ในคืนวันเกิดของเชนน์ เขาดื่มกับลูคัสไปมากก่อนจะเดินทางกลับคฤหาสน์ลูน่า
ร่างผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏตัวยืนขวางทางเข้าหน้าคฤหาสน์ตอนที่รถกำลังจะเข้า
คนขับรถก็ไม่ได้คิดว่าจู่ ๆ จะมีคนรีบวิ่งออกมาจากในที่มืดมาโผล่ตรงหน้า
เขารีบเหยียบเบรกสุดแรง โชคดีที่รถคันนี้มีระบบเบรกที่ดี รถจึงไม่ได้ชนเธอ
เชนน์นั่งอยู่เบาะหลัง รู้สึกเมาอ่อน ๆ ตัวของเขาโน้มเอนไปข้างหน้าจากเบรกฉุกเฉินจนรู้สึกหงุดหงิดเล็ก ๆ แล้ว เขากำลังจะตะโกนบ่นคนขับ แต่ก็เงยหน้าขึ้นแล้วสังเกตเห็นร่างผอมเพรียวที่คุ้นตาตรงหน้าเขาพอดี
ไฟหน้ารถสาดไปที่ผู้หญิงคนนั้น
มีอยู่ชั่วขณะหนึ่งที่เชนน์คิดว่าเขามองผิดไปเอง เขาจึงมองเข้าไปใกล้ ๆ แล้วเขาก็เข้าใจว่าตัวเองไม่ได้มองผิดแต่อย่างใด
ผู้หญิงที่ยืนอยู่หน้ารถเขาดูแตกต่างจากคนที่เขาจำได้เหลือเกิน
เชนน์ลงมาจากรถ เขาวางมือข้างหนึ่งไว้บนกระโปรงหน้ารถแล้วถามเธอด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ว่า “มายืนขวางรถผมเนี่ย? คุณคิดจะมาไถเงินค่าเสียหายผมหรือหาวิธีตายกันแน่?” เสียงของเขาฟังดูดุร้าย
คืนนี้ยังเป็นคืนเดือนมีนาคม อากาศในนอร์ท ซิตี้ก็ยังคงหนาวเหมือนเคย
คาราใส่เพียงเสื้อถักบาง ๆ ในสภาพอากาศที่มีลมหนาวของฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งต้องบอกว่าเสื้อตัวนั้นดูบางเป็นพิเศษ เธอมองมาที่เชนน์แล้วบอกว่า “นายท่านเชนน์ ฉันได้ยินมาจากแม่ว่าวันนี้เป็นวันเกิดคุณ ฉันก็เลยเดินทางจากโรงเรียนมารอที่นี่...ฉันยังไม่ได้กินข้าวเลย นายท่านเชนน์ ฉันมาฉลองวันเกิดคุณค่ะ”
คาราถือเค้กในมือ เธอยิ้มให้เชนน์ด้วยท่าทีเหนียมอายแล้วพูดต่อ “นายท่านเชนน์ ฉันทำเค้กนี้ด้วยตัวเองเลยนะ”
เชนน์เริ่มรำคาญเธอแล้ว
ถึงแยนนี่กับคาราจะมีแม่คนละคนกัน แต่ก็มีพ่อคนเดียวกัน คาราจะมาใช้เวลาอยู่กับเขาตอนเธอว่าง เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่าเธอชอบเขา ในขณะที่พอเทียบกันแล้ว แยนนี่จะมีลักษณะนิสัยต่างจากเธอโดยสิ้นเชิง อย่าว่าแต่อบเค้กให้เขาเลย แยนนี่แทบจะไม่อวยพรสุขสันต์วันเกิดให้เขาด้วยซ้ำ
ถ้าคารากับแยนนี่สลับนิสัยกันได้ก็คงจะดี
แต่เชนน์รู้สึกว่านั่นไม่ใช่ประเด็น เขาเป็นคนเลือกเอง เขาชอบนิสัยเสียของแยนนี่
มีคนหลายคนที่พยายามจะเอาใจเขา แต่นิสัยน่ารำคาญแบบแยนนี่นั้นหายาก
เชนน์เลิกคิ้วใส่หญิงตรงหน้า ถึงเขาจะไม่ชอบคารา แต่เธอก็ลงทุนอบเค้กมาให้เขาและยืนรอเขาอยู่ท่ามกลางความหนาวเหน็บนี่ เขาไม่อยากจะพูดอะไรแรง ๆ ใส่เธอ จึงบอกแค่เพียง “ผมไม่กินเค้ก กลับไปได้แล้ว”
“ให้ฉันทำมื้อเย็นให้ไหมคะ นายท่านเชนน์? คุณทำงานกลับมาดึก ฉันมั่นใจว่าคุณไม่ได้กินอะไรมาแน่เลย ฉันเรียนวิธีทำอาหารจากเชฟมาตอนเรียนมหาวิทยาลัย ให้ฉันทำอาหารให้คุณดีกว่า นายท่านเชนน์”
เชนน์หมดความอดทนแล้ว เขาพูดด้วยเสียงรำคาญ “นี่พูดภาษาคนไม่เข้าใจเหรอ? อย่ามาขวางทาง ออกไป!”
คารายังยืนอยู่ตรงนั้น เธอดูเสียใจที่เชนน์ทำกับเธอแบบนี้ หญิงสาวแทบจะน้ำตาร่วง เธอมองเชนน์ด้วยตาแดงรื้นแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ทำไมคุณต้องเกลียดฉันด้วย แยนนี่ทิ้งคุณไปฮอลลีวูด ยัยนั่นมันมีดีตรงไหนกัน? มันก็เป็นแค่พวกหลอกเอาเงินผู้ชาย พอเธอปอกลอกเงินคุณไปได้หมด เธอก็จะโยนคุณทิ้งไปเอง!”
“เลิกพูด!”
คำพูดของคาราจี้ใจดำเชนน์จนเข้าโกรธ
เขาคิดเหตุผลได้เป็นล้านข้อมาอธิบายว่าแยนนี่เป็นคนไม่ดี เขาจะเรียกเธอว่าเป็นยัยหญิงชั่วไร้หัวใจที่ใช้ประโยชน์จากเขาเสร็จแล้วค่อยทิ้งก็ได้
แต่จะมีแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่พูดอะไรแบบนั้นได้ ไม่มีใครคนอื่นคนไหนมีสิทธิ์มาพูดเรื่องร้าย ๆ ใส่แยนนี่
ก่อนหน้านี้ลูคัสดื่มมากเกินไปจนเริ่มคุยแบบพูดไม่คิด เขาก็บอกว่าแยนนี่เป็นผู้หญิงไร้หัวใจชอบหลอกเอาเงินผู้ชายเหมือนกัน พอพูดจบปุ๊บก็โดนเชนน์ต่อยหน้าไปเต็ม ๆ
เชนน์จะปกป้องคนที่ใกล้ชิดเขาอย่างสุดกำลัง
ถึงลูคัสจะเข้าข้างเขา แต่การพูดอะไรแย่ ๆ ใส่แยนนี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เชนน์จะยอมรับได้
ถ้ามีใครด่าแยนนี่ เขาก็จะถือว่าคนนั้นด่าเขาด้วย
เชนน์ขึ้นรถด้วยอารมณ์โกรธเคือง เขากระแทกประตูดังปังแล้วตะโกนบอกคนขับ “ขับไปสิ!” คารายังยืนขวางทางอยู่หน้ารถ
เธอเพิ่งจะถ่ายฉากของวันนี้เสร็จ ยังไม่ทันจะลบเครื่องสำอางบนหน้าออก เธอก็ก้มมองนาฬิกาข้อมือแล้วเห็นว่าตอนนี้ที่นอร์ท ซิตี้เวลาเลยเที่ยงคืนแล้ว
เลยวันเกิดของเชนน์แล้ว อวยพรตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว
แยนนี่ยังคงหาโทรศัพท์ของเธออยู่ที่ห้องแต่งตัวหลังกองถ่าย ตอนนั้นเองที่เคลลี่ในรองเท้าส้นสูงเดินเข้ามายื่นโทรศัพท์ของแยนนี่ให้ “หาเจ้านี่อยู่เหรอ?”
“ไปเจอที่ไหนน่ะเคลลี่?”
เคลลี่ยอมรับอย่างภาคภูมิใจ “ฉันกลัวว่าเธอจะยังงี่เง่าพอที่จะกลับนอร์ท ซิตี้ไปฉลองวันเกิดแฟนเธอ เมื่อเช้าฉันก็เลยหยิบโทรศัพท์เธอออกจากกระเป๋าแล้วเอาไปล็อกในตู้เซฟทั้งวัน ทีนี้พอเลยวันเกิดแฟนเธอแล้ว เธอจะได้มีสมาธิกับการแสดงเสียที”
แยนนี่รับโทรศัพท์เธอคืน ขมวดคิ้ว กัดปาก และถลึงตาใส่อีกฝ่าย “เคลลี่ พี่ข้ามเส้นไปแล้วนะ!”
เคลลี่ถึงกับอึ้ง เธอไม่คิดว่าแยนนี่จะโกรธจริงจังขนาดนี้ “นี่ ฉันทำเพื่อตัวเธอเองนะ! เธอไม่เข้าใจเหรอว่าฉันกำลังช่วยเธออยู่?”
แยนนี่กำโทรศัพท์ไว้ในมือและเดินออกจากกองไปโดยไม่แม้แต่จะลบเครื่องสำอางบนใบหน้า
ตอนเธอวิ่งออกจากกองถ่าย มันก็เป็นเวลากลางคืนแล้ว เลยวันเกิดเชนน์มา 10 ชั่วโมงแล้ว แยนนี่ที่ยังถือโทรศัพท์อยู่ก้าวขึ้นไปนั่งตรงบันได ตอนนั้นเองที่เธอรู้สึกพ่ายแพ้
อารมณ์ที่ทนมาตลอดสองเดือนกว่ากำลังระเบิดออกมาหมดในตอนนี้
หยาดน้ำตาไหลรินลงมาเรื่อย ๆ
เคลลี่วิ่งตามเธอมา พอเธอเห็นว่าแยนนี่นั่งอยู่ตรงบันไดเพียงคนเดียว เธอก็ถอนหายใจแล้วถามว่า “นี่เธอร้องไห้แค่เพราะฉันยึดโทรศัพท์เธอเนี่ยนะ?”
แยนนี่ไม่ใช่คนประเภทที่จะเศร้าง่าย ๆ แต่ ณ ช่วงเวลานี้ เธอไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้เลย แยนนี่เอาหน้าซบลงไปในอ้อมแขนของตัวเองแล้วสะอื้นออกมา เธอละล่ำละลักออกมา “ตอนนี้ฉันคุยกับพี่ไม่รู้เรื่องหรอก พี่ให้ฉันอยู่คนเดียวเถอะ”
เคลลี่มองแยนนี่ เธออดยิ้มออกมาไม่ได้ สาววัย 35 ก้าวฉับ ๆ ด้วยส้นสูงไปนั่งข้างคนตรงบันได เธอหยิบทิชชูออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้แยนนี่
แล้วเธอก็แซวว่า “เลิกร้องได้แล้ว พรุ่งนี้เธอยังมีถ่ายงานต่อนะ ถ้าตาบวมจะไปออกกล้องได้ยังไง? ทีมโพสต์โปรดักชันของฮอลลีวูดไม่ตัดต่อตาบวม ๆ แดง ๆ ของเธอหรอกนะ” แยนนี่อยากร้องไห้ แต่แค่สิทธิ์ในการร้องไห้ของเธอตอนนี้ยังถูกริบเอาไปเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน