เชนน์นั่งเฝ้าอยู่ข้างตัวแยนนี่ไม่ห่างตลอดทั้งคืน
เขารู้สึกเบาใจขึ้นหลังจากที่อุณหภูมิร่างกายของแยนนี่ลดลงไปหลังจากได้รับน้ำเกลือไปสามขวด
แสงแรกของตะวันทะลุผ่านหน้าต่างเก่า ๆ ของคลินิกเล็ก ๆ นี้
เชนน์พิงศีรษะของเขากับศีรษะของแยนนี่แล้วค่อย ๆ หลับตาลงและหลับไป
เนื่องจากเขาไม่ได่นอนหลับมาเป็นเวลาสองถึงสามวัน เชนน์จึงหลับลึกและนาน
ตอนที่เขาตื่นขึ้นมาและขยี้ตา เขาก็เห็นว่าคนป่วยหายตัวไป
แยนนี่อันตรธานหายตัวไป
หัวใจของเชนน์เต้นรัวหลังจากที่เขามึนงงไปสองวินาที เขาผุดลุกขึ้นทันทีและเริ่มมองหาเธอไปทั่วคลินิก
ระหว่างที่กำลังค้นหาอย่างบ้าคลั่ง เขาก็พบกับชาวแอฟริกันหลายคน
‘บ้าชะมัด ผู้หญิงคนนี้ไม่มีหัวใจเลย หลังจากที่ฉันดูแลเธอทั้งคืนเธอก็ยังกล้าทิ้งฉันไว้คนเดียว’
เชนน์กัดฟันและไม่สนใจเรื่องอื่นในขณะที่เขาเดินออกจากคลินิกเล็ก ๆ นั่นไป เขาเตรียมตัวที่จะกลับบ้านไปตามหาเธอ
แต่ในตอนที่เขากำลังรีบร้อนหุนหันออกไปจากคลินิก เขาก็เห็นแยนนี่เดินออกมาจากซูเปอร์มาร์เก็ตเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้กับคลินิก ในมือของเธอมีถุงพลาสติกสีขาวขณะที่ดวงตาของเธอดูซึมกะทือ มันไม่คมกล้าเช่นที่เธอเป็นโดยปกติ และดูอ่อนแรงลงเป็นพิเศษเมื่อเธอป่วย
เพราะแสงแดดยามเช้าที่ตกกระทบใบหน้าของเธอไว้ เธอจึงดูอ่อนโยนกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด
เชนน์ตกตะลึงไปครู่หนึ่งในขณะที่เขามองเธอมาจากทางเข้าของคลินิก
ตอนแรกเขาคิดว่าเธอทิ้งเขาและจากไปโดยลำพัง แต่เมื่อเห็นสภาพในตอนนี้ของเธอแล้วหัวใจของเขาเจ็บปวดอย่างมาก
เขาอธิบายไม่ได้เลยว่าเขารู้สึกอย่างไร
จนกระทั่งแยนนี่เงยหน้าขึ้นและมองมาที่เขา ในตอนนั้นเชนน์ก็กัดกรามอย่างยั่วล้อ และเดินเข้ามาจับแขนเธอไว้ก่อนจะกอดเธอ เขาพูดราวกับว่าเขากำลังดุเธออยู่ “เธอยังป่วยอยู่นะ ทำไมถึงเดินไปไหนมาไหนล่ะ? เธออยากโดนหมาป่ากินอีกหรือไง?”
แยนนี่พูดไม่ออก
ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เธอคงไม่มีทางออกไปเป็นอาหารให้หมาป่าหรอก
เชนน์กอดเธอไว้แน่นขณะที่ซบศีรษะลงบนไหล่เล็กบางของเธอ เขาโถมตัวลงบนเธอเล็กน้อย ราวกับต้องการดึงทั้งร่างของเธอเข้ามาไว้ในตัวเขา
ด้วยแยนนี่เป็นคนที่เงียบ เธอพบว่าความรู้สึกของเธอเป็นอะไรที่ยิ่งกว่าการอธิบายไม่ได้ในเวลานี้
เชนน์ถอนหายใจออกมาหนัก ๆ ขณะที่ขมวดคิ้วแน่นและพูดว่า “อย่าเดินไปไหนมาไหนเองอีกนะ ฉันเป็นห่วงเธอมาก”
เขาอ่อนโยนกับเธอมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และน้ำเสียงที่ป่าเถื่อนก่อนหน้านี้ก็แปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยน รักใคร่ และดูออดอ้อนเล็กน้อยเหมือนเป็นผู้ชายคนหนึ่ง
แยนนี่แทบจะหายใจไม่ออกจากการที่เขากอดเธอไว้แน่น เธอพูดพร้อมกับใบหน้าที่บึ้งตึง “ปล่อยฉัน เชนน์”
“ไม่ ถ้าเธอกล้าจะเดินไปไหนมาไหนเองอีก เชื่อเถอะว่าฉันจะเป็นคนหักขาเธอเอง”
“... คุณกอดฉันแน่นเกินไปแล้ว ฉันหายใจไม่ออก”
เชนน์พูดไม่ออก เขาอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะปล่อยเธอ เขาดูกระอักกระอ่วนเล็กน้อยขณะที่จ้องมองเธอด้วยท่าทางกระวนกระวายก่อนจะฉวยเอาถุงพลาสติกไปถือไว้ เขาพูดว่า "เธอซื้ออะไรมา?"
เขาเห็นแปรงสีฟันและผ้าขนหนูเมื่อมองลงไปในถุงพลาสติก
พวกเขายังไม่ได้ล้างหน้าล้างตาเลย
เธอซื้อแปรงสีฟันและผ้าขนหนูมาอย่างละ 2 ชิ้น
ดูเหมือนว่าแยนนี่ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะทิ้งเขาไว้ตามลำพังเลย
เชนน์รู้สึกปลอดภัยมากขึ้นภายในทันที
แยนนี่ไม่แน่ใจว่าทำไมเชนน์ถึงดูมีความสุขนัก เธอพูดอย่างเย็นชาว่า “เราไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำของคลินิกกันเถอะ”
“ไปสิ” เชนน์ตอบเธอและทำตามอย่างเชื่อฟัง
แยนนี่เดินนำไปโดยมีเชนน์เดินตามหลังเธอมา
ตอนแรกเชนน์ก็พยายามที่จะเก๊กขรึม แต่หลังจากเดินไปสักพัก หญิงสาวคนนั้นก็ดูเหมือนจะไม่สนใจเขาจริง ๆ เพราะอย่างนั้นเขาจึงยอมไม่ได้ เขาเดินขึ้นไปข้างหน้าและจับมือของเธอไว้ไม่ยอมปล่อย
แยนนี่เหลือบมองเขาและในเมื่อเธอสลัดเขาอย่างไรก็ไม่หลุด เธอจึงปล่อยให้เขาจับมันไว้จนพอใจ
เชนน์ยิ้มกว้างขึ้นเมื่อเห็นว่าแยนนี่ไม่ได้ปฏิเสธเขา
เชนไม่อยากปล่อยมือเธอเลย ในตอนที่พวกเขาเดินไปถึงห้องน้ำ
แยนนี่ถามว่า “นี่คุณพยายามจะเข้าห้องน้ำหญิงไปกับฉันเหรอ?”
เชนน์พูดไม่ออกในขณะที่มุมปากของเขากระตุก ก่อนที่เขาจะปล่อยมือของเธอด้วยท่าทางหยาบคาย เขาตะโกนว่า “ฉันไม่ได้สติไม่ดีนะ ถึงจะได้เข้าห้องน้ำหญิงน่ะ”
แยนนี่ไม่ได้ทำอะไรรวดเร็วเหมือนเชนน์ ในตอนที่เธอล้างหน้าแปรงฟันเสร็จและออกมาจากห้องน้ำ เธอก็เห็นเชนน์ยืนพิงผนังรอเธออยู่ก่อนแล้ว
ชายคนนี้ขึ้นชื่อในเรื่องความเย่อหยิ่งและสง่างาม แม้ว่าเขาจะยืนอยู่กลางกองขยะ เขาก็ยังสามารถยกระดับคุณภาพของสภาพแวดล้อมอันเลวร้ายนั้นได้เพียงแค่ยืนอยู่ในนั้น
เมื่อแยนนี่เดินมาหาเขาเชนน์ก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยในขณะที่ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาปรากฏร้องรอยความกระวนกระวายใจในขณะที่เขาพูดว่า "พระเจ้า เธอออกมาช้ามาก ฉันคิดว่าเธอตกลงไปในชักโครกซะแล้ว"
“ฉันไม่เคยไปมีปฏิสัมพันธ์อะไรกับซามูเอล แล้วมันก็เป็นนิสัยของซามูเอลที่ชอบส่งนามบัตรของเขามาให้ฉัน ฉันไม่ได้เป็นคนที่อยากให้เขาส่งมาสักหน่อย”
“งั้นเธอก็จะบอกว่าเธอยังคงคิดถึงเขาล่ะสิ?” เชนน์ยังคงปราดเปรื่องในการบิดคำพูดเช่นเคย ประเด็นหลักที่เขายกขึ้นมาพูดก็แปลกมากเช่นกัน
แยนนี่กล่าวว่า “ฉันไม่เคยไปยุ่งกับเขาเลย และถ้าคุณเห็น ก็แสดงว่าคุณคิดมากไปเอง และนั่นก็ไม่เกี่ยวกับฉันด้วย”
เชนน์ตอบกลับอย่างร้อนรน “อ๋อ งั้นฉันก็คงตาบอด”
แยนนี่กัดริมฝีปากตัวเองและคิดได้ว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะอธิบายหรืออยู่กับประเด็นนี้อีก ดังนั้นเธอจึงออกจากคลินิกไป
เชนน์ตามเธอไปและจับมือเธอไว้ขณะที่เขาพูดว่า “แล้ว แค่นั้นเหรอ?”
เขาดูผิดหวัง
แยนนี่งุนงงและถามว่า “อะไร?”
เชนน์ถอนหายใจอย่างเซื่องซึมเขาพูดด้วยน้ำเสียงถอดใจ “ฉันอธิบายเธอทุกอย่างที่เธออยากรู้ แต่เธอไม่เคยอธิบายอะไรที่ฉันอยากรู้ให้จบเลย”
“ยังไงคุณก็ไม่เคยเชื่อในสิ่งที่ฉันอธิบายอยู่แล้วนี่”
เชนน์ดูโกรธเล็กน้อยขณะที่เขาพูด “แล้วเธอจะไม่อธิบายอีกแล้วเหรอ หลังจากที่ฉันไม่เชื่อเธอแล้ว? ทำไมเธอถึงไม่ลองอธิบายให้ฉันฟังมากกว่านี้ล่ะ? เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่เชื่อเธอ? แยนนี่ ทำไมเธอถึงไม่สู้เพื่อฉันเลยล่ะ? เธอทั้งนึกถึง ทั้งคิดถึงซามูเอลได้ตั้งหลายปี แต่พอฉันดีกับเธอมาก ๆ เข้า ฉันเลยไม่คู่ควรให้เธอต่อสู้เลยเหรอ?”
‘เธอตกลง เมื่อตอนที่ฉันพูดถึงเรื่องเลิกกันโดยที่เธอไม่คิดจะรั้งฉันไว้ด้วยซ้ำ บ้าเอ๊ย ยัยผู้หญิงไม่มีหัวใจ’
แยนนี่พูดไม่ออก
แยนนี่รู้สึกได้ว่าเชนน์ดูเหมือนเป็นเด็กประถมตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง
แยนนี่ตะคอกเขากลับไปว่า "โอ้โห คุณดีกับฉันมากทีเดียว ถึงขนาดทิ้งฉันไว้ตามลำพังในทุ่งหญ้าโล่งกว้าง จนฉันเกือบจะถูกหมาป่ากิน คุณดีกับฉันมากจนคุณเต็มใจที่จะเลิกกับฉันโดยไม่มีเหตุผล เพราะแบบนั้น การทำดีกับฉันคงหมายความว่าคุณสามารถเลิกและคืนดีกับฉันได้ทุกเมื่อที่คุณต้องการสินะ เชนน์ จินน์ คุณรู้หรือเปล่าว่าคุณเหมือนลมที่พัดผ่านไปมา? แล้วคุณคิดว่าฉันจะชอบคุณ ต่อสู้เพื่อคุณ และยอมอยู่เคียงข้างคุณได้ยังไง?"
เชนน์ตกตะลึงไปสองสามวินาทีกับคำพูดที่ตรงไปตรงมาของเธอ
แยนนี่รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อยและกำลังจะไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้ออาหาร ทันใดนั้น เชนน์ก็ตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูพ่ายแพ้จนหมดรูปมาจากด้านหลังของเธอ "ฉันแค่รู้สึกไม่ปลอดภัย และต้องการใช้การเลิกกันเพื่อกระตุ้นเธอไง แยนนี่ เธอไม่เข้าใจฉันเลยแม้แต่นิดเดียวจริง ๆ เหรอ?"
“ฉันเป็นคนที่กลับมาหาเธอเสมอ หลังจากที่เราทะเลาะกันทุกครั้ง แยนนี่ เธอรู้ไหมว่าฉันหวังอยากให้เธอมาง้อฉันสักครั้งเพื่อคืนดีกัน แต่เธอก็ไม่เคยทำเลย”
‘เธอไม่เคยทำเลย’
แยนนี่พูดอย่างใจเย็น "แต่ฉันไม่ใช่คุณ คนที่ต้องการเลิกคือคุณ ในเมื่อคุณต้องการเลิกตั้งแต่แรก แล้วทำไมฉันถึงต้องเสียแรงไปง้อคุณโดยเปล่าประโยชน์ด้วยล่ะ?"
“เธอรู้ได้ยังไงว่าเปล่าประโยชน์ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ลองเลย? แยนนี่ เธอรู้ไหมว่าตราบเท่าที่เธอเต็มใจที่จะก้าวมาข้างหน้าและเดินมาหาฉัน ฉันก็ยินดีที่จะเดินไปกับเธอตลอดชีวิตที่เหลือของเธอแล้ว? ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่เคยแม้แต่จะขยับจากจุดเดิมด้วยซ้ำ เธอยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่แม้แต่จะก้าวไปข้างหน้าสักก้าวเดียว”
แยนนี่ยิ้มออกมาอย่างสงบและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นคุณรู้ไหม ว่าถ้าคุณเต็มใจใช้ความพยายามจริง ๆ และก้าวเข้ามาหาฉัน ฉันก็ยินดีที่จะเดินไปกับคุณได้ตลอดทั้งชีวิตเช่นกัน? เชนน์คุณก็ไม่เคยคิดที่จะเริ่มทำแบบนั้นตั้งแต่แรก เพราะคุณไม่ยอมบอกเหตุผลที่เลิกกับฉันด้วยซ้ำ แล้วคุณจะมาหวังให้ฉันก้าวไปหาคุณได้ยังไง? เราเหมือนกับกองทรายที่ไม่มีทิศทาง ถ้าเรามีทิศทางกันตั้งแต่แรก บางทีฉันอาจจะเต็มใจขอร้องคุณสุดกำลัง แต่คุณก็ไม่พูดอะไรเลย และต้องกาแค่จะเลิกกัน สิ่งนี้มีแต่จะทำให้ฉันรู้สึกว่าคุณเบื่อฉัน เพราะว่าคุณไม่สามารถให้เหตุผลฉันได้ตั้งแต่แรก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน