เชนน์มีใบหน้าพระเจ้าปั้นที่ดูหยิ่งยโสและไม่เหมือนใคร มองแวบแรกเขาดูเหมือนคุณชายที่อยู่ในกรอบแต่อันที่จริงแล้วเขาคือคนดื้อรั้นเป็นที่หนึ่ง
เขาจับมือเธอไว้แล้วประทับจูบลงไปก่อนจะบอกว่า “ภายนอกฉันอาจจะดูแย่แต่จริงๆ แล้วฉันเป็นคนนิสัยดี ฉันจะทำทุกอย่างที่เธอต้องการและถ้าเธอขอให้ฉันอย่าทำอะไรฉันก็จะไม่ทำ ฉันจะเชื่อฟังเธอราวกับสุนัขเชื่อฟังเจ้าของ แยนนี่ เธออยากลองไหม?”
ตอนนี้ชายตรงหน้าดูบริสุทธิ์และไร้เดียงสาจนแยนนี่อดหัวเราะออกมาไม่ได้ “งั้นก็ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้เลย”
เชนน์ตอบว่า “โอเค” เขาว่องไวราวกับปลาคาร์พเชนน์รีบลุกขึ้นก่อนตอบว่า “บอกแล้วไงว่าฉันเชื่อฟังมาก”
เขาน่ารักแต่ก็ไม่เชื่องในบางครา
เชนน์เข้าห้องน้ำไปกับแยนนี่เธอช่วยบีบยาสีฟันลงบนแปรงเขาก่อนจะยื่นให้แล้วบอกว่า “นี่ค่ะ เจ้าพุดเดิ้ลตัวน้อยของฉัน”
เชนน์หัวเราะกับชื่อเล่นที่เธอเพิ่งตั้งให้เขาก่อนจะแกล้งจับเอวบางแล้วพูดว่า “คุณเรียกใครว่าพุดเดิ้ล”
“คุณบอกว่าจะเชื่อฟังราวกับสุนัขไม่ใช่หรือไง?” แยนนี่รู้สึกจักจี้ เธอสะดุ้งและหัวเราะไม่หยุด
“ฉันยอมเป็นสุนัขอันนั้นไม่เถียงแต่พุดเดิ้ล… ว่ากันที่เรื่องของตัวเล็ก ถามตัวเองตรงๆ เถอะว่าส่วนไหนของฉันที่เล็กกัน?”
แยนนี่พูดไม่ออก
เขาพูดออกมาหน้าตาเฉยแบบนั้นได้อย่างไร?
ขณะที่กำลังแปรงฟันเชนน์ก็ดึงแยนนี่เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดพวกเขามองกันผ่านกระจก
เชนน์วางคางลงบนไหล่เล็กๆ ของแยนนี่เขาคาบแปรงสีฟันไว้ในปากแล้วพูดว่า "แยนนี่ ฉันไม่ใช่คนที่จะทำตัวสุ่มสี่สุ่มห้าหรือเล่นเป็นเด็กที่ไม่เคยเห็นโลกกว้างมาก่อนอีกต่อไป ฉันเคยชอบเที่ยวเล่นไปทั่วตอนที่ไม่มีใครเพราะฉันไม่มีเหตุผลที่จะหยุด ไม่ใช่เพราะควบคุมตัวเองไม่ได้แต่แค่ไม่รู้จะทำอย่างนั้นไปทำไม แต่ตอนนี้ฉันเจอเหตุผลที่จะหยุดตัวเองแล้วและฉันคิดว่าตัวเองก็ต้องพยายามฝึกฝนไปด้วยเหมือนกัน ถ้ามีสิ่งหนึ่งที่ฉันไม่สามรถหยุดมันได้ในตอนนี้นั่นก็คือเธอ”
คนที่เคยผ่านอะไรมามากมายในโลกนี้นั้นมีโอกาสน้อยมากที่จะทิ้งคนที่เขารัก เป็นเพราะเขาอาจจะได้เห็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตแล้วแต่ก็ยังเลือกที่จะอยู่กับใครสักคนหนึ่งนั่นหมายความว่าเขาต้องการที่จะอยู่ด้วยกันกับเธอตลอดไป
แยนนี่เล่นกับมือใหญ่เรียวที่วางอยู่บนไหล่พลางถามว่า "คุณปู่บอกว่าคาราเป็นคู่หมั้นของคุณ"
“ฉันเคยยอมรับตอนไหนว่ากำลังมีสัมพันธ์กับผู้หญิงอื่นนอกจากเธอ”
"แล้วทำไมคาราถึงอ้างตัวเองว่าเป็นคู่หมั้นของคุณล่ะ"
เชนน์ลังเลอยู่ครู่หนึ่งเขามีท่าทีกระอักกระอ่วนใจ “ก็... ฉันไม่เคยยอมรับแล้วตอนนั้นก็ไม่ได้รู้สึกเอะใจอะไรด้วย พวกจาร์คอปคงคิดว่าฉันยอมแล้วอีกอย่างฉันมีเหตุผลที่ไม่สามารถปฏิเสธได้”
แยนนี่เบิกตากว้างด้วยความสงสัยเธอหันมาหาเขาทันที “เหตุผลอะไร?”
เชนน์แปรงฟันต่อจนริมฝีปากของเขาเต็มไปด้วยฟองสีขาวของยาสีฟัน
ชายหนุ่มโน้มตัวก้มหน้าลงมาก่อนจะพูดติดตลกว่า "จูบก่อนถ้าฉันอารมณ์ดีฉันจะบอกเธอ"
"ให้ตายสิ ลูกไม้นี้ของคุณ ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไรฉันก็ไม่อยากรู้เหมือนกัน”
แยนนี่ผลักเขาออกไปอย่างจงใจแล้วสะบัดตัวหนีออกจากอ้อมกอด เธอทำท่าทีเหมือนไม่สนใจเชนน์อีกต่อไป ชายหนุ่มดึงร่างเล็กๆ กลับมาด้วยรอยยิ้มอย่างหมดหนทาง เขาก้มศีรษะลงแล้วจูบผู้หญิงในอ้อมแขนทั้งริมฝีปากบางที่เต็มไปด้วยฟอง
การได้เห็นเธอหงุดหงิดทำให้เชนน์รู้สึกมีความสุข หลังจากล้างปากเสร็จแล้วเขาก็มองเธอด้วยดวงตาคมเข้ม "ฉันนึกว่าเธอไม่ถูกกับคาราไม่ใช่เหรอ? ถ้าฉันเป็นคู่หมั้นของคาราเธอจะไม่ต่อสู้แล้วแย่งชิงฉันมาหรือไง?"
แยนนี่ยังคงยืนแน่นิ่งไม่พูดอะไร
“เชนน์ คุณนี่มันทำตัวเป็นเด็กจริงๆ!”
และแม้ว่าจะต้องรอเธออีกสี่ปีเขาก็จะไม่ปริปากบ่นอะไร
เขารักเธอมากจริงๆ
แม้ว่าเธอจะเป็นความรักเล็กๆ ในอดีตแต่เชนน์ก็ไม่เคยคิดเลยว่าหลังจากนั้นเขาจะชอบเธอได้มากขนาดนี้
เชนน์ไม่เคยคิดฝันที่จะรักใครสักคนด้วยหัวใจและจิตวิญญาณของชีวิตเขา
เขาเต็มใจที่จะหยุดต่อต้านพื้นที่รกร้างในหัวใจและมอบมันด้วยชีวิตให้กับเธอเสียด้วยซ้ำ
เขาคลั่งรักเธอมากจนแทบบ้า
เขาขาดเธอไม่ได้
......
หลังจากที่พวกเขามาถึงเชนน์ก็จับมือแยนนี่พาเดินเข้าไปในคฤหาสน์จินน์ พวกเขาดูเหมือนคู่รักที่น่ารัก
ชาร์ลส์ตกตะลึงเมื่อเห็นพวกเขาจับมือกันแต่ดวงตายังคงฉายแววไว้ซึ่งความสง่างามเขาขมวดคิ้วก่อนจะพูดว่า "เชนน์ กำลังทำอะไรอยู่ แกคบกับคุณนายจาค์คอปแล้วพาผู้หญิงคนอื่นเข้ามาในบ้านเราได้อย่างไร?"
ความเกลียดชังปรากฏขึ้นในแววตาของลีนาทันทีเมื่อเห็นแยนนี่ “ใช่ค่ะ คุณชายเชนน์ แม้ว่าธุรกิจตระกูลของเราจะไม่ใหญ่เท่าของคุณ แต่เราก็ยังคงเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในนอร์ทซิตี้ คุณจะไปเที่ยวกับผู้หญิงสุ่มสี่สุ่มห้าในขณะที่กำลังคบกับลูกสาวของฉันได้อย่างไร? คุณกำลังดูถูกฉันกับคาราและฉันเริ่มไม่ชอบใจที่ให้ลูกสาวของฉันคบกับคุณอีกต่อไปแล้ว”
เชนน์ยังจับมือของแยนนี่แน่นไม่คลายออก เมื่อได้ยินคำพูดของลีนาชายหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เขาตอบอย่างสุภาพแต่เย็นชาว่า "ดีเสียอีกที่คุณไม่ยินยอมให้เราคบกัน ในเมื่อคุณคิดว่าผมดูหมิ่นตระกูลของคุณก็ขอให้ยุติการแต่งงานนี้เสีย เพราะเรื่องมันเกิดขึ้นแล้วคงกระทบกับชื่อเสียงตระกูลคุณก็ยกเลิกไปตอนนี้ยังไม่สาย คุณปู่ของผมต่างหากที่เป็นคนตกลงในการแต่งงานครั้งนี้... ไม่สิ มันไม่ใช่การแต่งงานด้วยซ้ำ ผมว่าเราลืมมันไปซะดีกว่า ผมจะช่วยพูดถึงคุณคาราในนอร์ทซิตี้ให้เธอจะได้เจอกับผู้ชายดีๆ"
คำพูดของเขาดูเรียบง่ายแต่ฟังดูหยิ่งยโสโอหังไม่หยอก ลีนาถึงกับพูดไม่ออกเธอได้แต่จ้องเขม็งมองเชนน์ด้วยความโกรธโดยไม่รู้ตัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน