมจริง ๆ โอเคไหม?”
แยนนี่ได้ยินสิ่งที่เขาพูดและไม่ตอบเขา
เชนน์ทำตัวราวกับเป็นเด็กที่ยังไม่โตในขณะที่เขาพูดต่อไปว่า “ถ้าเธอยังเงียบอยู่ ก็แปลว่าเธอยอมคืนดีกันนะ”
แยนนี่ยังคงเงียบ
เชนน์พูดว่า “ความเงียบของเธอแปลว่าตกลงนะ งั้นฉันจะจูบเธอ”
เชนน์หันไปและจูบริมฝีปากที่แห้งแตกของแยนนี่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน