เล่ห์รักเมียตัวน้อย นิยาย บท 83

ตอนที่82 รักคือยาพิษ

จารวีลังเลสักพัก ไม่รู้ว่าทำไมคำพูดของสุรีย์วัลย์มันถึงยังวนเวียนอยู่ในหัวของเธอ

‘จารวี แกคิดที่จะแย่งมนต์ไปจากฉันใช่ไหม!!’

จารวีเงียบไปสักพัก “เอ่อ..พี่มนต์คะ วีไม่ค่อยสะดวก เราคุยกันที่นี่ได้ไหมคะ”

“วี เป็นเพราะเขาไม่ยอมให้วีกับพี่พบกันใช่ไหม หรือเป็นเพราะวีเกลียดพี่”

นัยน์ตาดำคล้ำของมนต์ตรีเต็มไปด้วยความวิตกกังวล

“ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ มันไม่ใช่แบบที่พี่มนต์คิดหรอกค่ะ”

ทันใดนั้น มนต์ตรีก็เอื้อมมือไปจับมือของเธอ เขาจ้องเธออย่างไม่วางตา “วี มองพี่สิ ทำไมวีต้องคอยหลบหน้าพี่ด้วย วีกลัวว่าพี่จะทำร้ายวีหรอ!วี พี่ก็แค่อยากมองวีแบบนี้ เหมือนเมื่อตอนเด็กๆ..”

น้ำเสียงของมนต์ตรีร้อนรน ใบหน้าคมคายกลัดกลุ้ม เขาเกลียดตัวเองที่ไม่สามารถควักหัวใจของตนออกมาให้จารวีดูได้

จารวีนิ่งไปสักพัก “ก็ได้ค่ะ วีขอโทษนะคะพี่มนต์ วีแค่กลัวว่ามันจะส่งผลกระทบต่อชีวิตของพี่”

“ไม่เลยวี วีไม่เคยทำอะไรที่กระทบกับชีวิตพี่เลย เป็นเพราะมีวีอยู่ พี่ถึงมีชีวิตอยู่ได้อย่างเต็มอิ่มแบบนี้”

จารวียิ้มบางๆ แล้วจึงเข้าไปนั่งในรถของมนต์ตรี

ตัวรถขับเคลื่อนไปยังรอบๆตัวเมืองS แล้วจึงขับมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง

ไม่นานนัก ตัวรถแล่นไปตามแนวทะเล แล้วจึงขับเข้าไปยังถนนที่มีป่าสองข้างทาง เมื่อขับพ้นบริเวณเขตป่าออกมา ตัวรถเคลื่อนที่วนเวียนไปตามแนวสันเขา

รถแล่นไปอย่างช้าๆ มองเห็นแมกไม้สีเขียวอยู่ไกลลิบ เสียงนกกระจอกขับขานไพเราะกังวาน ดังเล็ดลอดเข้ามาทางหน้าต่างอยู่เป็นระยะ

ทัศนียภาพเขียวขจีของภูเขา สวยงามราวกับม้วนภาพวาดที่ถูกจับกางออกอยู่ตรงหน้าของเธอ

สุดท้าย ตัวรถหยุดลงตรงสันเขา มนต์ตรีจูงมือของจารวีเดินออกมา

เขาทั้งสองเดินไปตามแนวป่า เดินขึ้นบันไดไม้ที่สวยงามและสงบเงียบ เมื่อเดินมาเรื่อยๆจนพ้นแมกไม้เขียวขจี

คฤหาสน์ไม้หลังใหญ่ ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างละเอียดงดงามทั้งหลัง ก็ปรากฏแก่สายตาของจารวี

คฤหาสน์หลังนี้ เป็นคฤหาสน์วัสดุไม้ ดูเหมือนกับไข่มุกที่ถูกฝังลงบนหน้าผาที่สูงชันบนสันเขา ตัวอาคารและภูเขาผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ดูกว้างขวางสะดวกสะบาย เป็นธรรมชาติที่วิเศษเหนือคำบรรยาย

จารวีตะลึงงัน มนต์ตรียื่นมือไปผลักรั้วไม้ให้เปิดออก พลางเอ่ยอย่างเบิกบานใจ “วี เข้ามาสิ!”

“ค่ะ!”

เดินผ่านห้องโถงใหญ่ของบ้านไม้ชั้นหนึ่งออกไปยังห้องนั่งเล่นใหญ่โตนอกบ้าน เหนือศีรษะคือหลังคากระจกใส สามารถปิดเปิดเองได้โดยอัตโนมัติ ตรงกลางของห้องวางตกแต่งไว้ด้วยโซฟาตัวยาว เมื่อนั่งอยู่ที่นี่ สามารถมองเห็นทะเลที่อยู่ไกลสุดลูกหูลูกตา

นกแขกเต้าสีแดง บินร่อนเล่นลมอยู่บนเนินเขา สีของมันสวยงามราวกับเปลวเพลิง

วิวทิวทัศน์ที่งดงามเช่นนี้ สามารถทำให้คนตกตะลึง

“วี บ้านหลังนี้พี่เพิ่งซื้อมา ตั้งใจสร้างที่ที่โรแมนติกแบบนี้ให้วี วีชอบไหม!”

สายตาลึกซึ้งของมนต์ตรีจับจ้องไปยังจารวีอย่างไม่วางตา เขาค่อยๆดึงมือเล็กของเธอเขาหาตัว จารวีใจเต้นโครมครามราวกับจะทะลุออกมานอกอก

เธอหวั่นไหวเป็นอย่างมาก นี่เป็นบ้านพักตากอากาศแบบที่เธอใฝ่ฝัน

จารวีรีบหันกลับไป เธออยากจะนำพาหัวใจที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสุข ชื่นชมสถานที่นี่ให้ครบทุกตารางนิ้ว

ที่พักตากอากาศหลังนี้มีสองชั้น นอกจากชั้นแรก จะมีห้องนั่งเล่นทรงกลมขนาดใหญ่นั้นแล้ว ก็ยังมีห้องอ่านหนังสือ ห้องครัว ห้องน้ำ และห้องซักผ้า ส่วนด้านนอกคือสวนดอกไม้ขนาดเล็ก

ด้านในสวนดอกไม้ เต็มไปด้วยดอกกุหลาบเหล้าแชมเปญ สีเหลืองสีชมพูอ่อน บานสะพรั่งอยู่เต็มแปลง กลิ่นหอมหวลลอยอบอวนไปตามลม

ชั้นที่สอง คือห้องนอนทรงกลม ตรงกลางมีเตียงนอนที่หรูหรามีระดับ ห้องทั้งห้องถูกประดับตกแต่งอย่างประณีตงดงามด้วยรูปแบบของเจ้าหญิง แม้แต่เตียงนอน หรือหน้าต่างบานยาวจรดพื้นรอบๆห้อง ก็ล้วนตกแต่งด้วยรูปแบบของเจ้าหญิง

สถานที่ที่เป็นกลิ่นอายของสาวน้อยนี้ งดงามราวกับหลุดเข้าไปในโลกจินตนาการ

นี่ล้วนเป็นสิ่งที่เธอต้องการ

พี่มนต์.. เขาคือพี่มนต์ของเธอ เขารู้ว่าเธอชอบอะไรและเข้าใจเธอดีเสมอ อีกทั้งยังให้เธอได้ทุกอย่างที่ต้องการ

จารวีถอดรองเท้า ก้าวขาไปเหยียบลงบนพรมขนแกะที่อ่อนนุ่ม จากนั้นจึงนั่งลงที่ด้านหน้าของหน้าต่างบานกว้างที่ยาวจรดพื้น สูดกลิ่นหอมอ่อนๆของดอกไม้ เธอเหม่อมองออกไปยังทะเลด้านหน้า พลันรู้สึกว่าน้ำตาจะไหลลงมาเสียดื้อๆ

เธอหันตัวกลับมา โผเข้าสู่อ้อมกอดของมนต์ตรี แล้วจึงปล่อยโฮออกมาอย่างตื้นตันใจ

“พี่มนต์ วีไม่ได้ฝันไปใช่ไหมคะ!”

มนต์ตรีโอบกอดร่างบางน่าทะนุถนอมไว้แน่น มือเรียวยาวของเขาสอดเข้าไปในผมของเธอ พลางสางผมยาวนุ่มสลวยไปมาอย่างเบามือ

น้ำเสียงของเขานุ่มนวลราวกับเวทมนตร์ที่ทำให้คนลุ่มหลง “วีไม่ได้ฝันไปซะหน่อย พี่ตั้งใจสร้างที่นี่ให้วีจริงๆ ถ้าวีชอบ วีก็อยู่ที่นี่ได้นานเท่าที่อยากอยู่เลยนะ!”

ภายใต้เสื้อผ้าบางๆที่กั้นอยู่ เมื่อร่างกายกำยำของเขารู้สึกถึงร่างกายอันอ่อนนุ่มของเธอ เขาก็ชะงักไปครู่หนึ่ง

จารวี..คือผู้หญิงที่เขาเฝ้าฝันมานานหลายปี ในที่สุดตอนนี้เธอก็มาอยู่ในอ้อมกอดของเขา ราวกับแมวน้อยน่ารักแสนเชื่อง

หัวใจของเขาก็เต้นระส่ำ

จารวีนิ่งเงียบไปสักพัก พลันเธอก็ถูกเสียงหัวใจที่เต้นรัวเร็วของเขาปลุกให้ตื่นจากภวังค์

เธอกระถดตัวออกจากอ้อมกอดของเขาอย่างตื่นตระหนก

นี่เธอกำลังทำอะไร เธออาลัยอาวรณ์อ้อมกอดอันอบอุ่นของเขางั้นหรอ!ไม่นะ ไม่ได้เด็ดขาด เธอจะทำแบบนี้ไม่ได้นะจารวี!พี่มนต์เขามีคนของเขาอยู่แล้ว เธอจะเข้าไปทำลายความสุขของเขาไม่ได้!

“ขอโทษค่ะพี่มนต์ วี...”

ใบหน้าเล็กของจารวีขึ้นสีแดงระเรื่อ แพขนตางอนที่มีหยดน้ำตาเกาะอยู่สั่นไหวเล็กน้อย ริมฝีปากแดงชุ่มชื้นราวกับกลีบกุหลาบนั้น ช่างงดงามดั่งหินโมราที่แสนวิเศษ

มนต์ตรีลำคอแห้งผาก เขาก็เป็นเพียงผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น เขาหันหลังหนีเธออย่างทำตัวไม่ถูก มนต์ตรีประสานมือเข้าด้วยกันแน่น เขากระแอมไอออกมาอย่างเก้อเขิน เสียงทุ้มสั่นเล็กน้อย “เอ่อ..วีพักก่อนเถอะ เดี๋ยวพี่จะไปทำอะไรให้ทาน”

จารวีตอบรับในลำคอเบาๆ เธอเดินไปริมที่หน้าต่าง ดันบานกระจกให้เปิดออก เพื่อให้สายลมเย็นๆพัดพาหัวใจที่กลัดกลุ้มของตนไป

เธอรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นโครมครามอย่างบ้าคลั่ง

ทำอย่างไร เลือดฝาดสีแดงบนใบหน้าเล็กก็ไม่หายไปเสียที

ปาลทิ้งสนุขไว้ตามคำเจ้านาย แล้วจึงเดินกลับออกไป

เวลานี้ แสงของพระอาทิตย์ยามอัสดงสะท้อนบนพื้นผิวน้ำทะเล ทำให้มีสีสันหลากสีสวยงาม จารวีมองวิวตรงหน้าอย่างตกตะลึง รู้ตัวอีกทีก็รู้สึกเหมือนมีอะไรเลียเข้าที่ฝ่าเท้า เธอส่งเสียงร้องอย่างตกใจ เมื่อก้มลงไปดูจึงพบว่าเป็นสุนัขตัวสีขาว

มนต์ตรีหัวเราะพลางเดินเข้ามา “มันชื่อโจบิ เป็นหมาที่ฉลาดมากๆเลยล่ะ!โจบิ เรียกหม่ามี๊ซิ”

โจบิส่งเสียงเห่า ‘โฮ่งๆ’ ตามเขาอย่างแสนรู้

“ฮ่าๆ ดูท่าว่าโจบิจะชอบวีแล้วล่ะ” มนต์ตรียิ้มพลางหยอกเย้าเจ้าโจบิ

“นี่แหนะ!”

จารวีหยิบตุ๊กตาบนโซฟาโยนไปอีกทางเพื่อหยอกล้อกับโจบิบ้าง ทุกครั้งที่เธอโยนไป โจบิก็จะวิ่งไปคาบมันกลับมาคืนให้เธออย่างรวดเร็ว

มนต์ตรีจ้องมองสาวน้อยตรงหน้าอย่างตั้งใจ ไม่ว่าเขาจะมองอย่างไรก็ไม่พอ...

“พี่มนต์ เย็นมากแล้ว วีต้องกลับแล้วล่ะค่ะ!”

จารวียิ้มพลางเอ่ย โจบิยังคงงับเข้าที่ชายกระโปรงของเธอ เพราะยังอยากให้เธอเล่นกับมันอยู่

มนต์ตรียืนนิ่งไม่ขยับ “วี คืนนี้นอนที่นี่เถอะ โจบิชอบวีมากเลย”

ผู้ชายกับผู้หญิงอยู่ด้วยกันสองต่อสอง จารวีคิดว่าอย่างไรก็ดูไม่เหมาะสม

“ไม่ได้หรอกค่ะพี่มนต์ เดี๋ยวไว้วันหลังวีค่อยมาใหม่นะคะ”

มนต์ตรียื่นมือออกไปดึงเธอเข้ามากอดอย่างฉับพลัน เขากอดเธอไว้แนบแน่น

“วี อย่าเพิ่งกลับเลยนะ นอนค้างแค่คืนเดียวเอง พี่สัญญา ว่าพี่จะไม่รังแกวี!”

สิบปีแล้ว เขารอเธอมานานถึงสิบปี เพียงแค่ขอเธอคืนเดียว ทั้งยังยอมรับปากว่าจะไม่รังแกเธอ

ใจของจารวีค่อยๆโอนอ่อนตาม ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากอยู่ที่นี่ แต่เธออยู่ไม่ได้

เธอกลัวว่าตัวเองจะถลำลึกลงไปกับความอ่อนโยนของมนต์ตรีจนถอนตัวไม่ขึ้น ความรักก็เหมือนยาพิษ มันสามารถทำให้คนติดเป็นนิสัย ทำให้คนไม่สามารถยับยั้งความต้องการได้ มันสามารถทำให้คนเป็นบ้า...

และยิ่งน่ากลัวไปกว่านั้นก็คือ... ตอนนี้เธออยากจะอยู่ที่นี่มากๆ เมื่ออยู่ในอ้อมกอดของเขา เธอรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่เต็มไปด้วยความน่าหลงใหล แทนที่เธอจะปฏิเสธเขา แต่กลับถกเถียงกับหัวใจตัวเอง

เขาวิงวอนเอ่ยออกมาที่ข้างใบหูของเธอ “แค่คืนนี้คืนเดียวนะวี!พี่อยากดูดาว ดูพระอาทิตย์ขึ้นกับวี คำขอนี้ของพี่มันเกินไปหรือเปล่า ถ้าพ้นจากวันนี้ไป พวกเราอาจจะไม่มีโอกาสแบบนี้อีกแล้วนะ!”

จารวีใจไม่แข็งพอที่จะปฏิเสธ การได้ดูดาว ดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกัน เป็นโอกาสหนึ่งเดียวของชีวิต

คนที่เธอรอมาถึงสิบปี เธอไม่มีวิธีที่จะปฏิเสธเขา

เนิ่นนาน จารวีหมุนตัวหันหลังให้เขา เธอยิ้มพลางพยักหน้า “ค่ะ วีอยู่ก็ได้ แค่คืนเดียวนะคะ!”

ครั้งนี้เธอยอมที่จะเสี่ยง ต่อให้พรุ่งนี้ดวงอาทิตย์ไม่ขึ้น เธอก็ยังอยากจะอยู่กับพี่มนต์...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย