เวอเรียนสูดกลิ่นอันอบอุ่นจากตัวของเขา ขณะที่เงยหน้าขึ้นมาจากอกของเขา "คุณพา เจลลี่ บีน มาอยู่ที่นี่สักสองสามวันได้ไหม?"
เขาเลิกคิ้วขึ้น และดูเหมือนจะไม่พอใจเมื่อเขาพูดด "สัปดาห์หน้าก็จะถึงเทศกาลปีใหม่แล้ว เราจะต้องกลับไปที่นั่นในคืนวันปีใหม่อยู่ดี ทำไมเราต้องพายัยตัวแสบมาที่นี่ด้วยล่ะ?"
การพา เจลลี่ บีน มาอยู่ด้วย อาจเป็นการขัดขวางการมีความสัมพันธ์ของพวกเขาในสองสามวันนี้ เขาคงไม่มีโอกาสแม้แต่จะนอนกอดเวอเรียนในตอนกลางคืน
เขาเป็นโรคนอนไม่หลับมานานแล้ว เมื่อใดที่เขากอดเวอเรียนตอนนอน อาการนอนไม่หลับของเขาจะทุเลาลง
แต่ถ้าพา เจลลี่ บีน มา เขาคงโกรธที่ไม่ได้นอนกับเวอเรียน
เวอเรียนมองเขาแล้วขำเมื่อเธอพูด "คุณพูดถึงลูกสาวของคุณแบบนั้นได้ยังไงกัน? เธอค่อนข้างเป็นเด็กดีนะ โอเคไหม? ฉันไม่ได้เจอเธอมาหลายวัน แล้วก็คิดถึงเธอมากด้วย"
โทรศัพท์ของฮีลตันดังขึ้นมา
ชายหนุ่มยักคิ้วเมื่อเขาเห็นชื่อคนที่โทรเข้ามา "ตายยากจริง ๆ "
เวอเรียนเขย่งเท้าแล้วถาม "เจลลี่ บีน เหรอ?'
เขารับสาย แล้วได้ยินเสียงของเด็กเด็กดังมาจากปลายสาย "ว่ายังไงคะ คุณพ่อ..."
"ทำไมลูกยังไม่นอน นี่มันดึกแล้วนะ!"
"ก็หนูคิดถึงคุณพ่อนี่คะ! แล้วมอนตี้อยู่ไหนคะ?"
ฮีลตันพูดล้อเธอ "ถ้าคิดถึงพ่อจริง ๆ ทำไมลูกถึงถามหามอนตี้ หลังจากที่คุยกับพ่อสั้น ๆ ล่ะ?"
เวอเรียนดุเขา เธอมองเขาแล้วยิ้ม "อย่าล้อลูกสิ"
"คุณพ่อคะ หนูได้ยินเสียงมอนตี้ด้วย!"
เขารีบส่งโทรศัพท์ให้เธอ
"คิดถึงแม่หรือเปล่า เจลลี่ บีน?"
"เย้! หนูคิดถึงคุณค่ะ มอนตี้ คุณคิดถึงหนูไหม?"
"คิดถึงสิจ๊ะ คิดถึงมาก ๆ เลย"
เมื่อเห็นว่าสองแม่ลูกกำลังเชื่อมความสัมพันธ์กันทางโทรศัพท์ เขาไม่อยากอยู่ฟังนาน จึงหันหลังแล้วไปจัดการกับอีเมลในห้องทำงาน
ประมาณครึ่งชั่วโมง เวอเรียนก็ถือโทรศัพท์เข้ามาในห้องทำงาน
เมื่อเข้าไปในห้องทำงาน เธอเห็นฮีลตัน สวมแว่นตากรอบเงิน กำลังทำงานในแล็ปท็อปของเขา
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเขาสวมแว่นตา เขาก็ดูดีเหมืนกัน
"ทำไมตอนนี้คุณถึงได้สวมแว่นตาล่ะ?"
เขาตอบ "ช่วงนี้มีงานเพิ่มขึ้น และสายตาของผมก็ไม่ค่อยดีแล้ว"
"จริงสิ โทรศัพท์ของคุณแบตใกล้จะหมดแล้ว ที่ชาร์จของคุณอยู่ไหนล่ะ?"
เขาชี้ไปที่แท่นชาร์จโทรศัพท์ เวอเรียนเดินไปและวางโทรศัพท์ไว้บนแท่นชาร์จ
"คุณคุยกับลูกนานขนาดนั้นเลยเหรอ?"
"ใช่ ลูกเข้านอนแล้ว ฉันเลยเล่านิทานก่อนนอนให้ลูกฟัง และฉันก็วางสายหลังจากลูกนอนแล้ว"
เมื่อเวอเรียนเดินเข้ามาหาเขา เธอถูกดึงเข้าไปในอ้อมกอดและนั่งลงบนตักเขา เขา จ้องเธอด้วยดวงตาสีดำ แล้วพูด "เมื่อไหร่คุณจะปลอบผมแบบนั้นบ้าง?"
เขาหยุดไปสองวินาที แล้วหันมาจ้องเธอก่อนจะตอบ "ถ้าท้องฟ้าถล่มลงมา คุณไม่ต้องกังวล ผมตัวสูงกว่าคุณ ผมจะแบกมันเอาไว้เพื่อคุณ"
เธอแตะดั้งจมูกเขา มันยังเหลือรอยแดงทิ้งไว้จากการใส่แว่นตา
เธอเอาแว่นตาจากบนโต๊ะมาใส่
"คุณนายฟัดด์ กำลังหลบความมีเสน่ห์ของคุณฟัดด์รึไง?"
"ก็แค่บังสายตา...คุณควรใส่แว่นกรอบสีดำนะ"
เขายิ้มออกมาผ่านทางสายตา
หลังจากเวอเรียนช่วยใส่แว่นตาให้เขาแล้วเธอลุกขึ้นแล้วลูบบนบ่าเขาเบา ๆ "ฉันไม่อยากรบกวนคุณตอนทำงานแล้ว ฉันจะไปนอนก่อนนะ ราตรีสวัสดิ์"
แต่เขาดึงเธอเข้ามาหา ขณะที่เขานั่งบนเก้าอี้แล้วพูด "รีอาน่า ผมเป็นคนเห็นแก่ตัว ผมไม่ได้มีความเสียสละเพื่อคนอื่น ผมไม่อยากให้เกิดเรื่องนั้นขึ้นเหมือนกัน ถ้าผมเสียสละตัวเองเพื่อคนอื่น คนรักของผมจะเป็นคนที่เจ็บปวด มันไม่คุ้มค่าเลย ไม่ว่าคนอื่นจะมองผมยังไงก็ไม่สำคัญ ถ้าเขาจะมองผมเป็นคนเย็นชา ผมไม่อยากให้คุณกับ เจลลี่ บีน ต้องเสียผมไป ผมไม่อยากให้คนสู้กันเพื่อช่วยโลก แม้จะไม่ได้ขอให้ทำ แต่ผมก็อยากให้คุณกับลูกมีมีชีวิตที่มั่นคง"
เธอยืนอยู่ตรงหน้าเขา ถอดแว่นตาเขาออก แล้วจูบริมฝีปากของเขา
"ฉันแค่อยากให้คุณเป็นฮีโร่ของฉัน ฉันไม่โง่พอที่จะให้คุณไปช่วยโลกหรอก?"
เธอไม่ชอบการเสียสละของฮีโร่ในหนัง มาร์เวล ทั้งหมดที่เธอชอบคือ ฮีลตันจะพาเธอไปยังที่ที่ปลอดภัย แม้ว่าตรงนั้นจะมีอันตราย
บางทีฮีลตันอาจมีความสามารถที่จะทำแบบนั้นได้ ถ้าเธอให้เขาไปรบจริง ๆ แต่ถึงแม้เขาจะช่วยโลกไว้ได้ แต่การสูญเสียเขาเพื่อช่วยให้โลกปลอดภัย มันก็ไร้ความหมายสำหรับเธอ
แต่ถ้าทั้งโลกหันหลังให้พวกเขาจริง ๆ เธอไม่กล้าที่จะให้เขาซ่อนตัวจากคนทั้งโลก
เธอก็รู้เรื่องนั้นดี รอดูผลที่จะตามมาก็แล้วกัน หากความลับของเธอถูกเปิดเผยให้คนทั้งโลกรู้
ฮีลตันมองเรื่องนั้นได้ดีอย่างไร้ที่ติ ถ้าเขาถูกดึงลงมาเพื่อเห็นแก่เธอแล้ว เธอคงจะรู้สึกเจ็บปวดมาก และคงไม่มีวันให้อภัยตัวเอง ที่ทำให้เขาต้องถูกดึงลงมาพร้อมกับเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน