คาราไม่เคยคิดมาก่อนว่าเธอจะกลายเป็นแม่สื่อของเชนน์กับแยนนี่ ไม่อยากเชื่อเลยว่าเชนน์จะประกาศความสัมพันธ์ของพวกเขาเพียงเพราะพวกแอนตี้ในอินเตอร์เน็ต
ลีนาเองก็เห็นข่าวลือพวกนั้นในเน็ตเช่นกัน เธอคว้าโทรศัพท์และบุกเข้าไปในห้องของลูกสาวด้วยความโกรธก่อนจะตวาดเสียงลั่น “คารา แยนนี่กลายเป็นแฟนตัวจริงของเชนน์ได้ยังไงกัน? ฉันบอกพวกตระกูลจาร์คอปไปว่าเธอเป็นคู่หมั้นของเชนน์นะ!”
คาราโกรธมากจนน้ำตาไหล เธอเอนกายลงบนโต๊ะอ่านหนังสือด้วยความสิ้นหวังก่อนจะตะคอกกลับด้วยความโกรธไม่แพ้กัน “แม่ หยุดพูดเรื่องนี้เสียที! แค่นี้ฉันก็อกจะแตกตายอยู่แล้ว! ทำไมยัยนี่มันชอบขโมยของของฉันไป? มันขโมยไปแม้แต่สามีของฉัน!”
เมื่อเห็นลูกสาวร้องไห้ลีนาจึงเดินเข้าไปแล้วดีงเธอขึ้นมาก่อนจะพร่ำบอกเธอด้วยความเศร้าใจ “ลุกขึ้นมา ลูกจะร้องไห้ทำไม? ร้องไปแล้วคิดว่าตระกูลจินน์จะมาเห็นหรือ? คิดว่าตระกูลจินน์จะปล่อยให้เชนน์นอนกับพวกผู้หญิงไปทั่วแล้วเกิดข่าวแบบนี้ในโลกออนไลน์หรือไง? นายท่านจินน์เป็นคนตกลงในการแต่งงานนี้ แม่เชื่อว่าเชนน์จะไม่กล้าขัดใจคุณปู่ไม่ว่าเขาจะไม่กลัวก็ตาม”
คารายังคงร้องไห้ “แม่คะ ฉันควรทำอย่างไรดี”
“เพราะเชนน์เป็นคู่หมั้นของลูกเขาจึงมีความผิดฐานนอกใจ เราต้องไปหาตระกูลจินน์แล้วจัดการเรื่องนี้กับนายท่าน! หยุดร้องไห้เดี๋ยวนี้เก็บน้ำตาของลูกไปร้องไห้ต่อหน้านายท่านจินน์ซะ! นังส*รเลวแยนนี่ ฉันอยากจะเห็นจริงๆ ว่ามันจะทำอย่างไรต่อหน้านายท่าน!”
คาราเช็ดน้ำตาจนแห้งเหือด “แม่คะ ฉันจะไม่ร้องไห้แล้ว ไปที่คฤหาสน์ตระกูลจินน์กันเถอะ แม่ ฉันต้องแต่งงานกับคุณชายเชนน์ ต้องเป็นคุณชายเท่านั้น ฉันปล่อยให้แยนนี่มันพรากเขาจากไปไม่ได้!”
“ถูกต้อง ได้เวลาลูกต้องงัดไม้แข็งออกมาแล้ว อย่ายอมถอยเพราะยิ่งถอยแยนนี่มันจะยิ่งเหยียบลูกมากขึ้น!”
ลีนาพาคารามาที่คฤหาสน์ตระกูลจินน์ พวกเธอเริ่มฟ้องทันทีที่เห็นนายท่าน
“นายท่านจินน์ ท่านเป็นคนอนุมัติการแต่งงานครั้งนี้ ตอนนี้คาราควรทำอย่างไรในเมื่อคุณชายเชนน์มีแฟนอีกคนแล้ว” ลีนาแสร้งทำเป็นเช็ดน้ำตาขณะที่เธอฟ้องกับนายท่านจินน์
นายท่านจินน์ก็โกรธเช่นกัน เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าชีวิตส่วนตัวของเชนน์จะวุ่นวายขนาดนี้ ตอนนี้เขากำลังเป็นที่นินทาของทุกคนในนอร์ทซิตี้ นายท่านถอนหายใจและพูดว่า “คราวนี้เป็นความผิดของเชนน์จริงๆ ฉันเองก็ตำหนิเขาเช่นกัน ฉันจะให้เขากลับมาทันทีเพื่อจัดการเรื่องต่างๆ ให้เรียบร้อย”
คาราเริ่มบีบน้ำตาร้องไห้และพูดกับนายท่านจินน์ด้วยน้ำเสียงที่เศร้าโศก "คุณปู่จินน์คะ ฉันเกรงว่าคุณชายเชนน์จะคิดว่าฉันใช้คุณปู่เพื่อขู่เขาถ้าขอให้เขากลับมาตอนนี้ เขาจะเกลียดฉันยิ่งกว่าเดิม คุณปู่คะ ฉันไม่อยากเสียคุณชายเชนน์ไปจริงๆ”
ชาร์ลส์รู้สึกผิดทันทีที่ได้ยินเด็กสาวพูดอย่างนั้นเขาจึงพูดออกมาด้วยความโกรธยิ่งกว่าเก่า “ไอ้คนไม่รักดีนี่กล้าไปนอนกับผู้หญิงอื่น ฉันจะสั่งสอนมัน! มันไม่กล้าพูดอะไรอีกต่อไปหรอก! ฉันจะหักขาถ้ามันกล้าตำหนิอะไรเธอ!”
คารายิ้มก้มศีรษะพลางเช็ดน้ำตาก่อนจะลอบอมยิ้ม
เธอคิดในใจว่า 'แยนนี่ ตอนนี้น่ะแม้แต่คุณปู่จินน์ก็ยังอยู่ข้างฉัน มาดูกันว่าเธอจะเอาชนะฉันได้อย่างไร'
…
เมื่อเวลาเช้ามาถึง แยนนี่ก็ตื่นขึ้นมาและทำอาหารเช้า
เชนน์ยังคงนอนอยู่บนเตียง
โทรศัพท์ของชายหนุ่มซึ่งวางอยู่ข้างเตียงดังขึ้นทันทีที่แยนนี่เข้าไปปลุกเขา
แยนนี่หยิบมันขึ้นมาดูหมายเลขผู้โทรและพบว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์บ้าน ต้องเป็นคุณปู่ของเชนน์หรือไม่ก็คงเป็นซาแมนธา
“คุณชายเชนน์ โทรศัพท์ของคุณกำลังดัง เร็วเข้ารีบรับสาย”
เชนน์ที่นอนอยู่บนเตียงรู้สึกสบายเกินที่จะรับสายน่ารำคาญนั่น เขาห่อตัวเองด้วยผ้าห่มแล้วหันกลับมาก่อนจะบ่นพึมพำ “อย่าสนใจเลยเดี๋ยวมันก็เงียบไปเองแหละ ไม่รับสายก็ไม่เป็นไรหรอก”
แยนนี่หัวเราะ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เชนน์ทำแบบนี้เธอจึงจะวางโทรศัพท์นั้นลงแต่มันก็ดังขึ้นอีกครั้ง
แยนนี่กังวลว่าตระกูลจินน์กำลังมีเรื่องด่วนจะบอกเชนน์เธอจึงรีบบอกเขาอีกครั้ง “งั้นฉันรับสายให้นะ”
นายท่านโกรธจัดเขาตะโกนด่าออกมาอย่างเหลืออด “ไอ้*วร! อย่ามาเรียกตัวเองว่าหลานชายฉัน! แกนี่มันอวดดีจริงๆ! กลับมาเดี๋ยวนี้ ได้ยินไหม?”
เชนน์ขมวดคิ้วก่อนจะพูดอย่างหมดความอดทน “เข้าใจแล้ว ปล่อยคนของตระกูลจาร์คอปไปเดี๋ยวผมจัดการเอง ไว้เจอกันนะไอ้แก่”
เชนน์วางสายหลังจากพูดแบบนั้น
แยนนี่ถึงกับอึ้ง
แยนนี่รู้ว่าเชนน์เป็นคนเกเรแต่เธอไม่คิดว่าเขาจะกล้าถึงขนาดนี้ เธอหยอกล้อเขา “คุณไม่กลัวว่าเขาจะโกรธจัดหรือ? ถ้าเขาล้มป่วยขึ้นมาคุณเป็นคนผิดนะ”
เชนน์เอื้อมมือไปจับแขนเล็กๆ ก่อนจะดึงเธอไปที่เตียงแล้วสวมกอดแน่น เขายิ้มและพูดอย่างหยอกล้อว่า “เขาคงถูกหามส่งไปโรงพยาบาลเพราะฉันกับซาแมนธาเป็นร้อยๆ ครั้งแล้วถ้าเขาล้มป่วยง่ายแบบนั้น”
แยนนี่มองใบหน้าที่หล่อเหลาอย่างหลงใหลขณะที่อยู่ในอ้อมกอด เธอสัมผัสคางของเขาเบา ๆ พลางบอกว่า “คุณปู่ของคุณคงเจองานหนักน่าดูที่ต้องคอยดูแลเด็กสองคนนี้”
เชนน์เลิกคิ้วขึ้นก่อนจะสวมกอดเธอด้วยแขนข้างเดียวแล้วยกแขนอีกข้างขึ้นประคองหลังศีรษะเล็ก เขาดูผ่อนคลายมาก “เรามีเธอแล้วตอนนี้ เธอสามารถดูแลฉันแทนในนามของคุณปู่วันข้างหน้าเขาจะได้ห่วงฉันน้อยลง”
“คุณเป็นคนเอาแต่ใจ ฉันจะเอาอยู่ได้อย่างไร?”
จู่ๆ เชนน์ก็หันกลับมาแล้วลืมตาจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง เสียงทุ้มเอ่ยอย่างหยอกล้องว่า “เธอเคยได้ยินไหมที่เขาว่ายิ่งเคร่งครัดมากเท่าไหร่เขาจะยิ่งไม่เชื่อฟังคำสั่งสอน? เขาต้องการที่จะแสดงความฉุนเฉียวและทำอะไรบางอย่างเพื่อพิสูจน์ความสามารถของตัวเองเพราะเขามักถูกควบคุมอยู่เสมอ”
แยนนี่ยิ้มก่อนจะถามเขาว่า “แล้วคุณล่ะ? เป็นคนที่เชื่อฟังหรือไม่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน