เล่ห์รัก ท่านประธาน นิยาย บท 76

"ว้าว พี่สาวมาซื้อรถด้วยเหรอ? คุณพี่ชอบรถคันไหนล่ะ? ไหนพี่ลองระบุตัวตนและสถานภาพทางการเงินในปัจจุบันมาก่อนสิ จะได้รู้ว่าสามารถซื้อรถได้หรือไม่"

เธอจะสามารถซื้อรถที่มีตัวตนในฐานะ คุณนายฟัดด์ ได้อย่างไรกัน?

เวอเรียน โค้งมุมริมฝีปากของเธอและพูดอย่างเป็นธรรมชาติว่า "ถ้าฉันไม่สามารถซื้อรถได้ แต่ฉันจะมาดูรถไม่ได้เหรอ?"

วาเนลล์ ลูบผมนุ่มที่เพิ่งได้รับการบำรุงมาอย่างดีและหัวเราะเยาะ "ถ้าคุณไม่สามารถซื้อรถได้ก็อย่ามาดูเลยจะดีกว่ามันจะทำให้พี่สาวอยากได้รถมากขึ้นหลังจากเห็นรถยนต์"

ขณะที่พวกเขากำลังคุยกันมีผู้จัดการมา เมื่อเขาเห็นวาเนลล์ เขาพยักหน้าและโค้งคำนับให้เธออย่างสุภาพ “คุณชีน คุณมารับรถใช่ไหมครับ คุณต้องรอรถอีกสองวันครับนี่เป็นความผิดของเราจริง ๆ เราทำงานไม่ดี คุณเป็นคนที่มีเกียรติดังนั้นได้โปรด อย่าได้ถือสากับความผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ครั้งนี้กับทางเราเลยนะครับ เลออนรีบมาขอโทษ คุณชีน เร็วเขา"

พนักงานขายตัวน้อยอย่างเขาไม่สามารถทำให้ วาเนลล์ ขุ่นเคืองได้เขาจึงได้ก้มหัวขอโทษเธอ "คุณชีนครับ ผมต้องขอโทษด้วย ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วยครับ"

วาเนลล์ อารมณ์ดีมากขึ้น เธอแตะแหวนเพชรเม็ดใหญ่เท่าไข่นกพิราบที่นิ้ว "ก็ได้ ฉันจะรออีกสองวัน ฉันเองก็ไม่ได้รีบต้องใช้มันขนาดนั้น อย่างไงจนกว่ารถจะมาฉันก็ยังมีรถคันอื่นให้ขับอยู่ดี"

ผู้จัดการรีบตอบตกลง "ครับผม คนที่ร่ำรวยเช่น คุณชีน ที่บ้านต้องมีรถหรู ๆ หลายคันให้เลือกได้ว่าจะขับรถคันไหนออกไปตามอารมณ์อย่างแน่นอนครับ"

วาเนลล์ กลายเป็นคนบ้ายอในความขี้อวดของตัวเองอย่างยิ่งเมื่อเธอได้รับคำชม เธอเลิกคิ้วและมองไปที่ เวอเรียน อย่างดูถูก "ผู้จัดการแซค คุณอยากให้การต้อนรับคนระดับล่างที่ไม่สามารถซื้อรถที่นี้ได้อย่างเธอไหม? ลูกค้าประจำคน ๆ อื่นพวกเขาจะคิดว่าที่นี้คงอยู่ในระดับต่ำอย่างแน่นอน ฉันขอให้คำแนะนำเพื่อเป็นประโยชน์ พวกคุณอย่าได้ต้อนรับแก่ลูกค้าประเภทนี้อีกในครั้งต่อไป”

ผู้จัดการสำรวจ เวอเรียน ตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่เขาไม่ได้มองเธออย่างพิจารณาเป็นพิเศษ เขาเห็นว่าเธอไม่ได้มีสินค้าแบรนด์เนมบนตัวเธอเลยสักชิ้น แม้แต่กระเป๋าที่เธอถือมานั้นเป็นของยี่ห้อไหนก็ไม่สามารถระบุได้ อาจจะเป็นแค่ของราคาถูกที่เธอซื้อทางออนไลน์ด้วยเงินแค่ไม่กี่สิบดอลลาร์ เขาจึงพูดอย่างหัวเสีย “คุณครับถ้าคุณไม่ต้องการที่จะซื้อรถกรุณาเลี้ยวซ้ายและออกไปทางเรายังต้องให้บริการลูกค้าคนสำคัญของเราเท่านั้นครับ”

เวอเรียน ยิ้มเยาะ "ใครบอกว่าฉันไม่มีรถกันล่ะ?"

วาเนลล์ ออกการไม่เห็นด้วย "อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่า ประธานฟัดด์ ตกลงกันไว้กับเธอ ฉันไม่เชื่อว่าประธานฟัดด์ จะให้เงินกับผู้หญิงอย่างเธอใช้!"

"แล้วใครบอกกันล่ะว่าฉันจะต้องใช้เงินของผู้ชาย ฉันแตกต่างจากบางคนอยู่นะ ฉันหาเงินได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นฉันจึงไม่ต้องข้อร้องให้ใครช่วยหรือต้องปลอกหลอกเงินของคนอื่นเพื่อเอามาอวดอ้างเป็นของตัวเอง"

"... แก! แกว่าใครเป็นสิบแปดมงกุฎกันห๊ะ?"

“ฉันพูดแค่เป็นคนที่ปลอกลอกเงินของคนอื่น ฉันยังไม่ได้บอกว่าคุณชีน เป็นสิบแปดมงกุฎเลยนะคะ ทำไมคุณชีน ถึงต้องร้อนตัวขนาดนี้ด้วยล่ะคะ?

วาเนลล์ กำหมัดของเธอแน่น "ฮึ่ม ฉันคิดว่าเธอมันก็ดีแต่พูดมากกว่า! ถ้าแกบอกว่าจะซื้อจักรยานที่อยู่ตรงข้ามโน้นยังจะน่าเชื่อกว่าเลย รถที่นี่ราคาต่ำสุดอยู่ที่สามแสนดอลลาร์ เวอเรียน มอนท์ เธอคิดว่าคนอย่างฉันจะไม่รู้เหรอว่าจริง ๆ แล้วเธอมีเงินเท่าไหร่?"

เวอเรียน เม้มริมฝีปากของเธอและชี้ไปที่ ออดี้ สีขาวซึ่งมีราคาประมาณแปดแสนดอลลาร์ "ผู้จัดการฉันต้องการรถคันนั้น"

ทั้ง วาเนลล์ และผู้จัดการต่างตะลึงหลังจากเธอพูดจบ

ผู้จัดการเตือนว่า "คุณผู้หญิงครับ รถคันนั้นราคาแปดแสนดอลลาร์เลยนะครับ แน่ใจหรือว่าต้องการคันนั้นจริง ๆ"

วาเนลล์ ยังคงไม่เชื่อว่าจะเธอมีเงินแปดแสนเหรียญจริง ๆ "เวอเรียน มอนท์ ถ้าเธอแน่จริงก็ควรจ่ายเป็นเงินสดทั้งหมดในตอนนี้เลยนะ!"

"แน่นอนฉันจะจ่ายเงินสดทั้งหมดเลย!"

กวิน ได้ฝากเงินแปดแสนดอลลาร์ในบัญชีของเธอไว้ กวิน เป็นคนมือเติบใช้เงินเกินตัวมากไปจนครอบครัวของเธอจำกัดวงเงินของเธอ เพื่อที่จะไม่ใช้จ่ายเงินอย่างฟุ่มเฟือย เธอจึงได้แอบเก็บเงินแปดแสนดอลลาร์ไว้ที่บัญชีธนาคารของเธอ เงินนี้ยังอยู่กับเธอมาจนถึงตอนนี้

ไม่ว่ายังไงวันนี้เธอก็ต้องไปซื้อรถคันนี้ให้ได้ เธอไม่ยอมเสียหน้าต่อหน้า วาเนลล์ เป็นอันขาด แล้วเธอค่อยขายรถในภายหลังเพื่อคืนเงินให้กับกวิน

เวอเรียน หยิบบัตรเครดิตของเธอออกจากกระเป๋าสตางค์และโบกให้ วาเนลล์ ดูเธอพูดกับผู้จัดการว่า "รูดบัตรใบนี้ได้เลยฉันจะเอาไปรถเดี๋ยวนี้เลย"

ผู้จัดการตัวสั่นด้วยความกลัวทันที ก่อนหน้านี้เขาได้ทำตัวเสียมารยาทกับเธอไว้มาก เขาคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงที่แต่งตัวธรรมดาคนนี้จะซื้อรถและจ่ายด้วยเงินสดสำหรับรถที่มีราคาตั้งแปดแสนดอลลาร์ เขาเช็ดเหงื่อเย็นที่หน้าผาก "คุณผู้หญิงครับ ผมต้องขอโทษที่เมื่อกี้ผม... "

"เดี๋ยวก่อนสิ ผู้จัดการแซค ที่ร้านนี้มีสิทธิพิเศษในการลำดับความสำคัญสำหรับลูกค้าที่เป็นสมาชิกก่อนใช่ไหม?"

“เอ่อ... อือ”

ยานิถึงได้พูดล้อเล่นราวกับว่าสนิทกันมานาน

“ก็คุณมอนท์ เล่นสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายใหญ่โตในงานแต่งงานของเธอเมื่อไม่นานนี้เอง มันเป็นเรื่องยากที่ลืมผู้หญิงที่โดดเด่นเช่นเธอได้น่ะ” ไม่รู้ว่า ยานิ กำลังล้อเลียนการแสดงของเธอหรือวิพากษ์วิจารณ์งานแต่งงานของวาเนลล์ กันแน่

เวอเรียน ไม่รู้ถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงและเบื้องลึกเบื้องหลังของ ยานิ ในตอนนี้ถึงเอ่ยขอตัว “คุณเควน และ คุณชีน ฉันมีธุระต้องไปทำต่อดังนั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ”

"พี่ยานิ เธอจะแย่งชื้อรถกับฉัน ฉันชอบรถออดี้สีขาวนั่นมากจริง ๆ นะคะ!"

ยานิ เหลือบมองรถออดี้สีขาว แต่เขาไม่ได้สนใจ วาเนลล์ เขาหันกลับมาถาม เวอเรียน แทน “คุณมอนท์ ชอบรถคันนั้นเหรอครับ?”

"ฉันก็ชอบอยู่นะคะ แต่ไม่อยากได้มันแล้ว"

ขณะที่เวอเรียน กำลังจะก้าวออกจากโชว์รูมรถ ยานิ ก็ยื่นบัตรแพลตตินัมให้กับผู้จัดการโชว์รูมรถและพูดเบา ๆ "ฉันจะซื้อรถออดี้สีขาวคันนี้"

ผู้จัดการแซค ผงะไปทันที เขาควรขายรถให้ใครกันดีล่ะ?

วาเนลล์ มองอย่างเขินอาย “พี่ยานิ พี่จะซื้อรถคันนี้ให้ฉันใช่ไหมคะ?”

ยานิ หรี่ตาลงและพูดว่า “คุณมอนท์ครับ ผมซื้อรถคันนี้ให้เป็นของขวัญสำหรับคุณครับ”

ดวงตาของ วาเนลล์ เบิกกว้างอย่างตกใจ อะไรนะ? ยานิซื้อรถให้ เวอเรียน เป็นของขวัญเหรอ?!

ทางด้าน เวอเรียน เองงุนงงยิ่งกว่า เธอยิ้มอย่างสุภาพให้เขา “คุณเควน ฉันคิดว่าคุณควรซื้อรถคันนี้เป็นของขวัญให้คุณชีน เถอะค่ะ ฉันรู้สึกอายนะคะ ที่จะได้ชื่อว่าชอบแย่งของของคนอื่น”

ยานิ เองก็เพิกเฉยต่อความคิดเห็นของ เวอเรียน อยู่ดีเขารูดบัตรซื้อรถในทันทีและเข้าไปในรถ หลังจากขับรถออกจากโชว์รูมแล้วเขาก็เปิดกระจกรถและบีบแตรดักทางของ เวอเรียน ไว้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน