เล่ห์รักเมียตัวน้อย นิยาย บท 98

ตอนที่97 การแก้แค้นอย่างบ้าคลั่ง

หลายวันมานี้ยศพลเฝ้าสะกดรอยตามเธอตลอด เห็นเธอกับมนต์ตรีอยู่ด้วยกันอย่างสนิทสนม เขาแทบอยากจะฆ่ายศพลให้ตายซะเดี๋ยวนี้

นิรันเอาแต่บอกให้เขาใจเย็น ใจเย็น ใจเย็น!

ผู้หญิงของตัวเองอิงซบอยู่ในอ้อมกอดคนอื่น แล้วเขาจะใจเย็นอยู่ได้อย่างไร

คุณหมอบอกว่าต้องรอให้เธอดีขึ้น ค่อยๆจำเขาในอดีตได้เอง แต่เขารอไม่ไหวอีกต่อไป

ถ้าหากต้องยึดตามวิธีการนี้ ความทรงจำเธอยังไม่กลับมา เธอก็คงขึ้นเตียงกับไอ้มนต์ตรีไปแล้ว

“จารวี เธอจำไม่ได้จริงๆหรอว่าฉันเป็นใคร”

ยศพลเอ่ยด้วยน้ำเสียงวางอำนาจ ราวกับอัธพาล

จารวีส่ายหัวไปมา “ค...คุณเคยช่วยฉันหลายครั้ง แต่...แต่เมื่อก่อนนั้นเราเคยเจอกันหรอ?”

พวกเราเคยพบกันด้วยหรอ? นี่มันคำถามบ้าอะไรกัน พวกเขาไม่ใช่แค่เคยพบกัน แต่ยังเคยขึ้นเตียงด้วยกันเลยต่างหาก

ยศพลเดินเข้าใกล้จารวี มือหนาคว้าตัวเธอมาพิงไว้กับกำแพงรั้ว

“จารวี เธอกำลังพูดบ้าอะไรอยู่ ฉันคือผู้ชายของเธอ เธอรู้ไหมว่าเธอทำให้หัวใจของฉันเจ็บ ไม่คิดเลยว่าเธอจะเอ่ยถามฉันด้วยประโยคนั้น”

พลันในหัวของจารวีก็ปรากฏภาพเหตุการณ์ที่ไม่ดีนั้นขึ้นมาอีกครั้ง เธอสายหัวปฏิเสธอย่างสุดชีวิต “ไม่ ไม่ได้นะ คนรักของฉันคือพี่มนต์”

ยศพลดึงข้อมือเธออย่างบ้าอำนาจ เขาคำรามเสียงดัง “ห่วยแตก มันจะเป็นอะไรก็เรื่องของมัน เธอรีบออกห่างจากมัน แล้วกลับมาหาผม!”

จารวีตะลึงงัน “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ฉันไม่รู้จักคุณ พี่มนต์คือคนรักของฉัน อีกมานานเขาก็มาสู่ขอฉันแล้ว ฉันจะแต่งงานกันเขา คุณนั่นแหละไปให้พ้น”

จารวีปฏิเสธความทรงจำตอนนั้น ราวกับมีสิ่งที่โหดร้ายทารุณมาจู่โจมก็ไม่ปาน เธอไม่อยากเผชิญหน้ากับมัน

เธอเลือกที่จะเชื่อความรักที่บริสุทธิ์งดงามระหว่างเธอกับพี่มนต์เท่านั้น

แต่งงาน!!ไม่คิดว่ายัยผู้หญิงบ้าคนนี้ยังอยากจะแต่งงานกับไอ้มนต์ตรี ช่างไร้สาระสิ้นดี ยศพลแทบอยากจะฆ่าไอ้นายแพทย์คนนั้น ถ้าหากไม่ใช่เพราะคำวินิจฉัยของเขาท ยศพลจะไม่มีวันปล่อยจารวีไปอย่างเด็ดขาด

เขารวบข้อมือทั้งสองข้างของจารวีไว้แน่น พลางเอ่ยกำชับที่ข้างหูของเธอ “ดี งั้นตอนนี้ฉันจะช่วยรื้อฟื้นความทรงจำของเธอให้เอง ว่าใครกันแน่ที่เป็นผู้ชายของเธอ”

เอ่ยจบ มือหน้าของเขาก็ดึงทึ้งกระโปรงตัวยาวของเธอ เขาถกมันขึ้นด้านบน

เผยให้เห็นผิวกายขาวผ่องที่แสนนิ่มนวล ถึงแม้ที่ตรงนี้จะมืดมิด แต่ก็ยังอยู่ติดกับถนน

การจู่โจมของเขาทำให้จารวีตกใจจนแทบสิ้นสติ เธอออกแรงดิ้น “ออกไป ไอ้สารเลว ไอ้คนไร้ศีลธรรม ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!!”

ถ้อยคำด่าทอเหล่านั้นของจารวีทำให้ยศพลโมโหจนแทบคลั่ง เขาถูกล้อมรอบไปด้วยโทสะ พลันเขาก็จับขาทั้งสองข้างของจารวียกขึ้น พร้อมกับดันความเป็นชายไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

ความเจ็บปวดราวกับร่างกายจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆรุกรานเข้ามา ปวดร้าวอย่างถึงที่สุด

“ร้องสิ ร้องอีก ร้องเรียกให้คนมาดูว่าเธอถูกฉันขี่ยังไง” มือเล็กของจารวี ทุบตีเขาอย่างอ่อนแรง

ร่างกายของเขาค่อยๆเร่งจังหวะอย่างดิบเถื่อน ค่อยๆทำให้ร่างกายของเธอฉีกขาดไปทีละน้อย

“ยศพล ไอ้คนชั่ว ไอ้คนสารเลว”

ยศพลจับจารวีพลิกตัว และเข้าทางข้างหลังของเธอแทน ยิ่งเธอดิ้นพล่านมากเท่าไรเขายิ่งมีความสุข เขาอดมาหลายวันขนาดนี้

ในที่สุดความอัดอั้นของเขาก็ได้รับการปลดปล่อย ยศพลไม่รู้ว่ายัยผู้หญิงคนนี้ใช้เวทมนตร์อะไรกับเขา เพราะหลังจากที่ได้ลิ้มรสความหวานหอมจากเธอ เขาก็ไม่ได้มีความสนใจในตัวของผู้หญิงคนไหนอีกเลย

ทุกๆวันเขาได้แต่มองเธอเดินผ่านหน้าเขาไปมา รสชาติที่ได้แค่มองแต่กินไม่ได้ ทำให้เขายิ่งบ้าระห่ำเป็นทวีคูณ

เมื่อได้ยินจารวีตะโกนชื่อของตนออกมา เขาครางเสียงต่ำ “อ้า”

หลังจากเสร็จกิจ ยศพลจับจารวีพลิกตัวกลับมา พลางยื่นมือไปจับที่ปลายคางของเธอ

“ดูเหมือนว่าความทรงจำของเธอจะกลับมาแล้ว ก็ดี ฉันจะบอกอะไรเธอให้นะ ฉันไม่มีวันปล่อยเธอไปเด็ดขาด เธอต้องเป็นผู้หญิงของยศพลเพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่ใช่ของคนอื่น เข้าใจไหม!”

จารวีเหม่อลอย เธอร้องไห้สะอึกสะอื้น ในสมองของเธอสับสน เธอไม่รู้ว่าควรจะเดินออกไปจากความมืดมนต์นี้ยังไงดี

หลังจากที่เธอกอบกุมกระโปรงที่ขาดวิ่นกลับถึงบ้าน เธอไม่เห็นแม้แต่เงาของคุณพ่อกับพี่มนต์ เธอรีบก้าวเขาไปในห้องนอนของตัวเอง พลางนอนฟุบลงบนเตียงและร้องไห้ไม่หยุด

เป็นอีกครั้งที่ร่างกายของเธอถูกเขาทำให้สกปรก เธอไม่มีทางให้อภัยร่างกายที่สกปรกโสโครกของตัวเอง

ขอโทษนะคะ พี่มนต์ ขอโทษจริงๆ

พลันโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น จารวีเช็ดน้ำตาพลางกดรับโทรศัพท์

“วี พี่ขอโทษนะ เมื่อสักครู่พี่ใจร้อนไปหน่อยก็เลยรีบกลับ พี่ขอโทษจริงๆ วีห้ามทะเลาะกับคุณลุงชยรพเพราะพี่เด็ดขาดเลยนะ”

อะไรนะ? พี่มนต์ออกไปเมื่อสักครู่ใจงั้นเหรอ ถ้างั้นเขาเห็นเธอถูกยศพลกระทำอยู่บนกำแพงเมื่อสักครู่ไหมนะ? หัวใจของจารวีเต้นรัวเร็วจนแทบจะทะลุออกมา พลันเธอก็ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

“พี่มนต์ พี่กับคุณพ่อเกิดอะไรกันขึ้นหรอคะ” จารวีพยายามเก็บซ่อนน้ำเสียงที่ขี้ขลาดของเธอไว้

“ฮ่าๆๆ ไม่มีอะไรหรอกวี ก็แค่คุณลุงไม่เห็นด้วยที่เราจะแต่งงานกันนะ ท่านบอกว่าวียังเด็ก พี่ก็เลยพูดอะไรที่มันกระด้างกระเดื่องใส่คุณลุงน่ะ ท่านก็เลยไล่พี่ออกมา”

อันที่จริงแล้ว ชยรพตะโกนไล่ให้เขาไสหัวออกไปต่างหาก เขารับไม่ไหว ก็เลยยอมที่จะถอยออกมา

หลังจากออกมาแล้ว เขากลับรู้สึกผิดหวังอย่างมหันต์

“พี่มนต์ ขอโทษนะคะ วีรู้สึกว่าบางทีพวกเราอาจจะไม่ควรอยู่ด้วยกันจริงๆก็ได้ ทั้งคุณพ่อของวี และคุณลุงยงยศล้วนไม่เห็นด้วย พวกเรา....”

“วี ฟังพี่นะ วีอย่าพูดแบบนี้ได้ไหม ถ้าแม้กระทั่งตัววีเองก็ถอดใจ พี่คงจะทุกข์ทรมานมาก” มนต์ตรีเอ่ยออกมาอย่างเจ็บปวด น้ำเสียงของเขาเหนื่อยล้า ดูเหมือนว่าเขากำลังพยายามสะกดกั้นอารมณ์ของตัวเอง

“พี่มนต์....” จารวีไม่กล้าพอที่จะเล่าเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นกับตัวเองให้เขาฟัง “โอเคค่ะ วีขอโทษนะคะ วีผิดเอง ถ้างั้น...วีนอนแล้วนะคะ”

“ถ้างั้นคุณลุงยงยศจะยอมฟังคำพูดของท่านไหมคะ”

“อื้ม อาจจะเป็นไปได้ แล้วนี่วีทานอะไรยัง”

จารวีแลบลิ้นออกมาอย่างน่ารัก “ยังไม่ทันได้ทานเลยค่ะ”

“อื้ม ถ้างั้นวีไปหวีผมสักหน่อย แล้วเราไปหาอะไรกินกัน”

จารวีเดินเข้าไปหวีผมในห้องน้ำ พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นกระโปรงที่ถูกยศพลฉีกขาด วางอยู่ในตะกร้า มันค่อนข้างบาดตา ราวกับได้เห็นใบหน้าที่ยิ้มเยาะของเขา จารวียื่นมือไปหยิบมันทิ้งลงในถังขยะ

จารวีเปลี่ยนเสื้อเป็นเสื้อเชิ้ตสีเขียวอ่อน พร้อมกับกางเกงยีนส์สีขาว ผมยาวสลวยถูกมัดรอบเป็นหางม้าอยู่ที่ด้านหลังศีรษะ

ใบหน้าเล็กค่อนข้างซีดเซียว เป็นผลมาจากการร้องไห้เมื่อคืน จารวีจึงหยิบแป้งบีบีขึ้นมาทา ใบหน้าของเธอถึงมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง

ถึงแม้เธอจะสวมใส่ชุดที่แสนธรรมดา แต่ก็สามารถทำให้ดวงตาของมนต์ตรีลุกวาว

“ฮ่าๆ วี เดี๋ยวกับมาพี่จะพาไปซื้อเสื้อผ้าใหม่นะ”

“ไม่ต้องหรอกค่ะพี่มนต์ พี่ชอบแต่งตัวตามสบายแบบนี้”

มนต์ตรีพาจารวีทานอาหารเช้าจนเสร็จ ที่จริงๆแล้วไม่นับว่าเป็นตอนเช้าแล้ว แทบจะเรียกได้ว่าเป็นอาหารกลางวันเลยด้วยซ้ำ

มนต์ตรีขับรถพาจารวีมุ่งหน้าไปยังโรงแรมที่แม่ของเขาค้างแรม

ในเวลากลางวัน รถยนต์บนถนนค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะตอนที่ใกล้จะถึงทางเข้าของโรงแรมแชงกรีลา เขาทำได้เพียงหยุดรอให้แขกที่อยู่บนรถคันด้านหน้าลงไปหมดก่อน ขยับไปคันแล้วคันเล่า

สายตาของจารวีมองออกไปที่นอกหน้าต่าง

ทันใดนั้น สายตาก็เหลือบไปเห็นรถคันสีทองที่คุ้นตา นั่นคือรถของคุณพ่อ แล้วทำไมรถของคุณพ่อถึงมาหยุดอยู่ที่หน้าโรงแรมแชงกรีลาได้

หัวใจของจารวีตึงเครียดขึ้นมาอย่างฉับพลัน ราวกับว่าเธอพบเบาะแสอะไรบางอย่างแล้ว

“พี่มนต์ วีลงไปก่อนนะคะ”

จารวีไม่รอให้มนต์ตรีตอบ พลันเธอก็ก้าวลงจากรถ

เธอเดินอ้อมไปด้านหลังของตัวรถ

มนต์ตรียุ่งอยู่กับการขับรถเข้าไปยังลานจอดรถ ก็เลยไม่ได้มองดูเธอ

จารวีเดินไปถึงหลังรถคันสีทองของพ่อ พลันเธอก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงกับผู้ชายกำลังเดินมาทางนี้พอดี

ผู้ชายคนนั้นรูปร่างสูงใหญ่ บนตัวของเขาสวมใส่เสื้อกันลมแขนยาวสีกากี สวมใส่แว่นดำ ดูเป็นผู้ใหญ่ที่สุขุมรอบคอบ นั่นก็คือชยรพ ส่วนข้างกายของเขา มีผู้หญิงวัยกลางคนที่ท่าทางอ่อนช้อยและมีเสน่ห์ ผิวเธอสวยราวกับผ่านการดูแลมาอย่างถูกวิธี เส้นผมของเธอถูกย้อมให้เป็นสีของเม็ดเกาลัด พร้อมกับดัดลอนน้อยๆ บนตัวของเธอสวมใส่เสื้อปีกค้างคาวคลุมไหล่ กับกางเกงสูทขาม้า และสวมใส่แว่นตาดำเช่นเดียวกัน ทั้งสองพูดคุยกันพลางเดินออกมาจากโรงแรม

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย