เล่ห์รักเมียตัวน้อย นิยาย บท 68

ตอนที่ 67 นอนกับหมาป่า

"พี่มนต์ ขวดที่พี่ลอยไปในน้ำ วีเก็บขึ้นมาได้หมดทุกใบเลยนะ เพียงแต่วีไม่มีความกล้าที่จะไปหาพี่ วันนั้นตอนที่จุดดอกไม้ไฟ วีก็ไปหาพี่แล้ว แต่น่าเสียดายที่ช้าเกินไป เพราะพี่ไปแล้ว…" จารวีพูดอย่างอ่อนแอ

มนต์ตรีตาเป็นประกายเล็กน้อย เขาเข้าใกล้เธอเข้ามาอีกนิด ค่อยๆเข้ามา จนกระทั่งได้กลิ่นหอมจากเรือนร่างของเธอ เหมือนเป็นกลิ่นน้ำหอมและกลิ่นหอมหวานของมินต์

"วี เดิมทีสิ่งที่พี่ทำไปทั้งหมด วีก็เห็นหมดทุกอย่างแล้ว ไม่เป็นไรหรอก วีไม่ต้องรู้สึกผิดหรอกนะ ตอนนี้พวกเราก็ได้เจอกันแล้ว ถึงแม้ว่าจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ แต่พี่ก็จะเป็นพี่มนต์ของวีตลอดไป พี่จะทำให้วีมีความสุขเบิกบานใจ ไม่ว่าวีจะอยู่กับใครก็ตาม…" มนต์ตรีพูดถึงตรงนี้ก็หยุดไปชั่วครู่ แล้วเอ่ยปากถามด้วยเสียงเบาๆว่า "เขาดีกับวีมั้ย"

ผู้ชายที่ดื้อดึงและหยิ่งยโสแบบนั้น ไม่น่าจะมาสนใจผู้หญิงที่ไม่มีครอบครัว ไม่มีภูมิหลัง สีหน้าของจารวีถูกความมืดบดบัง แล้วมีรอยยิ้มจางๆปรากกฏขึ้นมา เพื่อปิดบังซ่อนเร้นอารมณ์ของเธอไว้ “ดีค่ะ เขาดีกับวีมาก”

ในใจของมนต์ตรีรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก

"จารวี ยัยผู้หญิงรนหาที่ตาย เธอไปตายอยู่ที่ไหนเนี่ย"

เสียงด่าด้วยความโกรธของยศพลดังมาจากอีกฟากหนึ่ง

มนต์ตรีกำหมัดแน่นอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ สีหน้าเปลี่ยนไป ผู้ชายคนนี้ ทำไมถึงได้ด่าวีแบบนี้

จารวีมีสีหน้าที่สับสนมาก "พี่มนต์ วีไปนะ"

มนต์ตรีเดินตามเธอติดๆ "วี เจอลุงของวีแล้วนะ ถ้าว่างก็ติดต่อพี่มานะ…"

จารวีหันมาตอบรับที่หนึ่ง จากนั้นก็หนีหายไป

ถูกกั้นไว้ด้วยกำแพงกระจก มีเสียงที่ชั่วร้ายของยศพลดังลั่นออกมา

"จารวี เธอหายไปทำนานขนาดนั้น ไปห้องน้ำบ้าอะไรตั้งครึ่งชั่วโมง”

"โทษที ฉันดูละครเพลงอยู่น่ะ…"

"ขอทีเถอะ ในห้องน้ำเหม็นจะตาย นึกไม่ถึงเลยว่าเธอมานั่งในนี้อ่านหนังสือ เอามือถือมาให้ฉัน ไม่อนุญาตให้ดูแล้ว"

……

เสียงของจารวีอ่อนเบาลง อยู่ต่อหน้าเขาเธอไม่มีตำแหน่งอะไรทั้งสิ้น

มนต์ตรีได้ยินเสียงฝีเท้าของทั้งสองค่อยๆไกลออกไปเรื่อยๆ ใบหน้าหล่อเหลาขมวดจนกระจุกเป็นก้อน

เห็นได้ชัดมากๆว่า เธอไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

เหมือนกับSTกรุ๊ปที่ใหญ่ซะขนาดนั้น ประธานบริษัทรวยล้นฟ้า เป็นผู้ชายที่มีเงิน อยากได้ผู้หญิงแบบไหนก็ต้องได้ เขาจะแคร์วีมั้ยนะ

จารวีได้ยินมนต์ตรีพูดถึงข่าวคราวของคุณลุง จะมีอารมณ์ดูแคทวอล์คโชว์ได้ไง

ทำตามคำสั่งของยศพลไปครู่หนึ่ง อยู่ดีๆก็กุมท้องท้องตัวเอง "ฉันอยากกลับบ้าน"

ยศพลยักคิ้ว "เธอนี่อะไรนักหนา ทำไมวันนี้เรื่องเยอะจังห้ะ"

จารวีกดหัวต่ำลง พูดเบาๆที่ข้างหูของเขา "เหมือนว่าประจำเดือนจะมาอ่ะ ฉันต้องกลับไปก่อน"

ยศพลไม่ได้ตวาดอะไรเธอ หันไปตะโกนใส่ทัศนีย์

"ส่งเธอกลับบ้านก่อนเถอะ"

ยัยนี่ ต้องไม่ได้มีปัญหาธรรมดาแน่ๆ

ทัศนีย์พาจารวีเดินออกมา ตอนที่เตรียมตัวจะขึ้นรถ อยู่ดีๆ จารวีก็หน้าแดงและพูดว่า "คุณทัศนีย์ ฉันกลับเองก็ได้ค่ะ คุณไปอยู่ข้างกายคุณยศพลเถอะ เดี๋ยวเขายังมีงานต้องทำอีก"

ทัศนีย์เปิดประตูรถ "คุณจารวีคะ ให้ฉันส่งคุณกลับบ้านเถอะค่ะ ไม่งั้นคงเกิดเรื่องเหมือนครึ่งชั่วโมงก่อนอีก"

จารวีลังเลไปสักพัก แล้วส่ายหัว "คุณทัศนีย์ เอางี้มั้ย ฉันต้องไปซุปเปอร์ซื้อของสักหน่อย มันจะรบกวนคุณมาก ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ถ้าคุณต้องการอยู่กับฉันที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตละก็อาจต้องกลับมาช้า ฉันอยากจะใช้ผ้าอนามัยยี่ห้อที่ชอบน่ะค่ะ ที่โลตัสมีขายค่ะ…"

ทั้งเมืองมีโลตัสอยู่แค่ที่เดียว แล้วก็ไม่สะดวกที่จะไปจริงๆ

ทัศนีย์ลังเลสักพัก "ก็ได้ค่ะ งั้นฉันเรียกแท็กซี่ให้นะคะ"

"ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ"ครั้งนี้จารวีไม่ได้ปฏิเสธ

สิบนาทีต่อมา จารวีอยู่ที่ร้านขายหนังสือพิมพ์แห่งหนึ่ง โทรหามนต์ตรี

"พี่มนต์ ตอนนี้พี่ออกมาได้มั้ย ฉันอยู่สวนเซ็นทรัลปาร์ค"

"โอเค วีอยู่ตรงนั้นอย่าไปไหนเด็ดขาด พี่จะไปหาเดี๋ยวนี้เลย"

จารวีฟังเสียงของมนต์ตรี ในใจรู้สึกมีความสุขไหลลื่นอย่างบอกไม่ถูก ยังมีพี่มนต์ตรีที่ดี แค่โทรไป เขาก็รีบมาข้างกายเธอให้เร็วที่สุด

รถของมนต์ตรีขับไปถึงเซ็นทรับปาร์คอย่างรวดเร็ว มองไปไกลๆเห็นเงา หลังต้นไม้มีคนมองเขาอยู่

สายตาแบบนี้น เหมือนกับตอนเด็กๆที่เขาเอาอมยิ้มให้กับเธอ

ความอบอุ่นไหลเวียนทั่วสี่ห้องหัวใจของมนต์ตรี อะไรที่เรียกว่าความสุข งั้นตอนนี้ก็มีนิยามคำหนึ่งที่ชัดเจน เพียงแค่ได้อยู่กับคนที่ตนชอบ แม้ว่าจะไม่ได้ทำอะไรเลย ก็มีความสุขแล้ว

"พี่มนต์ พี่มาเร็วจริงๆ…”จารวีขึ้นรถ

มนต์ตรีเอนกายและคาดเข็มขัดนิรภัยของเขา เขาอยู่ใกล้กับเธอมาก เธอสามารถดมกลิ่นจาง ๆ ของน้ำหอมจากตัวของเขา หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้นเป็นระลอกเหมือนคลื่น

ตอนที่มนต์ตรีลุกขึ้นมา ผมของเขาโดนกับหูของเธอ ใบหน้าของเขาแตะกับริมฝีปากของเธอเล็กน้อย

ใบหน้าของเธอแดงเหมือนกับกุ้งที่สุกแล้วในทันที

สายตาที่อบอุ่นของมนต์ตรีมองเธออย่างนุ่มนวล ทำไมเขินอายที่น่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้ เหมือนกับลูกแพร์ที่โดนกระแสน้ำสาด ซึ่งทำให้เขาอยากเข้าใกล้เธอเข้าไปอีก

รถเริ่มขับออกไปช้าๆ

“พี่มนต์ ลุงของวีอยู่ที่ไหนคะ?” จารวีถามอย่างไม่หยุดหย่อน

“วี…”

อยู่ดีๆ มนต์ตรีก็หยุดรถ สภาพของเขาดูเคร่งเครียด เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง จารวีที่เห็นเขาเป็นแบบนี้ก็ยิ่งเครียดมากขึ้น แล้วมองดูเขาอย่างไม่สบายใจ “ทำไมคะ พี่มนต์ หรือว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับลุงของวีน่ะ”

“วี ฟังนะ เรื่องนี้เป็นความลับมากๆ มีข้อกำหนดที่ความเข้มงวดในการรักษาความลับ วีสัญญากับพี่ก่อน ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น วีก็จะไม่พูดอะไรออกไป…”

จารวีมองแค่เพียงแวปเดียวก็ดูออกเลยว่านั่นคือลุงของเธอ

ศพไม่ได้เน่าเลยสักนิด รูปลักษณ์ภายนอกยังสามารถดูออกได้อย่างชัดเจนว่าเป็นใคร มีบาดแผลโผล่มาให้เห็น ช่างดุร้ายเหลือเกิน

จารวียืนแข็งทื่อเป็นน้ำแข็งในห้องชั้นใต้ดิน

“สถานที่พบศพ คือที่ก้นทะเล ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก Versal Villa แผลที่ทำให้ถึงแก่ความตายคือแผลถูกปืนยิงที่หน้าอก และยังมีรอยแส้มากมายบนร่างกายของเข าดูเหมือนว่าเขาน่าจะถูกทารุณกรรมก่อนที่เขาจะตาย...” มนต์ตรีพูดเสียงเบาลง

หัวใจของจารวีชาไปหมด ตอนนั้น เหมือนกับว่ากับหูบอดไปชั่วขณะ

บาดแผลฉกรรจ์จากปืน ถูกปืนยิง เสียงปืน

ใช่ ใช่แล้ว คืนนั้นเธอได้ยินเสียงปืน นอกจากนี้ยังมีเลือดที่เปื้อนตามร่างกายของยศพล เธอนึกว่าตอนนั้นมันคอความฝัน

นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นความจริง ยศพลคือคนที่ฆ่าคุณลุง ไอ้เลวนี่ ขับรถชนยังไม่พอ ยังจะฆ่าเขาตายอย่างทรมานเหมือนเคยอีก

“วี วีเป็นอะไร”

มนต์ตรีเห็นใบหน้าเล็กๆของจารวีที่ซีดเซียว สายตาของเธอมองไกลออกไปอย่างเบลอๆ โดยไม่ได้โฟกัสอะไร

หลังจากตะโกนเรียกถึงสองสามครั้ง จารวีถึงได้มีปฏิกิริยาตอบสนองและวิ่งออกไปทันที จะไปถ่มน้ำลายใส่หน้าไอ้สวะนั่นให้ได้!!

เกิดมาเธอไม่เคยเห็นภาพแบบนี้มาก่อน

“ขอโทษนะ วี พี่ไม่น่าให้วีเห็นรูปพวกนี้เลย…”

มนต์ตรีพูดกับตัวเอง เขารู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป เขาคิดว่าวีคงไม่ได้รู้สึกดีกับคุณเฉลิมชัยมากนัก แต่นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะตอบสนองได้มากกว่าที่คิดไว้

จารวีส่ายหัวเบาๆ “พี่มนต์ พาวีออกไปที”

เสียงเธอเบาจนเหมือนจะไม่มีแรง

“ได้” มนต์ตรีพยุงตัวจารวีออกมาจากสถานีตำรวจ

มนต์ตรีปลอบโยนด้วยเสียงเบาๆ “วี ใจเย็นก่อนนะ ตอนนี้ตำรวจกำลังสืบสวนอยู่ นี่เป็นคดีฆาตกรรมร้ายแรง แต่ก่อนหน้านี้มีการสอบสวน และพบว่าเฉลิมชัยเป็นหนี้จำนวนมาก สันนิษฐานน่าจะถูกฆาตกรรมด้วยฝีมือของมาเฟีย ดังนั้นการสืบสวนจึงทำได้ค่อนข้างยาก แต่เชื่อเถอะ ตำรวจจะต้องจับตัวฆาตกรได้แน่”

จารวียิ้มมุมปากเบาๆ งั้นเหรอ ฆาตกรน่ะ เธอไม่จำเป็นต้องให้ตำรวจไปจับฆาตกรให้หรอก

“วีคิดว่า วีน่าจะรู้ว่าฆาตกรอยู่ที่ไหน” จารวีพึมพำ

เธอนอนกับฆาตกรทุกคืน รู้ความลับส่วนตัวและอุณหภูมิร่างกายชัดเจนซะขนาดนี้ เธอยังต้องการให้คนอื่นมาตรวจสอบอีกเหรอ

ตลกซะจริง ตลกจริงๆเลย

ทุกวันนี้เธอนอนร่วมเตียงกับหมาป่าชั่ว!

จารวีอยากจะตบบ้องหูตัวเองสักสองสามที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย