"ท่านประธานฟัดด์ กรุณาดูตัวเองด้วย!"
ฮีลตันจ้องมองใบหน้าที่แดงก่ำที่แต่งเติมด้วยความโกรธอย่างไม่แยแส เขาก้มศีรษะลงไปข้าง ๆ หูของเธอจากนั้น เขาก็เริ่มพูดอย่างไม่เร่งรีบ “คุณมอนท์ คุณบอกว่าผมเป็นนักธุรกิจ นักธุรกิจต้องแสวงหาแต่ผลกำไร เราจะไม่ทำการซื้อขายที่ขาดทุน คุณมีอะไรที่คุ้มค่าพอที่จะแลกกับบ้านพัก?”
น้ำเสียงทุ้มของเขาเยือกเย็นและบางเบา ดวงตาสีเข้มที่ยากจะหยั่งถึงของเขา จ้องมองตรงไปที่ใบหน้าด้านข้างของเธอ เขาพูดคำนั้นช้าๆ แต่ทุกคำก็ส่งผลกระทบตรงส่วนที่เปราะบางที่สุดในหัวใจของเธอ
เธอไม่มีเงินเลย ครอบครัวมอนท์แตกเป็นเสี่ยง ๆ เมื่อสามปีก่อน
เมื่อพูดถึงร่างกายของเธอ เมื่อวานนี้ ฮีลตัน ไม่แม้แต่จะละสายตามาแลมองเธอด้วยซ้ำ เขาทำให้เธอต้องอับอายในที่สาธารณะ เธอไม่เข้าใจว่าผู้ชายคนนี้ต้องการอะไรจากเธอ
ฮีลตันมองดูใบหน้าที่บอบบางและอ่อนโยนของเธอ “คุณดูมีประสบการณ์มาก จากที่คุณยั่วยวนผมเมื่อคืนนี้?”
เขาย่อตัวลง ริมฝีปากบางของเขาก็เข้าใกล้เธอมากขึ้น เสียงทุ้มนุ้มของเขาถูกแต่งเติมด้วยการเยาะเย้ย “หรือว่าคุณมอนท์ต้องการที่จะเล่นตัว”
ฮีลตัน ยกข้อมือขึ้นอย่างไร้อารมณ์ เขาดึงปอยผมที่ห้อยมัดไว้หลวม ๆ ของเธอออกและและจับมันไว้ในฝ่ามือของเขาอย่างแน่นหนา
วินาทีต่อมา ผู้ชายคนนี้ผลักเธอไปทางตู้ปลา หลังของเธอกระแทกเข้ากับกระจก รอยย่นบนใบหน้าเธอแสดงถึงความเจ็บปวด เธอไม่ได้มีโอกาสที่จะต่อต้านเขา
“คุณมอนท์ ผมว่าผมค่อนข้างสนใจคุณ”
น้ำเสียงที่ไม่ชัดเจนของเขาทำให้เวอเรียนขุ่นเคือง เธอเงยหน้าขึ้นมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา ความกังวลใจถาโถมเข้าใส่เธออย่างแรง เมื่อริมฝีปากบางของเขากำลังจะสัมผัสเธอ เธอตัวสั่นและผลักเขาออกไป เธอหันหลังแล้ววิ่งออกไปจากห้องทำงานของเขาทันที
ฮีลตัน จ้องมองร่างบางที่กำลังวิ่งหนีหายไป ริมฝีปากบางของเขาคลี่ยิ้มจางๆ เขาเหล่ตาเล็กน้อยและเหลือบไปเห็นเส้นผมสีดำบนฝ่ามือของเขา
…
เวอเรียนเดินออกจากห้องทำงาน อารมณ์ของเธอพลุ่งพล่าน ทันใดนั้นเธอชนเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่ง
ตึง
แฟ้มในมือของหญิงสาวกระจัดกระจายอยู่บนพื้น เธอรีบก้มลงช่วยหล่อนหยิบแฟ้มขึ้นทันที “ฉันขอโทษค่ะ”
เวอเรียนยื่นแฟ้มให้กับหญิงสาว ร่องรอยความตกใจฉายไปทั่วดวงตาของแนนซี่ แซนเดอร์เมื่อดวงตาของเธอสบกับเวอเรียน
“ฉันขอโทษที่ชนคุณ”
แนนซี่ยิ้มอย่างสุภาพและหยิบแฟ้มขึ้นมา "ไม่เป็นไรค่ะ"
เวอเรียนจากไป แนนซี่ขมวดคิ้วหลังจากที่เข้าไปในลิฟต์
"ดวงตาของผู้หญิงคนนั้นดูคล้ายกับเด็กน้อยเจลลี่ บีนมาก”
เธอจ้องมองไปที่ห้องสัมภาษณ์ที่มีเสียงดังเกิดขึ้น ความไม่สบายใจของเธอก็เพิ่มมากขึ้น ฮีลตันกำลังตามหาแม่ผู้ให้กำเนิดเด็กน้อยเจลลี่ บีนใช่หรือไม่?
เธอถือแฟ้มเอกสารแล้วเดินไปที่ห้องทำงานของประธานฟัดด์ ด้วยรองเท้าส้นสูงของเธอ ขณะที่เธอกำลังจะเคาะประตูห้อง เธอได้ยินเสียงคนคุยกันภายในห้อง
“นี่คือเส้นผมของเวอเรียน มอนท์และเจลลี่ บีนส่งไปตรวจดีเอ็นเอทันที”
แท้จริงแล้วฮีลตัน กำลังมองหาแม่ผู้ให้กำเนิดเจลลี่ บีนนี่เอง
ข้อนิ้วของเธอเปลี่ยนเป็นสีขาวในขณะที่เธอกำแฟ้มในมือแน่น
ประตูห้องทำงานถูกเปิดออกและคุช กำลังเดินออกจากห้องทำงาน เขาเห็นแนนซี่ที่กำลังยืนรออยู่หน้าห้องทำงาน ถึงแม้ว่าเขาจะตะลึงเล็กน้อย แต่เขาก็ยังเอ่ยทักทายเธอว่า “กรรมการแซนเดอร์ คุณกำลังมองหาท่านประธานอยู่หรือเปล่าครับ?”
อ๋อใช่ค่ะ นี่คือโปสเตอร์อันสุดท้ายของ ‘Only in then Dream Could I Feel Freedom’ มันหมดแล้ว ฉันมาที่นี่เพื่อเอาโปสเตอร์ให้เขาดู
คุช พยักหน้าเบา ๆ และพูดว่า “ท่านประธานอยู่ในห้องทำงาน คุณกรรมการแซนเดอร์ ผมคงต้องขอตัวก่อนเพราะยังมีเรื่องอื่นที่ต้องจัดการ
แนนซี่มองไปที่ซองจดหมายสีขาวในมือของคุช ความอยากรู้อยากเห็นเต็มไปด้วยดวงตาของเธอ “ผู้ช่วยคุช นี่อะไรเหรอคะ?”
เวอเรียน กำลังเรียกรถแท็กซี่ ขณะที่เธอพูดอย่างหดหู่ “อย่าแม้แต่จะพูดถึงมัน ฉันไม่น่าที่จะได้ร่วมงานกับฟัดด์ กรุ๊ป ฉันสมัครงานพาร์ทไทม์ทางอินเตอร์เน็ตไว้เมื่อวานนี้ และตอนนี้กำลังจะไปที่นั่นดู”
“งั้นเหรอ งั้นขอให้เธอโชคดีเรนนี่ ฟัดด์ กรุ๊ป จะต้องจ้างเธอฉันเชื่อในความสามารถของเธอ!”
เวอเรียน ขึ้นรถแท็กซี่ทันทีหลังจากที่วางสาย “คุณคะ ไปที่โรงเรียนอนุบาลภาษาต่างประเทศค่”
…
เวอเรียน เธอเดินเข้ามาในสำนักงานทันที เมื่อเธอมาถึงโรงเรียนอนุบาลภาษาต่างประเทศ
สวัสดีค่ะ ฉันมาที่นี่เพื่อสัมภาษณ์งานค่ะ ฉันติดต่อเอาไว้ทางโทรศัพท์เมื่อวานนี้ค่ะ”
“อ้อ คุณมาสมัครงานครูสอนศิลปะใช่ไหม?”
“ใช่ค่ะ”
หลังจากดูแฟ้มประวัติย่อของเธอแล้วอาจารย์ใหญ่ก็ยิ้มและพูดว่า “คุณมอนท์ วุฒิการศึกษาของคุณและ มหาวิทยาลัยที่คุณจบมานั้นยอดเยี่ยมทั้งคู่ ยังไงก็ตามดูเหมือนว่าคุณจะไม่คุ้นเคยกับการดูแลเด็ก ๆ เมื่อเร็ว ๆ นี้ เรามีนักเรียนที่ย้ายมาใหม่ในชั้นเรียนของเรา เธอมักจะมีปัญหาขัดแย้งกับนักเรียนคนอื่น ๆ คุณคิดว่าจะลองแก้ปัญหานี้ดูไหม”
เวอเรียนเข้าใจทันทีว่าเป็นการทดสอบจากอาจารย์ใหญ่ เธอยิ้มและพูดว่า “ไม่มีปัญหาค่ะ”
อาจารย์ใหญ่พา เวอเรียนไปที่สนามเด็กเล่นที่เด็ก ๆ กำลังเรียนอยู่ หล่อนชี้ไปที่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ไม่ไกลแล้วพูดว่า “เด็กผู้หญิงคนนั้นเพิ่งย้ายมาจากโรงเรียนอนุบาลของรัฐบาล เธอชื่อเจลลี่ บีน เธอมีมนุษยสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีกับเพื่อนร่วมชั้น เธอยังทะเลาะกับเด็กคนอื่น ๆ ในชั้นเรียนของเธอเมื่อวานนี้ เด็กคนนี้มาจากครอบครัวที่ร่ำรวยมีฐานะ พ่อแม่ตามใจไม่กล้าต่อว่า แม้ว่าเธอจะทำผิด รังแกเด็กคนอื่นๆ ก็ตาม อย่างไรก็ตามเป็นความรับผิดชอบของเรา ในฐานะที่เธอเป็นนักเรียน เราจะต้องแนะนำเธอไปในทางที่ถูกต้อง
เวอเรียน เดินเข้าไปหาเจลลี่ บีน และหยุดอยู่ตรงหน้าของเจลลี่ บีนเม้มริมฝีปากสีชมพูของเธอ และจ้องมองเธอด้วยแววตาที่ลุกวาว “คุณเป็นใคร?”
“แล้วหนูล่ะเป็นใคร?” ทำไมถึงมานั่งอยู่ที่นี่คนเดียว ไม่ไปเล่นกับเพื่อนๆของหนูเหรอ?”
เจลลี่ บีน เม้มริมฝีปากเล็ก ๆ ของเธอ “หนูไม่จำเป็นต้องบอกคุณ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน