เชนน์พูดว่า “ทุกอย่างที่ฉันต้องการคืออยากให้เธอกลับมาหาฉัน ด้วยการทำตัวเย็นชากับเธอนิดหน่อย เธออยากให้ฉันพูดกับเธอตอนเลิกกันว่าอะไร? เธออยากให้ฉันบอกเธอเหรอว่าฉันหึงเธอกับซามูเอล?”
ดวงตาของแยนนี่สั่นไหวขณะที่เธอค่อย ๆ มองเขา เธอเห็นว่าเชนน์ดูจริงจังสุด ๆ และไม่มีวี่แววของการหยอกเล่นแม้แต่นิดเดียว
ความรักอันเสียสละของเขาที่เขาไม่รู้ตัวสามารถมองเห็นได้จากส่วนลึกที่สุดของดวงตาเขา
แยนนี่ยิ้มและพูดว่า “งั้นคุณก็เชื่อเรื่องไร้สาระที่คาราพูดเหรอ? เชนน์ คุณเคยคิดบ้างหรือเปล่าว่าไม่ใช่เพราะคุณเชื่อเรื่องที่คาราพูด แต่เป็นเพราะคุณไม่มีความเชื่อมั่นในตัวฉันเลย?”
“ใช่ ฉันไม่เชื่อในสิ่งที่คาราพูด แล้วฉันก็ไม่เชื่อใจเธอเช่นกัน แยนนี่เธอเคยสงสัยไหมว่าทำไมฉันถึงไม่เชื่อใจเธอตั้งแต่แรก? เธอพูดออกมาไม่ได้เลยว่าเธอรักฉัน แล้วจะให้ฉันเชื่อใจเธอได้ยังไง?”
เขาไม่สามารถที่จะเชื่อใจแฟนสาวที่ไม่เคยให้ค่าเขาอยู่ในหัวใจของเธอ
แยนนี่เริ่มมีน้ำตา ขณะที่หายใจติดขัด เธอสูดหายใจเข้าลึกและพูดว่า “ถ้าความรักต้องการการแสดงออก งั้นช่วยบอกฉันทีว่าคนใบ้จะแสดงออกถึงความรักของเขาได้ยังไง?”
นี่หมายความว่าเธอรักเขาหรือ?
แผ่นหลังของเชนน์ยืดตรง
ถึงอย่างนั้นแยนนี่ก็หมุนตัวและตรงไปยังซูเปอร์มาร์เก็ตด้วยท่าทางอย่างผู้พ่ายแพ้
เชนน์รีบตามเธอไป
แยนนี่ดูจดจ่อมากในตอนที่เธอหยิบอาหารประเภทสำเร็จรูปพร้อมรับประทานออกมาจากชั้น
เชนน์เดินตามหลังเธอไปและถามว่า “เธอช่วยพูดสิ่งที่เธอพูดก่อนหน้านี้อีกทีได้ไหม?”
แยนนี่กล่าวว่า “ฉันพูดว่า ถ้าคุณอยากจะกลับมาคบกับฉัน ฉันต้องการให้คุณไปคว้าดาวจากท้องฟ้ามาให้ฉัน”
เชนน์สะกดกลั้นความตื่นเต้นของเขาเอาไว้ขณะที่ดวงตาของเขาเป็นประกายสดใส แต่เขาก็ตอบด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ “นี่เธฮพยายามทำให้ฉันอบอุ่นจนแทบขาดใจเลยเหรอ? เธออยากได้อะไรฉันก็จะหามาให้ แค่ดวงดาวเอง”
“ก็ได้ งั้น ฉันอยากให้นอร์ทซิตี้มีหิมะในเดือนกรกฎาคม”
“เธออยากให้ฉันทำอะไรโหดร้ายกับสิ่งแวดล้อมจริงเหรอ? แบบว่า ถ้าเธออยากได้จริง ๆ ฉันก็ไม่ติดนะ” เชนน์มองเธอด้วยแววตาหยอกเย้า
แยนนี่ตอบออกมาเรียบ ๆ ว่า “งั้นฉันก็จะรอให้ฝนตกลงมาเป็นเลือดก็แล้วกัน แบบนี้คงไม่มากเกินไปสินะ?”
เชนน์พูดไม่ออก
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็เอื้อมมือไปจับมือเธอไว้ และพูดว่า "ไม่ ไม่มากไปเลย"
เชนน์จดไว้ในใจว่าเขาต้องไปเก็บดาวมาจากฟ้า ทำให้นอร์ทซิตี้มีหิมะในเดือนกรกฎาคม และฝนตกเป็นเลือด ถ้าเขาไม่สามารถทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นได้ในอนาคต การทำแบบนั้นอาจทำให้เขาได้เธอกลับมาจริง ๆ ก็ได้
ถึงอย่างนั้น ใครจะบอกได้ล่ะ ว่าแม้เขาจะเก็บดาวจากฟ้า ทำให้นอร์ทซิตี้มีหิมะตกในเดือนกรกฎาคม และทำให้เกิดฝนเลือดแล้ว ในอนาคตเธอก็อาจหายไปจากโลกของเขาโดยสิ้นเชิง
…
หลังจากแยนนี่ถ่ายหนังเรื่อง 'Interesting Adventures' เสร็จ เธอก็กลับไปยังนอร์ทซิตี้พร้อมกับเชนน์
แต่กลับมายังนอร์ทซิตี้ได้ไม่นาน เธอก็ต้องวุ่นอยู่กับงานอีกครั้ง
แยนนี่ยังไม่ยกโทษให้เชนน์ แต่พวกเขาก็ไม่ได้ยกเรื่องนี้มาทะเลาะกันอีกแล้ว รวมถึงไม่ได้คิดต่อไปว่าพวกเขาจะกลับมาคบกันอีกไหม
แยนนี่เริ่มงานแสดงอีกครั้งในเดือนเมษายน
แยนนี่ยังคงแสดงเป็นตัวละครสนับสนุนหมายเลขหนึ่งในภาพยนตร์ที่ฉายในโรงภาพยนตร์ มีข้อเสนอมากมายถูกส่งมายังเธอหลังจากที่เธอประสบความสำเร็จกับเรื่อง ‘Black and White’ เธอยังได้รับข้อเสนองานจากผู้จัดชื่อดัง แม้ว่าหลังจากที่เชนน์จงใจเข้ามาขัดขวางเส้นทางอาชีพของเธอไปช่วงหนึ่ง
ถ้าไม่ใช่เพราะเชนน์ที่เข้ามารบกวน ตารางงานของแยนนี่คงจะแน่นยิ่งกว่านี้ และเธอคงได้ใช้วันปีใหม่ที่ต่างประเทศ
เชนน์จะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น
ไม่เป็นไรเลยที่ผู้หญิงของเขาจะทำงานบ้าง แต่เธอไม่จำเป็นต้องทำงานหนักขนาดนี้
หลังจากที่แยนนี่เริ่มทำงานกับแลร์รี ครั้งหนึ่งเธอก็แสดงให้กับผลงานของเฟย์ แลงสตรอม
แยนนี่เลือกเล่นให้กับภาพยนตร์ของเฟย์ที่ชื่อ ‘Neutral war’ ภายใต้การอำนวยการสร้างของสปริง เธอกลับมาเป็นที่สนใจในโลกออนไลน์อีกครั้ง และกลายเป็นนักแสดงอายุน้อยที่สุดที่เคยทำงานให้กับผู้กำกับสองคนในเวลาเดียวกัน
เฟย์เป็นเพื่อนเก่าของเชนน์
เฟย์เป็นผู้กำกับระดับเอลิสต์ที่อายุน้อยที่สุดในวงการสิ่งบันเทิง ทั้งในฮอลลีวูดและในประเทศ เธอได้รับรางวัลออสการ์ สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมถึงสองรางวัล และยังมีรางวัลสุดยอดอีกมากมายที่เธอได้รับ ดังนั้นไม่ว่าจะในฮอลลีวูดหรือในประเทศ อย่างไรเธอก็มีชื่อเสียงมากอยู่ดี
เธอกลับมาบ้านเกิดในครั้งนี้ก็เพื่อถ่ายเรื่อง ‘Neutral war’ เพื่อเติมเต็มความฝันที่ยังไม่สำเร็จเมื่อครั้งยังเยาว์วัยของเธอ
กระบวนการถ่ายทำของเรื่อง ‘Neutral warติ’ ใช้เวลาแปดเดือนในนอร์ทซิตี้จึงแล้วเสร็จ
นับตั้งแต่ที่ทั้งแยนนี่และเชนน์กลับจากแอฟริกาใต้มายังนอร์ทซิตี้เมื่อเดือนมีนาคม และเมื่อเธอเข้าร่วมกระบวนการผลิตภาพยนตร์เรื่อง ‘Neutral war’ เธอก็ไม่เห็นเชนน์ตั้งแต่นั้น
ทั้งปีผ่านไปไวราวกับกระพริบตา
แยนนี่ยุ่งวุ่นวายอยู่กับการทำงานและชื่อเสียงของเธอก็พุ่งทะยาน สปริงบอกเธอว่าตราบใดที่เธอคว้าโอกาสไว้ด้วยการทำงานแสดงออกมาให้น่าทึ่งในภาพยนตร์ และชนะรางวัลลูกโลกทองคำ เธอก็จะมีอิสระในการกำหนดเส้นทางอาชีพนักแสดงได้ตามที่เธอต้องการ
ถ้าเฟย์ดึงศักยภาพของแยนนี่ออกมาได้ มันก็จะไม่ใช่ฝันที่ไกลเกินเอื้อมสำหรับเธอที่จะขยายโอกาสทางอาชีพไปยังฮอลลีวูด เพราะแยนนี่มีพรสวรรค์ด้านการแสดงและเป็นนักแสดงที่มีเสน่ห์อย่างมาก เป็นเรื่องที่เหมาะกับเธอที่จะขยายเส้นทางอาชีพของเธอออกไปต่างประเทศ ถึงอย่างนั้น กุญแจสำคัญของความสำเร็จในต่างประเทศคือความยืดหยุ่นในทักษะการแสดงของเธอ และไม่ใช่เรื่องแย่สำหรับเส้นทางอาชีพของเธอเลยที่จะเข้าไปยังฮอลลีวูด
ขณะที่แยนนี่เงยหน้าขึ้นและมองไปยังดวงจันทร์สุกสว่าง เธอก็ยิ้มเย็นออกมาและพูดว่า “บังเอิญจังที่เพื่อนของคุณก็เป็นหุ้นส่วนของฉันเช่นกัน”
“เขาเป็นคนพาคุณเข้าวงการบันเทิงเหรอ?”
แยนนี่ไม่ได้ปฏิเสธขณะที่เธอยอมรับอย่างใจกว้างว่า “ฉันไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ ว่าเขามั่นใจได้อย่างไรว่าฉันจะเก่งในงานนี้ได้ เราะเขาพูดเพียงแค่ว่าฉันน่ารัก แบบนั้นใครจะไปรู้เหตุผลกันล่ะคะ”
เฟย์พูดออกมาเพียง “อ๋อ” ด้วยเสียงที่ลากยาว ก่อนที่เธอจะพูดต่อไปว่า “เขาบอกว่าฉันขี้เหร่ และเพราะความที่ฉันไม่สวยนั่นแหละฉันเลยเป็นผู้กำกับที่ดี”
แยนนี่ยิ้มเพราะเหตุผลฟังดูแล้วเป็นสิ่งที่เชนน์น่าจะเป็นคนพูดจริง ๆ
“ฉันสังเกตคุณมาตลอดแปดเดือน ตอนแรกฉันคิดว่าคุณจะติดต่อกับเพื่อนคนนั้นตลอดเวลาที่อยู่ในกอง แต่คุณไม่เคยให้โอกาสนั้นกับฉันเลย ฉันตั้งใจว่าถ้าคุณทำแบบนั้น ฉันจะได้เอาไปบอกท่านประธานจินน์อย่างมีความสุขว่าคนที่เขาแนะนำมาไม่มีความเป็นมืออาชีพเอาเสียเลย แล้วฉันก็จะได้รีดไถเงินจากเขาได้ แต่กลับกลายเป็นว่าคุณเป็นมืออาชีพมากจนทำให้ฉันทึ่งไปเลย”
แยนนี่ตอบด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ “งั้นฉันคงต้องขอโทษที่ทำให้คุณผิดหวังนะคะ”
ท้ายที่สุดเฟย์ก็พยักหน้าและพึมพำกับตัวเอง “ฉันอดไม่ได้ที่จะยอมรับในดุลยพินิจอันเหลือเชื่อของเพื่อนคนนี้ เพราะทั้งฉันและคุณก็ดูเหมือนจะมีลักษณะเดียวกัน”
ไม่แน่ใจว่าเธอชื่นชมแยนนี่หรือตัสเอง หรือว่าเธอกำลังชื่นชมเชนน์กันแน่
เฟย์เรียกแยนนี่ไว้หลังจากที่พวกเขากลับไปยังโรงแรม “ถ้า ‘Neutral war’ ขายตั๋วได้พันล้าน และคุณได้รับรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมในรางวัลลูกโลกทองคำ คุณก็จะมีงานรอให้คุณแสดงในฮอลลีวูดกับฉันแน่เลยละ”
เสียงของเฟย์ทั้งสงบและใจเย็น คลับคล้ายคลับคลาราวกับว่าเธอกำลังบอกว่า ‘ดูสิ เราสามารถผ่อนคลายแล้วพักสักสองสามวันได้นะ’
คิ้วของแยนนี่สั่นเล็กน้อย
หลังจากกลับไปยังห้องและล้มลงบนเตียง แยนนี่ก็พบว่ามันยากมากที่ทำให้อารมณ์ที่ปั่นป่วนของเธอสงบลง
ดูเหมือนว่าฝันเฟื่องของเธอจะกลายเป็นจริงในสักวันหนึ่ง
‘ฮอลลีวูด’
‘นี่ควรเป็นความฝันของนักแสดงภาพยนตร์ทุกคน’
ดูเหมือนว่าฝันนี้จะไม่ไกลเกินเอื้อมสำหรับเธออีกต่อไป
แยนนี่จะปฏิเสธมันไปได้อย่างไร ในเมื่อเธอไม่ใช่ตัวเอกในนิยายแมรี่ ซู เธอไม่มีอะไรมากไปกว่าเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง
ดูเหมือนว่าเธอเต็มใจที่จะละทิ้งทุกสิ่งอันเป็นเรื่องชั่วคราวไป เมื่อเธอได้รับโอกาสที่เย้ายวนใจขนาดนี้
เธอพบว่ามันยากเหลือเกินที่จะหลับลงในคืนนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน