ตอนที่ 68 ตกอยู่ในกำมือของผู้หญิง
มนต์ตรีมองไปที่จารวีด้วยความเป็นห่วงอย่างมาก นอกจากที่เธอเพิ่งจะอ้วกออกมา ก็ยังไม่มีอาการผิดปกติอะไรมาก ไม่ได้ร้องไห้หรือโวยวาย แต่รอยยิ้มหัวเราะอย่างเยือกเย็นของเธอเริ่มทำให้เขากลัว
"วี วีพักที่ไหน พี่ไปส่งนะ"
จารวีเงยหน้า มองมนต์ตรีด้วยความจริงจังเป็นระยะเวลานาน ถึงได้ยิ้มอ่อนแล้วพูดว่า “ขอบคุณค่ะ พี่มนต์”
“ฮ่ะๆ วี อย่าพูดกับพี่แบบนี้เลย วีก็รู้ว่าใจของพี่…”
จารวียื่นมีออกไปแตะที่ริมฝีปากของเขา “พี่มนต์ ขอให้พี่มนต์มีความสุข”
เธอไม่จำเป็นต้องฟังคำสารภาพรักจากเขาอีก เขามีว่าที่ภรรยาแล้ว เขามีโลกของเขาแล้ว
แต่ว่าเธอ จะต้องเดินทางคนเดียวตามลำพัง
“พี่มนต์ ไม่ต้องส่งวีหรอก วีเรียกแท็กซี่กลับบ้านเองได้ เขาชอบหึงน่ะ ถ้าเห็นพี่เข้าละก็ อาจจะทะเลาะกันก็ได้…” จารวีถอนหายใจอย่างโล่งอก
เธอหันไปกวักมือเรียกรถแท็กซี่ ทันใดนั้นก็หันกลับมายิ้มให้กับมนต์ตรี และพูดกับเขาด้วยเสียงกังวานเหมือนระฆังเงิน “พี่มนต์ พี่อยู่ในหัวใจของวี ไม่มีใครมาแทนที่พี่ได้ วีจะจำพี่ไว้ตลอดไป”
เธอเดินไปและปิดประตูรถอย่างสงบ
ตอนนี้ ในสมองของเธอยุ่งเหยิง ไอ้สารเลวยศพล ฉันจะไม่ปล่อยแกไว้แน่
หลังจากที่ยศพลดูแฟชั่นโชว์จบ ตอนที่กลับมาก็สี่ทุ่มกว่าแล้ว
ตอนที่ร่างสูงผิวสีเข้มเดินเข้ามา จารวีนั่งดูโทรทัศน์อยูบนโซฟา
ถ้าหากมองอย่างใกล้ชิด จะพบว่าสายตาของจารวีไม่ได้โฟกัสที่ภาพในโทรทัศน์เลย เธอมองเหม่อโดยไม่รู้ตัว
พอได้ยินเสียงฝีเท้าของยศพลใกล้เข้ามา เธอก็กระโดดขึ้นมาอย่างมีความสุข
หันไปใช้มือทั้งสองจับที่คอของยศพล
“นายกลับมาซะทีนะ”
ยศพลคิ้วกระตุก “ทำไมวันนี้ดูต้อนรับอบอุ่นจัง ทำอะไรผิดมารึเปล่า”
จารวีถอดเสื้อนอกของเขาออกอย่างมีน้ำใจ แล้วแขวนเอาไว้ตรงที่แขวนเสื้อ จากนั้นก็จับมือของเขาแล้วนั่งบนโซฟา
“อืม ฉันทำผิดมา วันนี้ไม่ได้อยู่ดูกับนายจนจบ ในใจรู้สึกผิดมาก เลยอยากจะออกตัวทำดีกับนายก่อน”
จารวียิ้มออกมาอย่างเสแสร้ง เหมือนว่าเดินอยู่บนปุยนุ่น แต่เธอไม่ได้มีการรับรู้
จิตสำนึกที่แข็งแกร่งเตือนให้เธอเงียบสงบ ไม่แสดงอาการใดๆ
ยศพลเหนื่อยซะจนไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของจารวีเลยสักนัด เห็นว่าเธอฉลาดขนาดนี้กลับมีความรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมา
“งั้นก็ดี ในเมื่อเธอก็รู้ตัวว่าตัวเองผิดแล้ว ทำไมยังไม่รีบมาชดใช้ล่ะ”
“อืมๆ ฉันทำแล้ว ฉันอบเค้กไว้ ไปกินด้วยกันดีมั้ย?”
จารวีกระโดดขึ้นมาจากโซฟา แล้วไปที่ห้องครัวอย่างสงบ เธอหยิบเค้กร้อนๆที่มีกลิ่นครีมนมแรงมากออกมาหนึ่งจาน
ยศพลรู้สึกมีความสุขกับความอบอุ่นแบบนี้ อ้าปากกว้าง ยื่นมือไปหยิบเค้กมาหนึ่งชิ้น แล้วเอาเข้าปาก
จารวีมองดูเขาเอาเค้กที่เธอทำเองเข้าปากไปทีละคำอย่างตั้งใจ
แววตาเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น
ยศพลกินไปแค่ชิ้นเดียว เขาก็ไม่กินแล้ว “เมื้อกี้กินข้าวไปแล้ว ฉันกินไม่ลงแล้ว ไว้พรุ่งนี้กินใหม่เถอะ”
จารวีแสดงสีหน้าที่ผิดหวังออกมา แล้วเดินเข้าไปในครัว จากนั้นก็หยิบนมอุ่นออกมาแก้วหนึ่ง
“ดื่มสักแก้วมั้ย ดื่มเสร็จพวกเราก็กลับขึ้นห้องกัน...”
จารวีพูดด้วยความหมายแฝงที่ลึกซึง ยศพลหยิบแก้วมาแล้วดื่มให้หมดภายในรวดเดียว
เขารีบอุ้มจารวีแล้ววิ่งขึ้นไปข้างบนอย่างรวดเร็ว
ที่หน้าห้องนอน เขาก็อดใจรอไม่ไหวที่จะจูบจารวี
“ไม่ต้องรีบ…”
จารวีพูดออกมาอย่างขัดขืน
ยศพลกดจารวีลงบนพรม ขณะที่จูบริมฝีปากที่นุ่มนวลของเธอ ก็ใช้มืออีกข้างถอดเสื้อผ้าของเธอ
อยู่ดีๆ การเคลื่อนไหวของยศพลก็ช้าและหยุดนิ่งลง เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงง่วงได้
ยศพลเงยหน้าขึ้นมา สายตาของเขาพร่ามัวและสั่นไปหมด ใบหน้าเล็กๆของจารวีเริ่มห่างไกลออกไป...
“เป็นอะไร”เสียงของจารวีที่เขาได้ยินก็เบลอไปหมด
อยู่ดีๆยศพลก็ล้มลง “ฉันง่วง”
เธอจ้องมองค่อนข้างนาน แล้วก็รีบปีนขึ้นมา
เธอล็อคประตูจากด้านใน
ผนังของห้องนี้สามารถเก็บเสียงได้เป็นอย่างดีเพราะได้รับการสร้างอย่างเป็นพิเศษ
ยศพลตัวหนักมาก เธอใช้แรงทั้งหมดที่มีก็ไม่มีทางเอาเขาไปไว้ข้างๆเก้าอี้ได้
ท้ายที่สุด จึงทำได้แค่มัดมือและเท้าของเขาทั้งสองข้างด้วยเชือก มัดขาทั้งสองข้างไว้กับเตียง
“แกร๊ก!”
แก้วใส่น้ำเปล่าเย็นๆมาสัมผัสกับใบหน้าของยศพล เขาตกใจจนร้องออกมาและลืมตาขึ้น
เดิมทีนั้น ยานอนหลับที่จารวีให้ไปนั้นฤทธิ์ยาไม่ได้แรงมากนัก เธอเกรงว่าเขาจะเจอ ดังนั้นจึงเอาฝังไว้ในเค้ก แต่ศพลกลับกินเค้กไปเพียงแค่ชิ้นเดียว
จารวีพยายามที่จะสงบสติอารมณ์ “ยศพล นายพูดถูก ฉันจะฆ่านาย…”
แม้ว่าเสียงของจารวีจะเบา แต่ก็เต็มไปด้วยความแน่วแน่ นี่ไม่ใช่การล้อเล่น หรือเป็นบทละคร เธออยากฆ่าเขา
“บ้าเอ๊ย เธอนี่นะ ดีมาก ให้เหตุผลมาหนึ่งอย่างสิ”
จารวีปาดน้ำตา เสียงสะอึกสะอื้น “นายทำอะไรไปบ้างยังต้องมาถามฉันอีกเหรอ?”
ยศพลพูดถากถางว่า “ผมทำไปตั้งหลายเรื่อง แต่มันคงไม่มีโทษถึงตายป่ะ”
“ไม่มีโทษถึงตายเหรอ?”
ในใจจารวีหดหู่และโศกเศร้าเป็นอย่างมาก “คนในบ้านพูลสวัสดิ์ของฉันตายไปหลายคนขนาดนั้นแล้ว ยังตกต่ำไม่พอเท่าชีวิตนายชีวิตเดียวอีกเหรอห้ะ”
“จารวี บ้านพูลสวัสดิ์ของเธอมีคนตายไปกี่คนมันใช่เรื่องของผมหรือไง ทำไมเธอต้องทำให้ผมดูสกปรกด้วย เพราะเธอเห็นผู้ชายคนอื่นเลยจะกำจัดผมทิ้งใช่รึเปล่า” ยศพลมองเธอด้วยสายตาดุดันอำมหิต
“ได้ ในเมื่อนายจำไม่ได้ ฉันจะทำให้นายจำได้เอง นายฆ่าลุงของฉันรึเปล่า”
พอจารวีนึกถึงการตายอย่างทรมานของคุณลุง เธอก็ฮึกเหิมขึ้นมา “คือนาย นายตั้งใจจะซื้อบริษัทยาหวน นายคิดว่าฉันไม่รู้เหรอ วันนั้นที่นายหมั้นกับพี่สาวฉัน นายก็เตรียมที่จะซื้อบริษัทยาหวน นายซื้อบริษัทยาหวน คิดจะเล่นกับความรู้สึกของพี่พิน เพื่อที่จะโจมตีคุณลุง ให้เขาล้มละลาย และโดนเจ้าหนี้ตามเก็บหนี้และถึงขั้นฆ่าคุณลุง ก่อนคุณลุงตายนายก็ทรมานเขาจนอยู่สภาพแบบนนั้น…” จารวีพูดออกไปทั้งน้ำตา ยศพลก็กำลังมองเธออยากเยือกเย็น
“ใช่ ผมฆ่าเขาเองแหละ” ยศพลไม่ปกปิดความชั่วร้ายเลวทรามของตนเลยแม้แต่น้อย
“เธอพูดถูกแล้ว ผมซื้อยาหัวมา สร้างกับดักให้เฉลิมชัยถูกเจ้าหนี้ไล่ฆ่า แล้วผมนี่แหละที่ยิงมันตาย จารวี เธอฉลาดมากเลย แต่น่าเสียดาย ที่ไม่ได้เอาความฉลาดไปใช้ให้ถูกทาง”
เมื่อเห็นใบหน้าหัวเราะเยาะของยศพล ในใจของจารวีก็ยิ่งรู้สึกตกต่ำลง เดิมทีเธอคิดว่า อย่างน้อย ยศพลจะมีเหตุผลเล็กๆน้อยๆ อย่าเช่น เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ หรือไม่ก็ ไม่ว่าจะตายยังไงก็ไม่ยอมรับ ถ้าเป็นเช่นนั้น ในใจของเธออาจจะไม่รู้สึกเจ็บปวดเพียงนี้
“งั้นพี่ฉันก็ตายเพราะฝีนายด้วยเหรอ”
ยศพลยิ้มอย่างเย็นชาตามเคย “ที่เธอพูดมาก็ไม่ผิด กับผู้หญิงที่ผมไม่ได้ชอบ ผมก็ไม่มีเหตุผลอะไรจะต้องทำดีกับเธอ เธอตายก็เพราะเข้ามายุ่งกับเรื่องของผม แน่นอน ว่าเธอไม่ได้ตายเพราะผมโดยตรงหรอก ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นเหตุผลแบบทางอ้อมมากกว่า แล้วไง จาวี ในใจเธอไม่เคยมีตำแหน่งให้ผมอยู่เลยจริงๆเหรอ”
เขามองเธอด้วยสายตาที่เหมือนกับมองทะลุเธอได้
ผู้หญิงคนนี้ ไม่ได้มีเขาอยู่ในใจจริงๆ
จารวีร้องไห้จนสำลัก “ยศพล นายมันปีศาจ นายมันคนเลว ในเมื่อคนในบ้านพูลสวัสดื์ทุุกคนสมควรตาม แล้วทำไมนายไม่ฆ่าฉัน ฉันบอกนายไปตั้งแต่แรกแล้ว ว่าถ้านายไม่ฆ่าฉันนายจะเสียใจที่ปล่อยให้ฉันรอด”
"ได้ งั้นเธอฆ่าผมสิ จารวี เธอฆ่าผมได้นี่…."ยศพลยิ้มอย่างเกรียด…” ยศพลยิ้มอย่างเหยียดหยาม
จารวีมองเขาด้วยน้ำตา มีดผลไม้ในมือของเธอสั่นอยู่ตลอดเวลา
“พ่อ กับแม่ของฉัน คงไม่ได้ตายด้วยน้ำมือของนายใช่มั้ย?”
ยศพลคิ้วบิดเล็กน้อย “จารวี จะบ้ารึเปล่า พ่อแม่เธอตายเมื่อสิบปีก่อน ตอนนั้นผมอายุสิบกว่าปีเอง ผมจะฆ่าพวกเขาได้มั้ย ก็ได้ ในเมื่อหมาป่าตาขาวอย่างเธอต้องการจะกัดผม ก็ลงมือซะเลยสิ”
"งั้นทำไมนายต้องทำร้ายคุณลุง ทำไมนายต้องทำร้ายพี่พิน ทำไมนายต้องทำร้ายฉันด้วย…"
จารวีตะโกนออกมาอย่างบ้างคลั่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย