เชอรีชเปลี่ยนชุดเสร็จ พอดีกับที่ไทเลอร์ถือเปียโนอิเล็กทรอนิกขึ้นมาข้างบน
เวอเรียนเกือบชนกับไทเลอร์ ตอนที่เธอเดินออกมาจากห้อง
ทันทีที่ไทเลอร์เห็นแม่ของเชอรีช เขาก็รีบทักทายอย่างสุภาพ "สวัสดีครับ ป้าเวอเรียน!"
เวอเรียนพึงพอใจไทเลอร์ เธอรู้ว่าเขามาหาเจลลี่ บีน
"เจลลี่ บีนอยู่ในห้องจ้ะ"
"ขอบคุณครับ ป้าเวอเรียน"
ไทเลอร์เข้าไปในห้องพร้อมกับเปียโนอิเล็กทรอนิก "ช่วยฉันหน่อย เจลลี่ บีน เปียโนอิเล็กทรอนิกสั่งทำเครื่องนี้หนักชะมัด"
เชอรีชรีบเข้ามาช่วยติดตั้งเปียโน
ไทเลอร์หัวเราะ "ลองเล่นสิ"
เชอรีชนั่งลงและลองเสียงเปียโน มันก็เสียงดีเหมือนกัน
ไทเลอร์ถามเธอ "เป็นไงบ้าง? ไม่เลวใช่ไหมล่ะ?"
เชอรีชเริ่มเล่นเพลงวันเกิด มันเสียงดีอย่างเหลือเชื่อ เปียโนตัวนี้สูสีกับเปียโนที่มีราคาแพง เธอตอบเขา "ไม่เลวนี่ เธอไปได้เปียโนตัวนี้มาจากไหน?"
"แน่นอนสิ ดูก่อนว่าฉันเป็นใคร ฉันคือเจ้าชายน้อยแห่งเมืองหลวงเชียวนะ?"
เชอรีชมองเขาด้วยสายตาเยาะเย้ย ก่อนจะสูดกลิ่นเปียโนแล้วบอกเขา "ว้าว มันมีกลิ่นความรวยของเธอจริง ๆ ด้วย"
"ไร้สาระน่า ฟังนะ ถึงฉันจะรู้จักคนหลายคนและมีเงินในเมืองหลวง เปียโนสั่งทำตัวนี้ก็มาจากเงินที่ฉันทำงานที่บาร์ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าฉันโดดเรียนไปทำงานอีก ถ้าพ่อฉันรู้เรื่องนี้ พ่อต้องหักขาฉันแน่"
ไทเลอร์มองใบหน้าที่สวยและน่ารักของหญิงสาวที่อยู่ข้างเขา เขาพูดโอ้อวดก่อนจะยื่นใบหน้าอันหล่อเหลาเข้าไปใกล้เธอ แล้วแหย่เธอ "เจลลี่ บีน ดูสิว่าฉันพยายามแค่ไหน ที่ทำของขวัญชิ้นนี้มาให้เธอ เธอจะหอมแก้มฉันหน่อยไหม?"
ไทเลอร์แกล้งแตะแก้มข้างขวาของเขา ก่อนจะเข้าไปใกล้เธอ
แต่เชอรีชก็ผลักหป้าเขาออกทันที ก่อนจะบอกเขา "ขอเถอะ อย่ามาน้ำเน่าเลย นายจีบฉันมากี่ครั้งแล้วไทเลอร์ อย่างน้อยก็มีคนครึ่งโลกที่รอหอมแก้มนายอยู่ ทำไมต้องมาขอให้ฉันหอมแก้มด้วยล่ะ?"
"โธ่ เจลลี่ บีน เธอนี่ใจร้ายชะมัด"
หลังจากเชอรีชลองเปียโนเสร็จ เธอก็ลุกขึ้นแล้วบอกเขา "ลงไปกินเค้กข้างล่างกันเถอะ"
ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังเดินลงมาข้างล่าง ไทเลอร์กอดไหล่เชอรีช เขามองริมฝีปากแดงฉ่ำของหญิงสาว แล้วจึงเห็นว่ามีอะไรแปลกใหม่
"โว้ว วันนี้เธอทาลิปสติกด้วยเหรอ? ไม่เลวนี่เชอรีช เดี๋ยวนี้รู้จักแต่งหป้าด้วย"
เชอรีชหัวเราะเยาะ ก่อนจะเหวี่ยงแขนเขาออกจากไหล่เธอ "อย่าแตะตัวฉันมากนักสิ นายก็รู้ ถ้าพ่อฉันมาเห็นเข้า พ่อต้องซ้อมนายจนเละแน่"
"เป็นอะไรไปล่ะ? เธอไม่ให้ฉันจูบหรือกอดเลย ยิ่งโตก็ยิ่งไม่มีเหตุผลเลยนะ! นี่ฉันยังเป็นเพื่อนซี้เธอหรือเปล่าเนี่ย?"
ไทเลอร์ดึงผมที่ยาวของเธอ เชอรีชหันมาดุเขา "ให้ตายสิ ไทเลอร์! นายอายุเท่าไหร่กันแล้ว? ทำไมยังดึงผมเด็กผู้หญิงอยู่อีก?"
"ฉันแค่ชอบแกล้งเธอน่ะ ไม่แกล้งก็ได้ ว่าแต่ถ้าฉันได้เข้ามหาวิทยาลัยนอร์ท ซิตี้ เมื่อไหร่ ฉันคงไม่ได้นั่งเครื่องมาเยี่ยมเธออีกแล้ว เธอรู้ไหม เรามาตั้งวงดนตรีกันตอนที่เราเข้ามหาวิทยาลัย นอร์ท ซิตี้กันเถอะ เธอจะเล่นเปียโนและฉันจะเล่นกีต้าร์..."
ก่อนที่ไทเลอร์จะพูดจบ เชอรีชตกใจแล้วถามเขา "นายพูดว่าไงนะ? นายสมัครเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยนอร์ท ซิตี้ เหรอ?"
"ใช่ ทำไมล่ะ? ฉันไปเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกับเธอไม่ได้หรือไง?"
เชอรีชงงกับคำพูดของเขาไปหมดแล้ว เธอบอกเขา "ก็...ฉันสมัครเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยแคพิทัล ซิตี้ แล้วน่ะสิ"
"เธอพูดว่าไงนะ?"
ไทเลอร์พูดไม่ออกในขณะที่มองเธอ หลังจากที่สงบลง เขาก็รู้สึกหงุดหงิดมาก "เธอบอกฉันเองไม่ใช่เหรอว่าลุงฮีลตันกับป้าเวอเรียนไม่กล้าให้เธอไปอยู่ไกลจากพวกเขา? เชอรีช เธอจงใจทำแบบนี้ใช่ไหม? ฉันมาสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยนอร์ท ซิตี้ แต่เธอกลับไปสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยแคพิทัล ซิตี้ ที่อยู่ไกลจากนอร์ท ซิตี้!"
"มันเป็นเรื่องบังเอิญ นายรู้ไหม ฉันคิดว่าลุงคาร์เตอร์จะให้นายเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยแคพิทัล ซิตี้ ซะอีก ฉันไม่ได้ตั้งใจทำแบบนี้เลยนะ"
แม้ว่าพวกเขาสองคนจะไม่ได้เรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน ไทเลอร์ก็ดีใจที่เห็นว่าเธอมีความจริงใจแค่ไหน
"นายเคยคิดบ้างไหมว่า ถ้าเราประสบความสำเร็จในอาชีพของเรา เราจะรวยเหมือนพวกเขาหรือเปล่า?"
บอยล์กำลังยุ่งอยู่กับการทำงาน เขาก้มหป้าลงแล้วตอบโดยไม่เงยหป้าขึ้นมามอง "ไม่เลย"
เฮกเตอร์ถามเขา "นายไม่เคยคิดหรือไม่กล้าพอที่จะคิดล่ะ? ฟังนะ นายเป็นนักเรียนที่เรียนดีที่สุดในมหาวิทยาลัยแคพิทัล ซิตี้ แม้แต่อาจารย์ยังนับถือนายเลย ฉันจะบอกให้นะ อนาคตของนายนั้นสดใสและก้าวหน้ามาก อย่าลืมฉันก็แล้วกันถ้านายกลายเป็นคนรวย!"
บอยล์หัวเราะแล้วส่งขวดไวน์แดงให้เขา "ตั้งใจทำงานไปเถอะ เราชดใช้ค่าเสียหายไม่ไหวหรอก ถ้านายทำไวน์หกใส่เสื้อแขกในงาน"
เฮกเตอร์ขยับเข้าไปกระซิบกับเขา "นายรู้หรือเปล่า ฉันได้ยินมาว่าลูกสาวของตระกูลฟัดด์ เพิ่งเรียนจบมาปลาย เธอมาสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยแคพิทัล ซิตี้ ของเราด้วยนะ"
เมื่อบอยล์เงยหน้าขึ้นมา เขาเห็นหญิงสาวที่อยู่ใกล้ ๆ ถูกรายล้อมไปด้วยผู้คน รอยยิ้มหวานของเธอเปล่งประกายภายใต้แสงไฟ มันดูไร้เดียงสาและบริสุทธิ์มาก
เฮกเตอร์ก็มองเหมือนกัน เขาเงยหน้าขึ้นและเท้าคางมองเธอ "ลูกสาวตระกูลฟัดด์นี่น่ารักและไร้เดียงสามากนะ ถ้าเธอโตขึ้นต้องสวยมากแน่เลย"
เฮกเตอร์ถามเพื่อนเขาเล่น ๆ "บอยล์ นายสนใจสาวน้อยคนนั้นหรือเปล่า?"
บอยล์มองชายหนุ่มที่มีเสน่ห์น่าดึงดูดที่ยืนอยู่ข้างเธอภายใต้แสงไฟ พวกเขาเล่นด้วยกัน ชายหนุ่มป้ายครีมลงบนใบหป้าที่ขาวเนียนของเธอ
หญิงสาวรำคาญ เธอหยิบเค้กขึ้นมาปาใส่ชายหนุ่มทันที
หลังจากที่เล่นด้วยกันสักพัก เมื่อหญิงสาวถูกเบี่ยงเบนความสนใจ ชายหนุ่มก็รีบหอมแก้มเธอ
หญิงสาวทำตาโต เธอมองชายหนุ่มก่อนจะหยิกแขนของเขา
พวกเขาช่างเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบ
เฮกเตอร์ก็เห็นภาพนั้นชัดเจนเหมือนกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงค่อนข้างผิดหวัง "ดูเหมือนว่าเราไม่มีโอกาสได้จีบลูกสาวตระกูลฟัดด์แล้วล่ะ มีแค่คนที่เป็นเจ้าชายเท่านั้นที่คู่ควรกับเจ้าหญิง อัศวินอย่างเราไม่คู่ควรกับเธอ"
บอยล์มองไปทางอื่น แววตาของเขาดูสงบและไร้ความรู้สึก
โลกของพวกเขานั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน