เล่ห์รักเมียตัวน้อย นิยาย บท 50

ตอนที่ 49 ผ่านเรื่องร้ายมาได้

ยศพลกอดร่างที่ไม่ได้สติของจารวี เหมือนกับคนที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยความมืดมิด โศกเศร้าอย่างถึงที่สุด

รถพยาบาลมาถึงอย่างรวดเร็ว เลือดบนหน้าผากของยศพลไหลลงมาบนหน้า เขาไม่สนใจไยดีเลยแม้แต่นิดเดียว รีบอุ้มจารวีออกไป

มีแพทย์สองคนพุ่งเข้ามา ยศพลกดเสียงต่ำสั่งอย่างเฉียบขาด “พวกคุณฟังให้ดี ถ้าหากเธอตายขึ้นมา พวกคุณทั้งหมดก็ไม่ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป”

แพทย์ทั้งสองตกใจจนหน้าถอดสี

ทัศนีย์ที่เดินตามมาท้ายสุด จู่ๆเธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้า จึงรีบหันกลับไปดูในทันที ก็เห็นคนเดินเซออกมาจากใต้บันได วิ่งตรงไปที่ด้านข้างของผนังกำแพง

เธอรีบตามไปทันที

ด้านนอกของห้องฉุกเฉิน ยศพลเดินไปเดินมาอย่างร้อนใจ

“ท่านประธานครับ ไปเย็บแผลที่หน้าผากสักหน่อยเถอะครับ”

นิรันพูดขึ้นมา

“ออกไป!!” ยศพลตวาดออกไปอย่างรำคาญ ยื่นมือไปนวดที่ปากแผลบนหน้าผาก ดึงกระดาศทิชชู่มาเช็ดเลือดที่แผล และก็นั่งต่อไปอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร

เวลาผ่านไปเนิ่นนาน

ยศพลร้อนใจจนต้องลุกยืนขึ้นมา ต่อยไปบนกำแพงของโรงพยาบาลอย่างแรง เลือดไหลออกมาจากข้อนิ้วทั้งห้า เขาขมวดคิ้วเข้าหากัน ไม่มีสติหลงเหลืออยู่เลยแม้แต่น้อย

ในที่สุดประตูห้องฉุกเฉินก็เปิดออก

คุณหมอเดินออกมา ยศพลรีบเดินเข้าไปหาทันที

บนใบหน้าของคุณหมอเต็มไปด้วยรอยยิ้มบางๆ “คุณยศพลครับ คุณจารวีถูกส่งตัวมาทันเวลา เลือดก็หยุดไหลออกจากปากแผลแล้ว ตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้วครับ เพียงแต่ว่าสมองได้รับการกระทบกระเทือนเล็กน้อย ตอนนี้ก็ไม่มีปัญหาหรือโรคแทรกซ้อนอื่นๆ รอแค่เธอฟื้นขึ้นมาแค่นั้น อีกเรื่องก็คือข้อเท้าข้างซ้ายเคล็ดหนักมาก แค่ดูแลรักษาดีๆ ก็ไม่มีอะไรร้ายแรงแล้วล่ะครับ”

ใบหน้าที่เป็นกังวลของยศพลผ่อนคลายลง รีบวิ่งไปที่เตียงคนไข้อย่างรวดเร็ว

บนเตียงคนไข้ จารวีนอนหลับตานิ่ง ใบหน้าซีดเซียว เหมือนกับคนนอนหลับสนิทปกติ

ยศพลจับมือเล็กๆของเธอ และจูบลงบนหลังมือด้วยความรักใคร่

ผู้หญิงตัวเล็กๆที่ไม่รู้เรื่องคนนี้ ทำไมไม่รู้จักดูแลตัวเองบ้างเลย ไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าหลายสิบปีก่อนเธอมีชีวิตผ่านมาได้ยังไงกัน ตอนที่เขาไม่อยู่ข้างๆก็เกิดเรื่องนั่นนี่ ไม่หกล้มก็ชน...

“ท่านประธานคะ ฉันจับผู้หญิงคนหนึ่งได้ เธอบอกว่าเป็นคุณป้าของคุณจารวีค่ะ แต่ฉันสงสัยว่าเธอจะเป็นคนที่ผลักคุณจารวีตกลงมา...” ทัศนีย์เรียกรปภ.สองคนมาจับตัวผู้หญิงคนนี้เอาไว้

ยศพลหันมองด้วยสีหน้าเย็นยะเยือก “ฉันเธอขังไว้ก่อน รอจนกว่าจารวีฟื้นแล้วค่อยว่ากัน”

ตกกลางคืน จารวีค่อยๆฟื้นขึ้นมา จมูกเต็มไปด้วยกลิ่นของยาฆ่าเชื้อโรค

ค่อยๆปรับสายตาให้เข้าที่ ก็เห็นเงาสูงใหญ่อยู่ด้านข้าง

จู่ๆก็รู้สึกถึงความเย็นเฉียบที่ปลายนิ้วอย่างฉับพลัน และก็มีเสียงแต็กๆตามมา พอมองดูดีๆแล้ว ไม่อยากจะเชื่อว่ายศพลกำลังตัดเล็บให้เธออย่างตั้งอกตั้งใจ

ผู้ชายคนนี้ถึงแม้ว่าจะอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ตอนที่ทำเรื่องต่างๆกลับตั้งอกตั้งใจมาก การตัดเล็บเป็นเรื่องที่จุกจิก แต่เขากลับทำอย่างตั้งอกตั้งใจ

จารวีใช้ปลายหางตามองอย่างยิ้มๆ แสงไฟที่อบอุ่น ทำให้รู้สึกถึงความอุ่นใจ

“นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า ไม่น่าเชื่อว่าประธานบริษัทที่สุขุมจะตัดเล็บเป็น”

ยศพลได้ยินเสียงก็มองไปที่เธออย่างดุดุ แต่ในดวงตาคู่นั้นกลับเต็มไปด้วยความเอ็นดู เขายังคงตัดเล็บต่อไปไม่หยุด

“ใช่ เธอกำลังฝันอยู่ สมองกระทบกระเทือนจนเบลอแล้ว”

“คุณช่วยชีวิตฉันหรอ?” จารวีคลับคล้ายคลับคลาว่าคุณป้าพุ่งตัวเข้าหาเธอ และเธอก็จำเรื่องหลังจากนั้นไม่ได้เลย

“เฮอะ จารวี เธออย่าคิดว่าฉันเป็นเทพบุตร ที่จะเสี่ยงอันตรายไปช่วยชีวิตเธอทุกครั้งนะ”

ยศพลตัดเล็บสุดท้ายเสร็จ ก็ปัดมือเธอทิ้งอย่างโมโห และยืนขึ้น

แบร่!! จารวีแลบลิ้นออกมา

จริงสิ แค่เวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน ยศพลก็ช่วยชีวิตเธอมาแล้วสามครั้ง

ครั้งแรก บนเกาะร้างที่มัลดีฟส์

ครั้งที่สอง ตอนที่ติดคุก

ครั้งที่สาม ก็คือครั้งนี้ในบ้านพูลสวัสดิ์

..........

จารวียิ้ม ยื่นมือไปจับมือของยศพลไว้ ยศพลค่อยๆหันกลับมามองอย่างโกรธๆ แต่ก็ไม่ได้ขยับไปไหน

“ฟู่ววววว” จารวีหัวเราะ

ผู้ชายตัวโตขนาดนี้ ทำไมถึงได้ขี้งอลขนาดนี้กัน?

“ยศพล ต่อจากนี้ไปฉันจะไม่ทำเรื่องโง่ๆอีกแล้ว”

ยศพลเลิกคิ้วมอง “แล้วแต่เธอ เธอจะทำก็ได้ แต่ครั้งต่อไป ฉันจะไม่สนใจเธออีกต่อไปแล้ว”

จารวีกระพริบตาปริบๆ “รู้แล้วค่ะ ฉันจะไม่ทำให้ท่านประธานต้องเป็นห่วงอีกแล้วค่ะ”

ยศพลมองลงมาด้วยสายตาอบอุ่น

นั่งลงข้างเตียงคนไข้ของจารวี ยื่นมือมาบีบจมูกของเธอ “อยากกินอะไรไหม?”

จารวีคิดอย่างจริงจังสักพัก “ฉันอยากกินเกี๊ยว!”

เกี๊ยว!! นี่มันเที่ยงคืนกว่าแล้ว มีเกี๊ยวที่ไหนกันล่ะ จารวี เธอนี่เลือกได้ดีจริงๆ!!

ยศพลเอามือถูที่หว่างคิ้ว “โอเค เธอรอก่อนละกัน!”

“อื้อ!!” จารวีพยักหน้ายิ้มหวาน ลักยิ้มน้อยๆที่น่ารักของเธอ ปรากฏอยู่บนแก้มทั้งสองข้าง

ยศพลอดไม่ไหวก้มตัวลงมาจูบลงที่ริมฝีปากของเธอ อย่างเอาแต่ใจ

จนจารวีเริ่มหายใจหอบ

ผ่านไปสักพัก ยศพลจึงถอนจูบออก จารวีถูกจูบจนหน้าแดงเถือก ริมฝีปากก็บวมเจ่อ

แม่สาวน้อย ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเธอป่วยอยู่ ฉันคงจะกินเธอไปแล้ว

แม่สาวน้อยคนนี้ เมื่อกี้ยังตะโกนว่าอยากกินเกี๊ยวอยู่เลย แต่นี่กลับหลับสะแล้ว ทำให้เขาทำงานฟรีไปตั้งหลายชั่วโมง

“คุณชายคะ เดี๋ยวน้าเรียกคุณจารวีลุกขึ้นมากินเกี๊ยวละกันค่ะ!”

ยศพลส่งสัญญาณมือบอกว่าไม่ต้อง เขาดูที่นาฬิกา “ฉันต้องไปที่บริษัทแล้ว เก็บรักษาความอุ่นของเกี๊ยวนี่ไว้ พอเธอตื่นแล้วก็ค่อยให้กิน”

“คุณชาย คุณไม่นอนสักหน่อยหรอคะ? คุณยังบาดเจ็บอยู่ ข้าวก็ยังไม่ได้กิน”

ยศพลมองไปที่น้าอาม “พูดมาก ดูแลจารวีให้ดีเถอะ!”

ยศพลก้มหัวลงไปจูบที่หน้าผากของจารวีเบาๆ ปากโค้งสวยยิ้มขึ้นเล็กน้อย แล้วจึงพาร่างกายที่เหนื่อยล้าเดินออกมา วันนี้ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องจัดการ....

จารวีนอนจนถึงเก้าโมงกว่าๆก็ตื่นขึ้นมา

เธอนอนอยู่ในห้องผู้ป่วยวีไอพี เป็นห้องที่ติดริมหน้าต่าง พอเปิดหน้าต่างออก แสงแดดจากด้านนอกก็ทะลุเข้ามา ความอบอุ่นของแสงแดดส่องสว่างไปทั่วห้อง

ขอบระเบียงของหน้าต่าง มีดอกไม้สีน้ำเงินเย้ายวนที่บานพรั่งพรูวางอยู่หนึ่งช่อ หยดน้ำบนกลีบดอกไม้ส่องแสงแวววาวระยิบระยับ เหมือนกับเพชรเม็ดเล็กๆที่แตกกระจายออกจากกัน

จารวียื่นมือไปลูบแหวนเพชรที่อยู่บนมือ รู้สึกถึงความอุ่นใจอย่างประหลาด

มีชีวิตอยู่ นี่มันดีจริงๆ! จารวีคนนี้รอดจากเหตุการณ์เลวร้ายมาตั้งหลายครั้ง ต้องมีความสุขในบั้นปลายอย่างแน่นอน

จารวีหัวเราะหึหึกับตัวเอง

ก่อนหน้านี้น้าอามได้ยินคุณหมอพูดว่า จารวีมีสิทธิ์ที่จะสมองกระทบกระเทือนจนเป็นบ้าได้

พอได้ยินเสียงหัวเราะเย้ยหยันของจารวี เธอก็ตกใจมาก จนทำช้อนที่อยู่ในมือตกลงไปอยู่บนพื้นและมองไปที่จารวีอย่างเลื่อนลอย “คุณ คุณจารวี คุณเป็น..?”

จารวีหันกลับมามอง เห็นสีหน้าตื่นตระหนกของน้าอาม ก็หัวเราะ “น้าอาม เป็นอะไรไปคะ? ดอกกุหลาบช่อนี้ใครเป็นคนเอามาวางคะ?”

น้าอามเก็บช้อนขึ้นมาจากพื้น เอาน้ำล้างจนสะอาด ก็หัวเราะอย่างเก้ๆกังๆ

“น้าคิดว่าคุณจารวีกลายเป็นบ้าไปแล้ว! ฮ่ะๆ ไม่เป็นไรก็ดีแล้วค่ะ ดอกกุหลาบช่อนี้คุณชายสั่งมาค่ะ เมื่อตอนเช้าคุณทัศนีย์เป็นคนเอามาส่งให้”

น้าอามประคองจารวีให้นั่งลง เอาหมอนมาพิงหลังให้เธอ แล้วจึงหยิบเกี๊ยวในกล่องมาให้

“เมื่อวานตอนกลางคืนคุณจารวีบอกอยากกินเกี๊ยว นี่ใช่ไหมคะ คุณชายเอามาให้เมื่อคืน นี่คงเป็นเกี๊ยวที่เขาทำเอง คงจะทำจนถึงตีห้ากว่าๆเลย ฮ่ะๆ ไม่น่าเชื่อว่าคุณชายจะทำเกี๊ยวให้คุณจารวี ยากที่จะได้เห็นแบบนี้นะคะเนี่ย”

“จริงหรอคะ!” จารวียิ้มอย่างมีความสุข ผู้ชายบ้าอำนาจแบบนั้น ทำเกี๊ยวให้เธอจริงๆหรอ?

พอลุกขึ้นนั่ง จารวีก็อารมณ์ดีขึ้นมาทันที หันไปพูดกับน้าอามด้วยรอยยิ้ม “มาค่ะ เดี๋ยวฉันจะลองชิมฝีมือของเขาดู!”

น้าอามใช้ช้อนตักเกี๊ยวป้อนเข้าปากของจารวี

จารวีกัดแล้วเคี้ยว หลังจากนั้นก็พยักหน้า “อืมมม รสชาติ อึก เกี๊ยวนี่รสชาติไม่เลวเลยนะคะ แต่ดูเหมือนว่าจะต้มจนแตกไปหลายอันเลย ฮ่าๆ คงจะนอนสัปหงกอยู่แน่ๆเลย

รสชาติเค็มไปนิดหน่อย แต่ว่า เขาตั้งใจทำเกี๊ยวให้เธอตอนดึกดื่นขนาดนั้นช่างน่าชมเชยจริงๆ

ยศพลที่กำลังจะเดินเลี้ยวเข้าไป พอได้ยินเสียงหัวเราะที่มีความสุขของเธอ เขาก็ดีใจมาก

เดินย่างก้าวเข้าไป

“ใครบอกว่าฉันนอนสัปหงกกันล่ะ”

จารวีเงยหน้ามองอย่างงุนงง มองร่างสูงใหญ่ของยศพลที่เดินเข้ามา มุมปากเขามีความไม่พอใจเล็กน้อย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย