เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย นิยาย บท 60

สิบกว่าชั่วโมงที่นั่งหลับนั่งตื่นอยู่บนเครื่องบินส่วนตัวหรูหราของพ่อมาเฟียหน้าหยกแสนหล่ออย่างคอร์เนล หญิงสาวกัดปากแน่น ขยุ้มฝ่ามือลงบนที่เท้าแขนเก้าอี้ที่ตัวเองนั่งอยู่แน่น เมื่อคนที่นั่งใกล้ๆ ก้มหน้าลงมากระซิบบอกว่าเครื่องบินกำลังแล่นลงจอด

กรุงมอสโก...

เมืองหลวงของประเทศรัสเซีย ประเทศมหาอำนาจแห่งโลกตะวันตก เมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมอันเก่าแก่น่าหลงใหล และสถาปัตยกรรมที่สวยงามแห่งหนึ่งของโลก

มือสั่น ใจสั่น เมื่อถูกคนตัวโตลากให้ก้าวลงมาจากบันไดเครื่องบินส่วนตัวลำใหญ่ สายลมเย็นยะเยือกพัดเข้าปะทะร่างกายอย่างรุนแรง แทบปลิวไปตามแรงลมหากไม่มีร่างกายกำยำของคอร์เนลให้เกาะเกี่ยว

แม้เขาจะร้ายกาจ เย็นชา และไร้หัวใจกับหล่อนอย่างที่สุด แต่ยามที่มีเขาอยู่ข้างกาย หล่อนกลับไม่รู้สึกอ้างว้างเลยแม้แต่นิดเดียว

ด้วยมัวแต่จ้องหน้าคนที่เดินข้างๆ ทำให้ยาหยีพลาดสะดุดกับพรมที่เผยอขึ้นเล็กน้อยจนแทบจะล้มลงไปนั่งจ้ำเบ้ากับพื้น แต่โชคดีที่คอร์เนลคว้าเอาไว้ได้ทัน

“มองทาง ไม่ใช่มองหน้าผม”

“ฉัน...”

“ไม่ต้องเถียง เร็วเข้า รถจอดรออยู่ข้างหน้า”

คอร์เนลปล่อยหล่อนให้เดินเอง ขณะที่เขาก้าวยาวๆ เดินนำหน้าหายเข้าไปในรถคันยาวเฟื้อยแบบเดียวกันที่หล่อนเคยเห็นเขาใช้เป็นประจำตอนที่อยู่เมืองไทย กำลังจะรีบก้าวตามขึ้นไปแต่เสียงเซอร์เกก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังซะก่อน

“ผมรู้ว่าคุณถูกลากมาที่นี่ แต่ผมอยากขอร้องให้คุณรีบไปจากนายน้อยทันที หากรู้ว่าตัวเองไม่ได้ตั้งท้องเลือดเนื้อเชื้อไขของซีร์ยานอฟ”

เท้าที่กำลังจะก้าวเดินชะงัก กลีบปากอิ่มเต็มเม้มเข้าหากันแน่นจนเจ็บ และในที่สุดก็จำต้องหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้ากับคนสนิทผู้จงรักภักดีเหลือหลายของคอร์เนลด้วยความขุ่นเคือง

“งั้นก็ช่วยไปบอกนายน้อยของคุณนะ ว่าอย่ามาวุ่นวายกับฉันอีก และถ้าหากทนไม่ได้จริงๆ ก็ให้ไปหาผู้หญิงคนอื่นมาแก้ขัด หรือไม่ก็หัดใช้ถุงยางอนามัยซะมั้ง!”

เซอร์เกยืนมองร่างอรชรที่แทบจะวิ่งหายเข้าไปบนรถคันเดียวกับคอร์เนลด้วยความตื่นตะลึง ไม่เคยคิดว่าผู้หญิงที่ดูเรียบร้อยอย่างยาหยีจะกล้าพูดเรื่องพวกนี้ใส่หน้าผู้ชายอย่างเขา

“เป็นไงครับน้าเซอร์เก ถูกคุณยาหยีตอกซะจนหน้าหงายแบบนี้รู้สึกยังไงบ้างครับ”

อีวานหัวเราะร่วนอยู่ทางด้านหลัง เซอร์เกหันไปมองตาขุ่นคลั่ก

“หุบปากไปเลย แล้วก็ไปขึ้นรถได้แล้ว เราจะต้องรีบตามนายน้อยกลับไปที่คฤหาสน์ซีร์ยานอฟ”

“แหม! พูดแค่นี้ก็ต้องทำเป็นโมโหด้วย”

อีวานยกมือขึ้นเกาหัวแกรกๆ ขณะเดินตามร่างของเซอร์เกไปขึ้นรถลีมูซีนที่จอดรออยู่อย่างรวดเร็ว ไม่ช้ารถคันหรูราคาแพงระยับจำนวนสี่คันก็แล่นตามกันไป มุ่งหน้าไปยังย่านเมืองของกรุงมอสโกซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของอาณาจักรซีร์ยานอฟ

ความเงียบกลืนกินบรรยากาศรอบๆ ตัวอยู่นานพอสมควรทีเดียว กว่าพ่อคนตัวโตที่นั่งนิ่งมาตลอดทางจะทำลายความเงียบสงัดนั้นด้วยคำพูดเย็นชาไร้ความรู้สึก

“เมื่อกี้นี้คุยอะไรกับเซอร์เก”

ยาหยีเม้มปากแน่นด้วยความขุ่นเคือง เกลียดทั้งเจ้านาย โกรธทั้งลูกน้อง พวกเขาทำกับหล่อนเหมือนหล่อนไม่มีชีวิตจิตใจอย่างนั้นแหละ เจ้านายอยากได้นู่น ลูกน้องสั่งให้ทำนี่ ทุเรศสิ้นดี

“มันไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอกค่ะ”

“แม้มันจะไม่สำคัญแต่ถ้าผมอยากรู้ คุณก็ต้องบอก!”

‘วางอำนาจ เผด็จการอย่างร้ายกาจเหลือเกิน ผู้ชายหล่อระเบิดคนนี้’

“ลูกน้องผู้ซื่อสัตย์ของคุณบอกให้ฉันไปจากคุณทันทีหากรู้ตัวว่าไม่ได้ตั้งท้อง”

เขาเงียบ หล่อนก็นั่งเงียบ ความเงียบกำลังกลับมาเข่นฆ่าหล่อนอีกครั้งหนึ่งแล้ว สาวน้อยลอบมองเสี้ยวหน้าคมสันผ่านความมืดมิด แสงโคมไฟจากท้องถนนที่สาดส่องเข้ามาในรถเป็นระยะไม่สามารถช่วยให้หล่อนเข้าใจความรู้สึกบนใบหน้าหล่อกระชากลมหายใจของคอร์เนลได้เลยแม้แต่นิดเดียว

‘เขากำลังคิดอะไรกันแน่ ทำไมถึงได้เงียบล่ะ หลังจากที่หล่อนตอบคำถามเขาออกไป’

หญิงสาวพยายามขบคิดจนหัวแทบจะระเบิดแต่ก็ไม่สามารถหาคำตอบให้กับตัวเองได้ จนแล้วจนรอดก็ทำได้แค่เพียงนั่งมองวิวข้างทางผ่านความมืดมิดไปเงียบๆ

“ลงได้แล้ว”

ยาหยีลืมตาขึ้นด้วยความแปลกใจ เมื่อเห็นรถมาจอดสนิทอยู่ที่หน้าสิ่งก่อสร้างแสนโอ่อ่าแห่งหนึ่งที่ประดับไฟไว้ตามจุดต่างๆ อย่างงดงาม ก่อนจะหันไปสบตากับคนตัวโตผ่านความมืด

“ถึงแล้วหรือคะ”

“ใช่ เธอคงเพลียมากสินะ ถึงได้หลับไปแบบนี้”

‘บริบทประโยคที่เขาพูดนั้นเหมือนจะมีความห่วงใย แต่ทำไมนะ ทำไมน้ำเสียงของเขาถึงยังเย็นชาไร้ความรู้สึกเช่นเดิม หรือว่าหล่อนคิดเข้าข้างตัวเองเกินไป คงจะใช่ เพราะคอร์เนลตอกย้ำใส่หน้าของหล่อนตลอดเวลาว่าหล่อนนั้นเป็นแค่นางทาส ไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาจะให้เกียรติ ดังนั้นอย่าคิดเข้าข้างตัวเองเลยยาหยี’

ด้วยความน้อยใจทำให้หญิงสาวไม่ได้ตอบคำถามของเขา แต่เลือกที่จะก้าวลงจากรถคันหรูนั้นอย่างรวดเร็ว และทันทีที่เท้าสัมผัสกับพื้น สายตาของหล่อนก็ถูกตรึงไว้กับประติมากรรมชั้นเลิศเบื้องหน้า นี่ขนาดในความมืดมันยังงดงามจับตาขนาดนี้ แล้วหากเป็นกลางวันที่เห็นทุกซอกทุกมุมชัดเจนล่ะ มันจะสวยงามแค่ไหน

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีบ้านที่ไหนสวยงามแบบนี้มาก่อน มันสวยกว่า กว้างกว่า และดูยิ่งใหญ่กว่าคฤหาสน์ของเขาที่กรุงเทพฯ เสียอีก

ยาหยีมัวแต่ยืนตกตะลึงกับที่อาศัยของเขา จึงไม่รู้ตัวว่าคอร์เนลมาหยุดยืนใกล้ๆ ตั้งแต่เมื่อไร กว่าจะรู้ก็ตอนที่ถูกเขาเหน็บแนมเอาเจ็บๆ นั่นแหละ

“โลกของเรามันแตกต่างกันมาก ดังนั้นอย่าคิดว่าการตั้งท้องของคุณจะผูกมัดผมได้”

ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดพวงแก้มเมื่อคนตัวโตชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ หญิงสาวรีบถอยหลังหนีแต่ก็ถูกมือใหญ่รั้งเอวคอดเอาไว้ซะก่อน

“ถ้าคิดว่าฉันจะจับคุณด้วยการปล่อยให้ตัวเองท้องละก็ งั้นครั้งต่อไปของเราคุณก็ใช้ถุงยางสิ ไม่ใช่ปล่อยให้ฉันต้องมานั่งกลุ้มใจแบบนี้”

คนตัวโตแสยะยิ้มร้ายกาจ ขณะคลายอ้อมแขนออกจากกายสาว

“ครั้งต่อไปของเราหรือ...” ไหล่กว้างไหวน้อยๆ คล้ายกับว่าเรื่องที่หล่อนพูดมันเป็นเรื่องไร้สาระที่สุด

“คงอีกนานมั้งทูนหัว เพราะที่นี่ผมมีผู้หญิงรอบริการเพียบ คุณอาจจะต้องนอนเหงาไปตลอดทั้งเดือน หรืออาจจะตลอดไปเลยก็ได้ หากผมรู้ตัวว่าหมดความอยากต่อร่างกายของคุณ”

ไม่รู้ว่าทำไมถึงเจ็บแปลบไปทั่วทั้งหัวอก ทั้งๆ ที่เตรียมตัวเตรียมใจรับภาพบาดหูบาดตาของคอร์เนลกับผู้หญิงคนอื่นมาแล้ว แต่พอถึงเวลาเข้าจริงๆ หล่อนกลับทนไม่ได้ แค่ฟังเขาพูด หล่อนก็เจ็บจนกระทั่งไม่อยากจะหายใจอยู่แล้ว

ยาหยีกัดปากแน่นกัดแน่นจนไม่รู้สึกเจ็บอีกแล้ว ขณะพูดในสิ่งที่ตรงข้ามกับหัวใจออกไป

“เขาไม่ได้โกรธฉันหรอกจ้ะป้า แต่เขาเกลียดฉันต่างหาก เขาเกลียดฉันจนแทบไม่อยากจะมองหน้าเลยด้วยซ้ำ”

น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาสั่นระริกบ่งบอกว่าคนพูดกำลังน้อยอกน้อยใจอย่างมากมายมหาศาลแค่ไหน

เชอรี่ฟังคำพูดของคู่สนทนาแล้วก็ส่ายหน้าดิก เพราะไม่เห็นด้วย

“ไม่จริงหรอกค่ะ ถ้าเกลียด นายน้อยไม่พาคุณบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาที่นี่หรอกค่ะ คุณรู้ไหมคะว่าในคฤหาสน์ซีร์ยานอฟหากไม่ใช่คนสำคัญของนายน้อยไม่มีทางเข้ามาได้หรอก”

ยาหยีแค่นยิ้ม เจ็บช้ำไปทั่วทั้งหัวอก หล่อนน่ะเหรอสำคัญ ต่ำยิ่งกว่าอีตัวน่ะสิไม่ว่า และที่เขาพาหล่อนบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาด้วยนี้ก็เพราะกลัวว่าหล่อนจะอุ้มท้องลูกของเขาอยู่ก็แค่นั้นเอง ไม่ได้มีเยื่อใยใดๆ เลยในการกระทำนี้ของคอร์เนล เขาไม่เคยรักหล่อน และก็คงไม่รัก ในขณะที่หล่อนทั้งรักทั้งบูชาเขาจนท่วมท้นดวงใจ

“ทำไมนายน้อยของป้าถึงอยากให้ฉันมาพักที่เรือนซ้ายล่ะคะ ทำไมถึงขนาดต้องย้ายคนจากเรือนนี้ไปอยู่อีกเรือนหนึ่งด้วย” เอ่ยถามเมื่อเชอรี่พาหล่อนมาหยุดที่หน้าเรือนซ้าย

หล่อนได้ยินหญิงร่างท้วมถอนใจออกมาแรงๆ ครั้งหนึ่งก่อนจะพูดขึ้น

“ป้าก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่านายน้อยกำลังคิดอะไรอยู่ รู้เพียงแต่ว่าที่นี่เล็กและก็คับแคบไม่สะดวกสบายเหมือนกับเรือนขวาเท่าไรนัก และที่สำคัญมีแต่ผู้หญิง”

“งั้นนายน้อยก็ต้องการให้ฉันลำบาก”

“ป้าก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้เพียงแต่ว่าหากนายน้อยอยู่บนห้องนอนก็จะสามารถมองเห็นเรือนซ้ายหลังนี้ชัดเจนเต็มสองตาเลยล่ะค่ะ”

แม่บ้านวัยร่างท้วมพูดไปเรื่อยขณะไขกุญแจห้องหนึ่งในจำนวนสี่ห้องให้กับยาหยี

“ป้าให้เจ้าของห้องเดิมย้ายออกไปแล้ว คุณก็พักที่นี่ได้เลย”

เชอรี่เอื้อมมือไปกดสวิตช์ไฟจนห้องทั้งห้องสว่างพึ่บขึ้นมาทันตา ยาหยีก้าวตามแม่บ้านร่างท้วมเข้าไปภายใน มองสำรวจไปรอบๆ แล้วก็พบแค่ตู้เสื้อผ้าและก็เตียงนอนเท่านั้นเอง

“ความจริงมันมีทีวีแล้วก็เครื่องเล่นด้วยนะ สงสัยแม่มารีนยกไปด้วยแน่ๆ เลย” แม่บ้านวัยกลางคนบ่นอุบ ก่อนจะหันมามองยาหยีด้วยความสงสาร

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ป้าจะรายงานเรื่องนี้กับนายน้อยนะคะ รับรองว่าเธอจะต้องรีบหาเครื่องอำนวยความสะดวกที่พึงมีมาให้คุณอย่างแน่นอนค่ะ ส่วนคืนนี้ก็ทนๆ เอาหน่อยนะคะ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว”

ยาหยีพยักหน้าน้อยๆ ใบหน้างามไม่ได้แสดงอารมณ์ใดออกไปเลยนอกจากความขมขื่นที่ตัวเองปิดไม่มิด

“ฉันอยู่ได้ค่ะ ไม่ต้องการอะไรเพิ่ม และหากป้าสงสารฉันก็ไม่ต้องรายงานเรื่องใดๆ ทั้งนั้นให้กับนายน้อยของป้าฟัง นะคะฉันขอร้อง”

แม้จะไม่เข้าใจแต่เชอรี่ก็พยักหน้ารับคำ

“ก็ได้ค่ะ ป้ารับปาก งั้นคุณก็พักผ่อนเถอะนะคะ ป้าเองก็ขอตัวไปพักผ่อนเหมือนกัน”

“ตามสบายค่ะป้า ขอบคุณมากนะคะ”

เชอรี่ยิ้มให้อย่างเป็นมิตรขณะเดินหายออกไปจากห้อง ยาหยีเดินไปทรุดตัวลงนั่งบนที่นอนขนาดสามฟุตครึ่งที่ถึงแม้จะไม่แข็งเท่ากับเตียงในห้องเช่าที่พัทยา แต่มันก็ไม่ได้นิ่มนวลน่าหลับนอนเหมือนเตียงนอนของคอร์เนลแม้แต่นิดเดียว

ยาหยีถอนใจออกมาเมื่อนึกถึงชะตากรรมของตัวเอง จะเอาอะไรมากไปกว่านี้ล่ะ ทาสแบบหล่อนแค่มีที่ซุกหัวนอน มีที่กินก็สมควรดีใจแล้วไม่ใช่เหรอ ทำงานแลกข้าวแลกน้ำเพื่อรอเวลาเป็นอิสระจากอุ้งมือของมัจจุราชอย่างคอร์เนล

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย