เล่ห์รักเมียตัวน้อย นิยาย บท 134

ตอนที่ 133 ภรรยาของเขา

"คุณชยรพทานมื้อเย็นรึยังคะ" น้าอามรินน้ำชาใส่แก้วอย่างกระตือรือร้นแล้วนำมาเสิร์ฟให้กับชยรพ

ชยรพรับแก้วชามา ยิ้มพลางพูดว่า "ทานมาเรียบร้อยแล้วครับ"

"ฮะๆ ค่ะ ตอนนี้สุขภาพร่างกายของคุณจารวีฟื้นตัวดีขึ้นเยอะแล้วค่ะ อีกสองสามวันก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วค่ะ ตอนนี้คุณจารวีเบื่อๆอยู่พอดี คุณชยรพมาอยู่คุยเป็นเพื่อนด้วย ดีมากเลยค่ะ”

น้าอามยิ้มพลางพูดกับชยรพ เธอหันหน้าไปหาจารวีแล้วขยิบตาให้สองสามทีเพื่อบอกเป็นนัยว่าให้จารวีคุยกับชยรพสักสองสามประโยค

บนใบหน้าของจารวีไร้ความรู้สึก เป็นเวลานานจึงจะผงกหัวให้น้าอาม น้าอามยิ้มให้ชยรพพลางพูดว่า "คุณชยรพคะ เชิญนั่งก่อนค่ะ ฉันออกไปซื้อของก่อนนะคะ"

"อื้ม เธอไปทำธุระเถอะ" ชยรพรู้ว่าลูกสาวตนอยู่ในบ้านของคนอื่น แม้ว่าจะมีตำแหน่งสูงส่ง แต่ว่ารู้สึกโชคดีและขอบคุณที่ในบ้านคอยมีคนดูแลอยู่ตลอด ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างเกรงใจน้าอาม

หลังจากมองแผ่นหลังของน้าอามที่ค่อยๆเดินลับตาไป สองพ่อลูกก็นั่งจ้องตากัน

"วี พ่อซื้อชุดสำหรับเด็กมาด้วย แล้วก็ยังมีของเล่นเยอะแยะมากมายเลย…."

"ไม่เอาค่ะ..." จารวีพูดขึ้นมาเพื่อขัดจังหวะชยรพอย่างเย็นชา บนใบหน้าของชยรพมีรอยยิ้ม….

"ยังไงในอนาคตก็ต้องได้ใช้..." ชยรพพูดออกมาอย่างมั่นใจ

“ไม่เอาค่ะ…” จารวีพูดกระแทกเสียงหนักขึ้น จากนั้นก็มองไปที่ชยรพอย่างเสียดสีและถากถาง

"พ่อคิดว่าลูกของบ้านโพธิสูงจะขาดเสื้อผ้าใส่ไม่มีอาหารกินเหรอคะ"

บ้านโพธิสูงเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองเอส ลูกหลานตระกูลนี้จะมีของกินของใช้ที่ขาดเหลือหรือยังไง คำพูดของจารวีไม่ผิดเลยสักนิด

ชยรพรู้สึกอึดอัดทำตัวไม่ถูกเป็นอย่างมาก บรรยากาศในห้องคนไข้กลับไปสู่ความเงียบอย่างรวดเร็ว

"วี พ่อรู้นะ ถึงฉันจะไม่ใช่พ่อของเธอตามสายเลือด แต่ว่าหลังจากที่เธอเกิดมา ฉันก็เลี้ยงดูเธอเหมือนลูกสาวแท้ๆของตัวเอง ฉันดีกับเธอและแม่ของเธอนะ….”

ความทรงจำในวัยเด็กดูเหมือนจะไม่อยู่ไกลนัก จากที่จำความได้ พ่อก็ยังเป็นพ่อที่ไม่เลว

ทุกครั้งที่เขากลับมาจากการเดินทางเพื่อทำธุรกิจ เขาจะนำของขวัญติดมือมาให้จารวีทุกครั้ง บางครั้งก็เป็นรถไฟขบวนเล็ก ๆ บางครั้งก็เป็นลูกกระต่ายที่น่ารัก ที่จำได้ชัดเจนที่สุดคือหนังสือนิทานของ เจิ้งยวนเจี๋ยว หนังสือเล่มนี้มีแต่เพื่อนร่วมชั้นเท่านั้นที่มีและไม่มีอยู่ในร้านหนังสือของเมืองเอส แต่จารวีพูดกับพ่อของเธอทางโทรศัพท์แค่คำเดียว ก็นึกไม่ถึงเลยว่าพ่อจะบินไปปักกิ่งเพื่อซื้อหนังสือเล่มนั้นมาให้เธอ

นั่นเป็นความประทับใจที่ลึกซึ้งที่สุด

ตอนยังเด็ก พ่อก็มักจะกอดเธอไว้บนเข่า “วีเป็นเจ้าหญิงที่สวยที่สุดในบ้านของเรา….”

ในตอนนั้น เธอมักสวมชุดเจ้าหญิงพร้อมผ้าโปร่งนุ่มๆ วิ่งไปรอบ ๆ ห้องนั่งเล่น พ่อยังสอนให้เธอเล่นเปียโนและวาดรูประบายสี...

จารวีจำได้ พ่อเคยสอนให้เธอเขียนคำว่ารักเป็นคำแรก

ให้เธอรักพ่อ รักแม่ รักคนรอบคนรอบข้าง

ความทรงจำค่อยๆปรากฏออกมาพร้อมน้ำตาที่หยดลงมาจากดวงตาเหมือนเม็ดคริสตัล ที่แท้ความทรงจำเกี่ยวกับพ่อก็ไม่ได้แปลกหน้าแปลกตาขนาดนั้น

"ได้ งั้นพ่อบอกวีได้มั้ย ว่าแม่ตายยังไง ทำไมพ่อถึงปิดบังวีมาตลอดหลายปี"

เห็นได้ชัดว่าชยรพไม่สามารถตอบคำถามของจารวีได้ทันที ใบหน้าของเขาเป็นสีเทาไปในชั่วขณะ

“วี เรื่องนี้น่ะ วีไม่ต้องถามแล้ว แม่ของวีไม่อยากให้วีรู้เรื่องนี้หรอก ให้เรื่องทั้งหมดมันเป็นอดีตไปซะเถอะ ตอนนี้วีสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขก็ดีแล้ว วิญญาณของแม่ในสวรรค์จะต้องปกป้องคุ้มครองวีนะ”

จารวียังคงดื้อรั้นต้องการที่จะรู้คำตอบให้ได้ “การตายของแม่เกี่ยวข้องกับคุณ คุณถึงได้ปิดบังมาตลอดหลายปีนี้ คุณกำลังหลอกตัวเองหรือหลีกเลี่ยงความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของตัวคุณเองอยู่ใช่มั้ย ... "

“วี ไม่ต้องพูดแล้ว…” ใบหน้าของชยรพดูแทบไม่ได้แล้ว อดีตนั้นหนักเหลือเกินจนเขาแทบจะหายใจไม่ออก

“ถ้าคุณไม่บอกความจริงกับฉัน ฉันจะไม่ให้อภัยคุณไปตลอดชีวิต”

แม่ก็ตายแล้ว พี่สาวก็ตายแล้ว ลุงก็ตายแล้ว พ่อเป็นคนสุดท้ายที่รู้เรื่อง ถ้าพ่อไม่ยอมบอก เรื่องนี้ก็จะจมลงสู่ มหาสมุทรไปตลอดกาล

ชยรพเงยหน้าขึ้นมาอย่างทุกข์ทรมาน

มันเป็นความจริงที่ย้อนกลับไปไม่ได้

ยี่สิบกว่าปีก่อน ชยรพมีครอบครัวที่มีความสุขที่สุดในเมืองเอส

ภรรยาของเขาธนิดาเป็นสาวสวยที่งานดีและดังที่สุดในคลับเซน เป็นที่รู้จักในชื่อ“เจนนี่น้อย”เธอร้องเพลงเพราะมาก หน้าตาก็งดงามละเอียดอ่อน รูปร่างที่เล็กและการเต้นที่สวยงามทำให้ผู้ชายในเมืองเอสหลงเธออย่างบ้าคลั่ง

แต่ว่าธนิดาก็ยังเคารพในหลักการของตัวเอง เธอโชว์การแสดงเพียงอย่างเดียว ไม่คิดจะขายตัวบำเรอใคร เพราะเหตุนี้จึงไม่มีใครจีบไปจนถึงสุดทาง

จนกระทั่งวันหนึ่ง ธนิดาพบชยรพ ทั้งสองคนตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น ธนิดาได้เงินจำนวนหนึ่งมาจากการแต่งงานกับชยรพ

หลังแต่งงาน ชยรพก็ไม่ได้ทำตามความคาดหวังของธนิดา เขาทำธุรกิจของตนให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดก็ได้ก่อตั้งบริษัทยาหวนจำกัดขึ้น

แต่ว่าเพื่อจะทำให้กิจการรุ่งเรืองขึ้น ชยรพจึงหมกมุ่นอยู่กับงานมากขึ้นทุกวัน

แต่ธนิดาที่ยังเยาว์วัยและสวยงามนั้นได้รับการดูแลจากยงยศ ชายผู้เป็นเพื่อนสนิทของชยรพ

ในตอนนั้นยงยศที่สุภาพอ่อนโยน เป็นคุณครูอยู่ที่โรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่ง เขาอยู่ด้วยกันกับรนารีย์และมนต์ตรี ผู้เป็นภรรยาและลูกชายของเขา บ้านของยงยศและชยรพมีกำแพงกั้นอยู่

ยิ่งไปกว่านั้นทั้งธนิดากับรนารีย์กลายเป็นเพื่อนที่ดีกันได้อย่างรวดเร็ว

ทั้งสองครอบครัวใกล้ชิดกันมากขึ้นเพราะมิตรภาพแบบนี้ หลังจากธนิดาให้กำเนิดจารวี ลูกของทั้งสองครอบครัวก็สนิทสนมกันมากเช่นกัน ในเวลานั้นชยรพยังวางแผนที่จะรอให้จารวีโตก่อน แล้วยกให้เป็นลูกสะใภ้ตระกูลซัว

ความสุขแบบนี้ยืนหยัดไม่ได้นาน มีครั้งหนึ่งชยรพไปดื่มกับลูกค้าสองสามคนที่ผับแห่งหนึ่ง ตอนนั้นเพราะว่าเขาดื่มเยอะเกินไป จนทำให้เกิดเรื่องทะเลาะกันกับลูกค้า ในตอนที่เกิดเรื่อง นึกไม่ถึงเลยว่าลูกค้าคนนั้นจะเปิดเผยจุดอ่อนของชยรพอย่างไม่เกรงใจเลยแม้แต่น้อย

“ชยรพ นายอย่าได้ใจไปเลย ที่นายอยู่ได้ก็เพราะพึ่งเงินที่ได้จากการขายตัวของเมียนายมั้ยล่ะ นายคิดว่าไม่แปลกรึไง ที่บริษัทอย่างบริษัทของนายจะมาร่วมกันกับบริษัทของชั้นได้ นายมันไอ้แมงดา ที่เกาะเมียกินไม่ใช่รึไง”

ทั้งสองคนยิ่งทะเลาะกันก็ยิ่งรุนแรงขึ้น ชยรพคว้าปกคอเสื้อของลูกค้าคนนั้นไว้แน่น “คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ ภรรยาของผมเป็นผู้หญิงที่บริสุทธิ์”

"ฉัน…"ธนิดาก็ถูกความรักทำให้หลงจำหัวปักหัวปำ ในตอนนั้น เธอคิดว่าชยพรพรักเธอมากๆ เธอคิดว่าเขาไม่ได้ใส่ใจ แต่เธอคิดแล้ว แค่ไม่ได้พูดออกมา

ชยรพมีน้ำเสียงที่เย็นชา "ผู้ชายคนนั้นคือใคร”

ธนิดาไม่พูดอะไรออกไป เธอรู้ว่าถ้าเธอพูดออกไป บ้านหลังนี้ต้องวุ่นแน่ๆ

แต่เพราะว่าเธอเงียบไป ชยรพจึงเข้าใจผิดว่าเธอกำลังปกป้องยงยศอยู่

ชยรพเริ่มที่จะแยกห้องกับเธอ เขาไปดูงานต่างจังหวัดและต่างประเทศเป็นเวลานาน เดือนนึงกลับบ้านมาแค่หนเดียว จะนับว่าไม่ได้กลับมาบ้านเลยก็ได้ และไม่ได้แสดงความรักใคร่กับเธออีก ทั้งสองเย็นชากันมาก พวกเขากำลังทดสอบความรู้สึกของกันและกันอยู่

บางที เวลาอาจเปลี่ยนอะไรได้จริงๆ คนที่แต่ก่อนเคยรัก ก็กลายเป็นไม่รักอีกต่อไปแล้ว

คนที่แต่ก่อนไม่เคยรัก กลับค่อยๆมาอยู่ด้วยกัน

จนกระทั่งวันหนึ่ง ในตอนที่ชยรพกลับมาบ้าน ก็เห็นธนิดานั่งตัวติดกันอย่างใกล้ชิดสนิทสนมกับยงยศ เธอเขินจนตัวแดงไปทั้งตัว

ในตอนนั้นเขาถึงจะเข้าใจ ว่าตัวเขาทำผิดอย่างมหันต์

เขาที่เกรี้ยวกราด ได้เอาเรื่องไปบอกกับรนารีย์ภรรยาของยงยศ

รนารีย์มีฐานะดี ตระกูลนาทันเลิศมีหน้ามีตาในเมืองเอส หลังจากมี่พวกเขาทะเลาะกัน ก็ย้ายออกจากเมืองเอส

ชยรพไม่รู้ว่าพวกเขาย้ายไปอยู่ที่ไหน แต่เขาก็ไม่ได้สนใจที่จะสืบหา

แต่สำหรับธนิดา ภรรยาของเขา กลับเริ่มที่จะแค้นเคืองอย่างบ้าคลั่ง

เขากลับเย็นชากับเธอยิ่งกว่าเดิม จนถึงกระทั่งพาหญิงขายบริการเข้าบ้านต่อหน้าต่อตาของธนิดา

ธนิดามีมีทางจะทนได้ เพื่อเป็นการแก้แค้นเขา ไม่นานก็หว่านเสน่าห์ใส่เฉลิมชัย พี่ชายของชยรพ

คนที่รักใคร่ชอบพอกัน เปลี่ยนเป็นไม่มีวิธีจะหวนคืนความรักกลับมาได้

ชยรพแค้นธนิดา ได้กลับคืนมาก็ไม่ได้มีความสุข แต่กลับจิตใจหงอยเหงาเศร้าซึมไม่มีชีวิตชีวามากขึ้น

เขากับธนิดาค่อยๆเปลี่ยนสถานะจากคู่รักเป็นคู่แค้น สุดท้ายแล้วเขาทั้งคู่ก็ทำเหมือนอีกฝ่ายเป็นคนแปลกหน้า

จนกระทั่งวันหนึ่ง ธนิดาได้รับยาพิษเกินขนาด ในคืนนั้น….เธอบอกเขาด้วยตัวเอง ว่าคนที่เธอรักมากที่สุดก็คือเขา และชาตินี้ผู้ชายที่เธอเกลียดมากที่สุดก็คือเขาเช่นกัน….

ชยรพขู่บังคับให้เธอพูดออกมา ว่าชายที่ทำลายพรหมจารีย์ของธนิดาในคืนวันที่เข้าหอคือใคร แต่ให้ตายยังไงเธอก็ไม่พูดแน่ๆ

สุดท้ายธนิดาก็ตาย ชยรพถึงรู้ตัวว่าโลกของเขาที่ไม่มีเธอแล้ว โลกของเขาก็เหมือนได้ถูกพังทลายลง

พอธนิดาตายจากไป ความรักและความเกลียดชังของเขากลายเป็นเถ้าถ่าน

ดังนั้น เขาเลือกที่จะหลบหนีออกจากชีวิตทางโลก เขาจึงยกบริษัทยาหวนจำกัดให้กับเฉลิมชัย เขาไม่เต็มใจและยินยอมที่จะเผชิญกับการดูถูกถากถางของคนบนโลกอีกต่อไป….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย