เล่ห์รักเมียตัวน้อย นิยาย บท 172

ตอนที่ 171 ฉันคิดถึงพ่อ

ร่างทั้งสองนอนหมดแรงอยู่บนเตียง จารวีหายใจหอบแรง เอื้อมมือมาบนเตียง ผมเผ้าดูยุ่งเหยิง พอเธอใจเย็น เธอรวมผมขึ้นมาอย่างลวกๆ หลังจากนั้นทิ้งตัวลงบนหมอน

ความเย็นชาแบบนั้นทำให้เธอรู้สึกว่างเปล่า

เธอหนุนนอนบนแขนของเขา ได้ยินถึงลมหายใจของเขา

“ยศพล คุณหลับรึยัง?”

ความเงียบสงบก็มีเสียงของเธอดังขึ้นในยามค่ำคืนนี้

“อืม ยังไม่นอน”

มือใหญ่ของยศพลยังคงกอดร่างกายอันบอบบางของเธอไว้

จารวีจับมือของเขา พูดด้วยท่าทีจริงจัง “คุณรักฉันไหม?”

ยศพลนิ่งไปสักครู่ แล้วเขาพลิกเธอให้หันหน้ามาหากัน ถึงแม้ว่าเราจะมองเห็นไม่ชัดเจน แต่ก็สัมผัสได้ถึงลมหายใจของอีกฝั่ง

“เมื่อกี้ยังไม่ชัดเองอีก?” ยศพลพูดอย่างเล่ห์ๆ

ในหัวสมองผู้หญิงคนนี้คิดอะไรอยู่กันแน่ ไม่รู้หรือว่า เขารักเธอที่สุดในโลกแล้ว

นึกไม่ถึงเลยจริงๆว่าเธอจะถามคำถามนี้

“อันนี้ไม่นับ ผู้ชายมีส่วนของสัตว์ครึ่งหนึ่ง”

“จริงหรือ? งั้นความเป็นสัตว์ครึ่งหนึ่งของผมก็รักคุณมากๆ สรุปก็คือผมรักคุณไง ”

“ไปๆ ล้อเล่นฉันรึไง ฉันจริงจังอยู่นะ สุดท้าย... คุณรักไม่รักฉันกันแน่?”

จารวีรู้สึกหัวสมองว่างเปล่า เหมือนลอยอยู่ในอวกาศ

ยศพลจับมือของเธอวางไว้บนปากของเขา ค่อยๆละเมียดละไมจูบมือเธอ

“รักสิ ถ้าไม่รักคุณผมจะอยู่ตรงนี้ทำไม”

“แต่ว่า คุณอยากให้เราอยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไปหรอ”

ความจริงแล้วสิ่งที่จารวีอยากถามมากที่สุดคือ ทำไมคุณไม่ยอมแต่งงานกับฉัน

ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอไม่เคยคิดถึงปัญหาแบบนี้ เพราะยศพลไม่เคยคิดที่จะวางแผนแต่งงานกับเธอ เราทั้งแตกต่างกันเกินไป เธอเป็นเพียงแค่ซินเดอเรลล่า ส่วนเขาคือนักธุรกิจพันล้าน ดูจากคำพูดเขาแล้ว เธอยอมเป็นเมียเก็บของเขาก็ได้ แค่นั้นเธอก็พอใจแล้ว

แต่ว่าตอนนี้เธอไม่ได้ต้องการแค่นั้น เหตุไม่ได้มาจากเงิน แต่ในท้องของเธอมีลูกของเรา

พอเธอมีลูก เธอก็เอาแต่คิดถึงอนาคตของเด็กคนนี้

เธอหวังว่าจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์ รอลูกคลอดออกมา มีครอบครัวที่ดี มีพร้อมทั้งแม่และพ่อ...

ยศพลไม่ได้คิดแบบเดียวกับจารวี เขามึนงงไปชั่วขณะ

“คุณไม่อยากอยู่กับผมแล้ว?”

จารวีอดไม่ได้ “คุณไม่คิดว่าเราควรแต่งงานกันได้แล้วหรือ?”

ยศพลนิ่ง แต่งงานคำสองคำนี้ดังก็องอยู่ในหัวของเขา ในวันนี้มีผู้หญิงบังคับให้เขาแต่งงาน

จารวีมองยศพลนิ่ง เธอรู้สึกเจ็บอย่างบอกไม่อยู่ พูดอย่างโมโห “ฉันรู้ว่าคุณไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานมาก่อน ช่างเถอะ คิดซะว่าฉันไม่เคยพูดมาก่อน”

เธอพลิกร่างกายไปอีกฝั่ง ปล่อยให้น้ำตาไหลมาเงียบๆ

ยศพลพยายามเอาเธอกอดไว้ เธอพยายามดิ้นให้หลุด ยศพลจึงย้ายที่นอนมาตรงหน้าเธอ ไม่ทันที่เขาได้เอนกายลง จารวีก็พลิกตัวไปอีกฝั่ง ทิ้งความเย็นชาไว้ข้างหลังให้แก่เขา เป็นอย่างนี้อยู่สี่ห้ารอบ ยศพลไม่มีโอกาศเห็นแม้แต่หน้าของจารวี

“เด็กโง่ คุณกลัวไม่ได้แต่งงานหรืออะไร?”

จารวีเช็ดน้ำตา “ใครกันกลัวไม่ได้แต่งงาน ใครกันแน่ที่โง่ ถึงไม่มีภรรยาสักที”

ยศพลโอบกอดเธอจากข้างหลัง “ใช่ๆ งั้นให้เด็กโง่คนนี้แต่งเป็นภรรยาผมไง แต่ว่าผมทั้งสูง ทั้งรวย แถมยังหล่อ แถมยังหาภรรยาได้แล้ว”

“เฮอะ” จารวียังไม่สนใจเขา แต่ไม่รู้ทำไม ใจของเธอถึงรู้สึกดีขึ้นมา

ยศพลกดใบหน้าไว้ที่คอของเธอ อดไม่ได้ที่จะดมกลิ่มหอมๆของเธอ ท่าทีแบบนี้เธออดไม่ได้ที่จะใจอ่อนขึ้นมา

“เด็กโง่ ไม่ว่าอย่างไรผมก็จะแต่งงานกับคุณ” เขากอดเธอไว้แน่น ทำไมเขาจะไม่แต่งงานกับเธอหละ เขาทั้งชีวิตนี้มีแต่เธอ ไม่มีวันที่เราปล่อยเธอไปจากมือ

“ถ้าฉันแก่แล้วแถมยังไม่สวยแล้ว คุณยังต้องการฉันอีกไหม” จารวีอดไม่ได้ที่จะถามในสิ่งที่ตัวเองคิด

ทะเลาะกันมาครึ่งวัน สำคัญแค่ประโยคเดียว เธอแค่กังวลว่า ถ้าตัวเองแก่ตัวไป รักระหว่างเราจะเปลี่ยนไปไหม

ส่วนสำคัญที่สุดคือ ชีวิตของเธอจะอยู่บนเส้นทางแบบไหนกันนะ

“จารวี บางครั้งทำไมคุณถึงโง่ได้ขนาดนี้ ถ้าตอนนี้คุณแก่ ผมก็ไม่คิดที่จะทอดทิ้งคุณ คุณควรดีใจนะ ผมต้องการคือคุณ ไม่ใช่ความสวยของคุณ”

คำพูดของยศพลทำให้เธอรู้สึกถูกปลอบประโลม ตอนนี้จิตใจของเธอเงียบสงบแล้ว

“จริงด้วย ยศพล พรุ่งนี้ฉันคิดว่าจะไปหาพ่อ”

“อืม งั้นผมให้นิรันไปส่งคุณที่สุสาน”

“ไม่เป็นไร ไม่ชอบให้คนไปเยอะ ฉันอยากคุยกับคุณพ่อแค่สองคน”

ตอนที่ชยรพได้เสียชีวิตไป จารวีโศกเศร้ามากจนไม่ได้ไปงานศพ

บางทีเธอเจ็บมากจนไม่กล้าไปพบหน้า

ตอนี้ความเจ็บปวดได้เบาบางลงแล้ว เธอจึงมีความกล้าที่จะไป

จารวียิ่งรู้สึกแย่ไปอีก รู้สึกว่าตัวเองมองไม่เห็นเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ระกว่างเรา

“น้าอามคะ ยศพลออกจากบ้านเมื่อไหร่คะ”

น้าอามครุ่นคิด “ประมาณตีห้าก็ออกบ้านแล้วค่ะ ตอนไปยังฝากบอกให้น้าเตรียมอาหารเช้าให้คุณ แล้วไปบอกให้นิรันไปส่งคุณที่สุสาน”

คิดไม่ถึงว่า เขาจะออกไปเช้าขนาดนั้น

ความจริงแล้วยศพลไม่ได้นอนทั้งคืน เขาเล่นผมเธอทั้งคืน เขารู้สึกว่าเธอค่อยๆเลือนหายไปจากชีวิตเขา และเขาเองก็ไม่มีทางเลือก

“โอเคค่ะ” จารวีเดินลงมาอย่างไม่มีอารมณ์แม้แต่จะกินข้าว ความรู้สึกดีจากเมื่อคืน ตอนเช้าก็ถูกขว้างทิ้งเสียแล้ว หรือว่าความรู้สึกของเธอมันไม่เคยมีความรู้สึกตั้งแต่แรกแล้วนะ

มื้อเช้าผ่านไป นิรนพาเธอมาที่สุสาน

สุสานห่างจากเมืองไกลพอตัว ใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าจะถึง

ไกลออกไปสุดลูกตาเป็นเนินเขา ที่มีหลุมศพเล็กๆวางอย่างเป็นแถว

ที่นี่เป็นอีกโลกนึงของผู้คนที่หลับใหลตลอดกาล

ทุกคนไม่ว่าอย่างไรสถานที่นี้จะรอทุกคนเข้ามา

“ถึงแล้วครับ คุณจารวี” นิรันจอดรถ จารวีจับแว่นตากันแดด ในมือถือช่อดอกเบนจมาศสีขาวเดินออกจากรถ

“คุณอยู่ข้างนอกรอนะคะ” จารวีพูดกับนิรัน ก็เดินเข้าไปข้างใน

ลมเย็นๆพัดเข้ามา ใบไม้จากต้นไม้ใหญ่ที่สุสานร่วงลงมาที่ไหล่ของเธอ

ช่างเป็นอะไรที่เงียบเหงา เหมือนภาพวาดที่มีเพียงแค่สีขาวดำ

บางครั้งก็ต้องถึงเวลาที่ยอมรับความจริงเสียที และในที่สุดเวลาจะช่วยให้เราชินไปกับมัน

จราวีหยุดตรงที่หลุมศพของชยรพ ยังเห็นรูปขาวดำชัดเจนของเขาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

น้ำตาค่อยๆไหลออกมา จารวีวางช่อดอกไม้ไว้ข้างหน้าหลุมศพของชยรพ

“พ่อค่ะ หนูมาหาพ่อแล้วนะ พ่อได้ยินสียงหนูไหม” เสียงของจารวีเต็มไปด้วยความอ่อนแอ เป็นเรื่องที่ปล่อยวางได้อยากที่สุดสำหรับการเสียคนที่เรารักไป

ความตายเป็นอะไรที่ย้อนกลับมาไม่ได้ การจากไปคราวนี้คือการจากไปตลอดกาล ไม่ว่าอย่างไรคุณต้องจากลาเขาอยู่ดี

น้ำตาของจารวีควบคุมไม่ได้แล้ว ไหลมากกว่าเดิม

“พ่อค่ะ หนูคิดถึงพ่อเหลือเกิน พ่อรู้ไหม ตอนนี้หนูเหลือตัวคนเดียวแล้ว ที่พูดก่อนหน้านี้เพราะหนูโกรธ ตอนที่พ่อไม่อยู่ หนูพยายามที่จะยืนหยัดที่จะมีชีวิตอยู่ เพราะหนูเชื่อว่าพ่อจะกลับมาหาหนู ดังนั้นหนูเลยพยายามให้พ่อเห็น ว่าหนูยอดเยี่ยมแค่ไหน ต่อให้พ่อไม่อยู่ข้างๆ หนูก็ยังเป็นเด็กดี...” จราวีร้องไห้จนไม่มีเสียง

“พ่อคะ หนูเสียใจ พ่อได้ยินไหมว่าหนูเสียใจ ตอนนี้หนูไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว จริงๆนะ”

“จารวี ตอนนี้ไม่ได้มีแค่คุณตัวคนเดียว คุณยังมีผม”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย