ตอนที่98 แต่งงานกันดีไหม
จารวีจ้องมองผู้หญิงคนนั้นสักพัก รู้สึกว่าคุ้นมาก แต่เป็นเพราะว่าเธอสวมแว่นดำบดบังใบหน้า จารวีก็เลยไม่แน่ใจว่าเธอคือใคร
เมื่อเธอเห็นว่าคุณพ่อเดินเข้ามาใกล้ถึงแล้ว เธอจึงรีบร้อนหมุนตัวกลับไป พลางเดินทะลุไปยังด้านหน้าของเธอคันอื่น ทั้งยังเดินทะลุเข้าไปในช่องทางเดินรถ
หัวใจของเธอเต้นระส่ำ มิน่าล่ะคุณพ่อถึงไม่รับโทรศัพท์เธอ ที่แท้ก็นัดกับคนรักของตนไว้นี่เอง
จารวียืนอยู่ที่ข้างตัวรถ เธอกดริมฝีปากล่าง พลันน้ำตาก็ค่อยๆไหลลงมา
คิดๆดูแล้ว ตลอดเวลาสิบปีมานี้ที่คุณพ่อไม่กลับมา บางทีอาจเป็นเพราะผู้หญิงคนอื่น ทำไมก่อนหน้านี้เธอไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยนะ นอกจากเหตุผลนี้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ทำให้คุณพ่อไม่กลับบ้าน
โง่มากเลยจารวี เธอมันโง่!เรื่องแค่นี้ทำไมถึงคิดไม่ได้ล่ะ?
หัวใจของจารวีค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นความสิ้นหวัง
“วี ร้องไห้ทำไมหรอ?”
ไม่ง่ายเลยที่มนต์ตรีจะหาที่จอดรถได้ เขาออกมาเดินตามหาจารวีอยู่นานสองนานถึงหาเจอ เมื่อเห็นจารวีร้องไห้ พลันหัวใจของเขาก็เจ็บปวด เขายื่นมือออกไปเช็ดน้ำตาให้เธอเบาๆ
“กลัวที่จะเจอกลับแม่ของพี่หรอ ถ้างั้น เราคิดก่อนก็ได้นะ รอให้อารมณ์ของวีมั่นคงก่อนแล้วค่อยไปพบท่านดีไหม”
ตอนนี้จารวีก็ไม่มีอารมณ์ที่จะไปพบคุณน้ารนารีย์แล้ว
เธอพยักหน้ารับเบาๆ อารมณ์ของเธอตกต่ำอย่างถึงที่สุด
“วีกลัวว่าสภาพแบบนี้ของวี จะทำให้คุณน้ารนารีย์ไม่ชอบ พวกเรากลับกันก่อนเถอะนะคะ”
มนต์ตรีตอบตกลงเธออย่างห่วงใย “ถ้างั้น เราไปอยู่ที่บ้านพักตากอากาศกันสักวันไหม ที่นั่นบรรยากาศดี สามารถทำให้วีผ่อนคลายขึ้นมาได้นะ”
ในใจของจารวีสับสน เธอไม่ได้คัดค่นข้อเสนอของมนต์ตรี “โอเคค่ะ”
เพียงไม่นาน รถก็พาจารวีแล่นออกนอกตัวเมือง มุ่งหน้าไปยังเขตป่าไม้ที่เขียวขจี
แมกไม้สีเขียวเต็มๆตา ทำให้จิตใจของเธอดีขึ้นมาก
ไม่นานนัก เธอก็ลืมเรื่องทุกข์ใจนั้นไป
จารวีเพิ่งจะเดินเข้าไปถึงบันไดที่ด้านหลังของบ้านพักตากอากาศ พลันก็มีเงาสีขาวโผเข้ามาใส่ อีกนิดก็ชนจารวีล้มแล้ว ร่างบางของเธอโงนเงนไปมา โชคดีที่มนต์ตรีอยู่ที่ด้านหลังของเธอ เขาจึงใช้แรงรองรับร่างบางไว้
โจบิเป็นสุนัขพันธ์ใหญ่ แรงก็เยอะ มันชอบจารวีมาก ล้อมหน้าล้อมหลังอยู่ที่ข้างกายของเธอ ทั้งยังเลียขากางเกงของเธอไม่หยุด จารวีหัวเราะอย่างอารมณ์ดี เธอคุกเข่าลง พลางลูบขนนุ่มนิ่มของมัน “คิดถึงฉันหรือเปล่าฮะ? โจบิ”
มนต์ตรีถอดเสื้อสูทวางพาดไว้บนแขนข้างหนึ่ง เขามองดูจารวีหยอกเล่นกับโจบิอย่างอารมณ์ดี ทั้งคนทั้งสุนัขเล่นวิ่งไล่จับกัน จนกระทั่งวิ่งเข้าไปยังห้องรับแขกกลางแจ้ง จารวีถอดรองเท้าออกพลางกระโดดขึ้นโซฟา
โจบิไล่ตามไป พลางเลียไปที่เท้าเล็กๆของเธอ
มนต์ตรียิ้มทั้งใบหน้า
จารวีกำลังเล่นอย่างสนุกสนาน มนต์ตรีจึงหยิบกระเป๋าเป้ของเธอขึ้นมาให้ โทรศัพท์ที่ด้านในกำลังส่งเสียงดัง
“โทรศัพท์ของวี...”
“อ่อ!” จารวีรับกระเป๋ามาถือไว้ เธอรูดซิปออกแล้วจึงควักโทรศัพท์ออกมา
บนหน้าจอโชว์เบอร์ของผู้เป็นพ่อไว้อย่างชัดเจน เธอลังเลสักพัก จึงกดรับโทรศัพท์
“ค่ะคุณพ่อ”
“วี วีอยู่ไหนหรอลูก วันนี้พ่อมีธุระเลยไม่ได้รับโทรศัพท์ วีโทรหาพ่อมีอะไรหรือเปล่า” จารวีเงียบไปสักพัก สายตามองไปข้างหน้า แล้วจึงเอ่ยออกไปเบาๆ “เมื่อวานคุณพ่อพูดอะไรกับพี่มนต์หรอคะ”
จริงๆแล้วสิ่งที่เธออยากจะถามไม่ใช่เรื่องนี้ เธออยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือใคร เธออยากรู้ว่าทำไมคุณพ่อถึงไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้นได้
“อ่อ พ่อทำไปก็เพื่อวีนะ ตอนนี้วียังเด็ก ยังไม่ถึงเวลาที่จะมีความรัก”
“วีเด็กหรอคะ วีจะยี่สิบอยู่แล้วนะคะ”
“ยี่สิบก็ถือว่าเด็ก!!” น้ำเสียงของชยรพแข็งกร้าวขึ้นมาทันที
“อ้อ งั้นแสดงว่าต้องอายุเท่าคุณพ่อสินะคะ ถึงจะเหมาะกับการมีความรัก!” จารวีจงใจพูดเสียดแทง
ชยรพไม่คิดว่าจารวีจะพูดจากับเขาแบบนี้ เขาตะลึงงัน
“วี ลูกอยู่ไหน พ่อจะไปรับลูกกลับบ้าน มีเรื่องอะไรก็มาคุยกันที่บ้าน”
“คุณพ่อคะ การอยู่ของวีมันเป็นอุปสรรคต่อการชีวิตของพ่อใช่ไหมคะ?”
“วี นี่ลูกกำลังพูดเรื่องอะไร วีเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อ วีจะกีดขวางชีวิตพ่อได้ยังไง”
“มันไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอกค่ะคุณพ่อ ตอนนี้วีโตแล้ว ไม่ใช่เด็กๆที่สั่งให้ทำอะไรก็ทำตาม คุณพ่อไม่ต้องใช้คำพูดที่สวยหรูมาหลอกวีหรอกค่ะ วีอยากรู้เรื่องจริง” จารวีถือโอกาสพูดมันออกมาทั้งหมด
หัวใจของเธอเต้นรัวเร็ว เธอไม่รู้ว่าผลลัพธ์ของเรื่องนี้มันจะออกมาเป็นแบบไหน
เธอรู้ว่าบางทีตัวเองอาจจะกำลังเดิมพันกับอะไรอยู่
“วี วีอย่าสงสัยความรักที่พ่อมีต่อวี”
“แล้วคุณแม่ล่ะคะ? คุณพ่อรักท่านไหม” จารวีพูดออกมาอย่างจี้จุด ในวันที่คุณแม่เสีย คุณพ่อคงจะไม่ได้อยู่ที่ข้างกายคุณแม่แน่ๆ แต่คงมัวแต่มีความสุขอยู่ที่ข้างกายผู้หญิงของคุณพ่อ เธอไม่กล้าคิดว่าคุณพ่อเป็นคนแบบนั้น
“วี กลับมาบ้านก่อนเถอะนะ วีกลับมาคุยกับพ่อที่บ้าน” ชยรพพยายามเบี่ยงเบนหัวข้อสนทนานี้
“คุณพ่อกำลังทำให้วีเจ็บปวด หลายปีมานี้ ที่คุณพ่อไม่ปรากฏตัวออกมา ก็เพราะคุณพ่อไม่รักคุณแม่ใช่ไหม คุณพ่อไม่ชอบคุณแม่ แล้วก็ไม่ชอบวีด้วย ก็เลยหลบหนีพวกเรามาตลอด จริงๆแล้วพ่อไม่อยากใช้ชีวิตอยู่กับพวกเรา”
นัยน์ตากลมโตของจารวีเต็มไปด้วยการเฝ้ารอคอยอย่างเบิกบาน
มนต์ตรีตื่นเต้นดีอกดีใจเป็นอย่างมาก เขาใช้แรงโอบกอดจารวีไว้แน่น พลางวิ่งไปรอบๆห้องโถง “วีจะได้เป็นเจ้าสาวแล้ว”
จารวีถูกความสุขสมแผ่ปกคลุมไปทั่วทั้งร่าง หัวใจของเธอมีความสุขราวกับนกน้อยที่กำลังโผบินขึ้นไปบนฟ้า
ฝันร้ายสิ้นสุดลงแล้ว เธอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่
“ถ้าเราจัดงานแต่งงานเสร็จแล้ว ไว้เราไปฮันนีมูนที่เกาะบาหลีกันนะ แล้วก็ไปลงหลักปักฐานอยู่ที่อเมริกา จากนั้นก็มีลูกกันสักโหลเลยเป็นไง
“คุณชายครับ คุณชาย” ปาลวิ่งเข้ามาจากด้านนอก โจบิส่งเสียงเห่ากังวาน ราวกับว่ามันกำลังจะบอกว่ามีคนเข้ามา
มนต์ตรีคลายอ้อมกอดจากจารวีออก “มีอะไรหรอ?”
สายตาของปาลเหลือบมองไปทางจารวี เขาไม่พูดจา สีหน้าของมนต์ตรีเคร่งขรึม “คุณจารวี ไม่ใช่คนนอก มีอะไรก็สามารถพูดต่อหน้าเธอได้
“เอ่อ..คุณสุรีย์วัลย์มาน่ะครับ ” ตอนนี้เธอรออยู่ที่ด้านนอก ผมกันไว้ยังไงก็กันไม่อยู่” คำพูดของปาลยังไม่ทันจบ เสียงย่ำบนส้นสูงหนักๆก็ดังเข้ามาจากด้านนอก
เพียงไม่นาน ร่างเพรียวระหงของสุรีย์วัลล์ก็ปรากฏแก่สายตา
ตั้งแต่ที่เธอทะเลาะกับมนต์ตรีที่งานเลี้ยงวันนั้น เธอคิดว่ามนต์ตรีจะมาง้อเธออย่างอ่อนโยนเหมือนเมื่อก่อน แต่คิดไม่ถึงว่าเธอรอเขามานานถึงครึ่งเดือน จนศีระษะของเธอจะขาวอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังไม่มา
ไม่เพียงแต่ไม่มา ทั้งยังมาอยู่กับยัยผู้หญิงหน้าไม่อายอย่างจารวี
เวลานี้ บนร่างกายของสุรีย์วัลล์ ไม่หลงเหลือท่าทีที่วางอำนาจบาตรใหญ่เหมือนแต่ก่อนแล้ว ความรักทำให้เธอเกิดความพ่ายแพ้
เธอยืนอยู่ตรงนั้น ใบหน้าที่ขาวบริสุทธิ์ไม่เห็นแม้แต่เส้นเลือด ดวงตาของเธอคล้ำลงเล็กน้อย ดูเหมือนว่าไม่ได้นอนมานาน
เธอพรวดพราดเข้าหามนต์ตรี อย่างไม่สนใจจารวีที่ยืนอยู่ตรงนั้น พลางเอื้อมมือออกไปโอบรอบคอของมนต์ตรี
“มนต์ ฉันขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว คุณให้อภัยฉันสักครั้งได้ไหม”
น้ำเสียงของเธออ่อนโยน น้ำตาเอ่อคลอนัยน์ตาสีอัลมอนด์ ดูน่าสงสารยิ่งนัก เขาสามารถทำให้ผู้หญิงที่เย่อหยิ่งในศักดิ์ศรีอย่างเธอยอมเป็นฝ่ายมาขอคืนดีกับเขา เป็นอะไรที่ไม่ง่ายเลย
แต่น่าเสียดาย เธอเดินมาช้าไปหนึ่งก้าว
“มนต์ นึกถึงตอนที่ฉันอยู่ข้างกายคุณมาตั้งหลายปีสิ ให้โอกาสฉันอีกสักครั้งเถอะนะ”
มนต์ตรีค่อยดันสุรีย์วัลล์ออกจากอ้อมกอด พลางยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้เธอ การกระทำของเขาช่างอ่อนโยน
สิ่งนี้ทำให้สุรีย์วัลล์คิดไปไกล เธอคิดว่ามนต์ตรียังคงรักเธอเหมือนเมื่อก่อน ที่เธอแกล้งโกรธที่ไร เขาก็จะมาขอคืนดีอย่างเอาใจ
“เอ่อพี่มนต์ งั้นวีไปก่อนนะคะ พวกคุณคุยกันตามสบายเลยค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย