วันรุ่งขึ้น
หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้ว อารยาจึงเดินไปปลุกสามีที่นอนอยู่บนเตียง ให้ตื่นไปอาบน้ำ วันนี้เขาบอกว่าจะไปทำงานพร้อมกัน เขาควรตื่นได้แล้ว ไม่งั้นเธอจะเข้างานสาย สายอีกรอบเธอโดนไล่ออกแน่ๆ แต่ก็ไม่แน่หรอกมั้งถ้าไปพร้อมกันกับเขา
“เสี่ยค่ะ ตื่นสายไอซ์ไม่รอนะ” มือเล็กเขย่าแขนสามีเบาๆเป็นการปลุก เมื่อเห็นเสี่ยตื่นเต็มตาก็ส่งยิ้มทักทาย แต่ไม่ถึงวินาทีเสี่ยก็หลับตานอนต่อ เธอจึงต้องงัดไม้ตายขึ้นมาปลุกเสี่ยอีกรอบ
“ถ้าเสี่ยไม่ตื่น คืนนี้ไอซ์จะกลับไปนอนห้องเดิม”
“เดี๋ยวนี้กล้าขู่?”
“ไม่ได้ขู่ค่ะ แต่นอนด้วยกันแล้วไอซ์ทำให้เสี่ยนอนไม่พอ แยกห้องนอนดีกว่า เนอะ” อารยายิ้มกว้าง ตวัดผ้าห่มที่คลุมตัวสามีออกไปจนหมด เดินไปเทน้ำใส่แก้วมายื่นให้ มองเสี่ยที่หยิบไปดื่มแล้วยื่นคืนให้ด้วยความเอ็นดู ถ้าไม่มีเรื่องผู้หญิง เสี่ยก็เป็นผู้ชายที่ดีนะ ดูซื้อๆน่ารักดี
“ลงไปรอข้างล่างก็ได้ คุยกับทางนั้นเสร็จแล้วจะตามลงไป ไม่ต้องกลัวหรอกว่าจะไปสาย หรือไปสายก็ไม่มีใครว่า”
อัครราชลงจากเตียง เดินผ่านอารยาไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหารองประธาน คนที่ทำงานแทนตัวเอง สายตาคู่คมมองทิวทัศน์นอกบ้านนิ่งๆ ขณะรอคนปลายสายรับโทรศัพท์
[ท่านโทรมาแต่เช้า มีอะไรให้ผมทำเหรอครับ]
“วันนี้เตรียมเอกสารไว้ให้ผมด้วย ผมจะเข้าไปดูแลงานทั้งหมด จัดห้องส่วนตัวให้ผมด้วยนะ บางทีผมอาจจะต้องไปที่นั่นบ่อยๆ นัดผู้บริหารเข้ามาคุยกับผมด้วย ผมมีเรื่องจะแจ้งนิดหน่อย”
[ดะ ….ได้ครับท่าน]
อัครราชกดวางสาย หมุนตัวเดินเข้าห้องน้ำเมื่อคิดว่าภรรยาของเขา คงจะนั่งรอกินอาหารเช้าอยู่ เขาไม่มีความรู้เรื่องบริษัทก่อสร้างที่อารยาทำงานอยู่ เพราะบริษัแห่งนั้นเป็นของเพื่อนที่ตายไป เพื่อนหนีปัญหารุมเร้า และฝากฝังที่นั้นให้เขาดูแล เขาซื้อกิจการต่อและใช้เงินบริหารซะส่วนใหญ่ แต่ต่อจากนี้ไป คงต้องเข้าไปใช้หัวบริหารบ้าง ไม่เก่งก็ควรเรียนรู้ได้เอง เพราะเขามีคนเก่งรอบด้านอย่างปณิธานคอยช่วยเหลืออีกที
อัครราชเดินลงมาสบทบกับอารยาบนโต๊ะอาหาร อีกครึ่งชั่วโมงให้หลัง เขาไม่ค่อยพิถีพิถันในการแต่งตัวเท่าไหร่ อาบน้ำจนคิดว่าสะอาด ก็สวมใส่เสื้อผ้าที่แม่บ้านเตรียมไว้ ใส่น้ำหอมนิดหน่อย ก็พร้อมไปทำงาน เมื่อก่อนออกจะเจ้าสำอาง แต่พอได้รับช่วงกิจการแทนพ่อ เขาก็ไม่ค่อยทาครีมบำรุงผิวลงบนหน้าตัวเองเลย แค่ได้นอนเต็มอิ่มก็พอแล้ว เรื่องผิวถ้ามันแย่มาก ก็เข้าคลินิกรักษาเอา
“เป็นอะไร”
อัครราชถามคนที่นั่งกระสับกระส่ายอยู่ข้างตัว วันนี้เขาไม่เรียกใช้งานเลขา แต่ทำหน้าที่ขับรถพาเธอไปทำงานด้วยตัวเอง รถยนต์ที่บริษัทเพิ่งจะนำเข้ามา รถหรูหรา แต่เมียเขากลับไม่ค่อยสนใจมันเลย เอาแต่นั่งด้ยใบหน้ากระวนกระวาย จนเขาอดห่วงไม่ได้
“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน บางทีพวกเธออาจจะใช้จุดอ่อนนั้นเพื่อบีบให้ฉันรับผิดชอบก็ได้”
“ค่ะค่ะ รู้แล้วก็ดี ทีหลังก็ตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลมนะคะคุณสามี เรื่องแบบนี้จะได้ไม่เกิดขึ้น” อารยามองกระเป๋าใบใหม่ที่เสี่ยถือลงมาให้เธอด้วย เขาตั้งใจจะเอาสิ่งของมาง้อเธอหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ แต่กระเป๋าชาแนลคอลเลคชั่นใหม่ใบนี้ ไม่ถูกใจเธอเลยสักนิด
อัครราชแปลกใจท่าทีของอารยาอยู่นิดหน่อย เขานึกว่าเธอเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยสนใจอะไร เป็นคนที่เชื่อฟังจนบางครั้งเขาคิดว่าโง่หรือเปล่าด้วยซ้ำ แต่พอได้ก้าวข้ามสิ่งที่เรียกว่าความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยาไป นิสัยเธอกลับต่างจากที่ผ่านมา เธอฉลาด แต่เลือกที่จะอยู่เงียบๆมากกว่า
ทันทีที่รถของอัครราชมาถึงบริษัทที่อารยาทำงาน คนที่เป็นรองประธานรวมทั้งฝ่ายต่างๆ ก็รีบออกมาต้อนรับกันให้วุ่น แปลกใจนิดๆที่เสี่ยขุนมาพร้อมกับพนักงานในบริษัท แต่ไม่นานความแปลกใจก็เปลี่ยนเป็นหวาดกลัว เมื่อเห็นสิ่งที่เสี่ยเจ้าของบริษัท ปฎิบัติกับพนักงานอย่างอารยา
“เอ่อคุณขุนครับ เธอเป็นพนักงานธรรมดา เข้าประชุมด้วยแบบนี้ ผู้บริหารคนอื่นคงไม่พอใจแน่” ชัชชกรณ์ มองเจ้าของบริษัทที่นั่งอยู่ตำแหน่งประธานการประชุม ไม่กล้ามองผู้หญิงที่พ่วงตำแหน่งเด็กเสี่ยเลยสักครั้ง เพราะเสี่ยแสดงออกชัดเจนว่าหวงเธอ ตั้งแต่เดินทางมาถึงแล้ว
“ที่ผมมาก็เพราะเรื่องของพนักงานธรรมดาคนนี้นี่แหละ อีกห้านาทีนะ ผมให้เวลาแค่นั้น ถ้าใครไม่มา หรือมาไม่ทัน ก็ไม่ต้องเข้ามาที่บริษัทอีกแล้ว”
อัครราชพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขากำลังโกรธ กับสิ่งที่คนในบริษัทแสดงออกกับเธอ ทั้งคำพูดท่าทางที่ไม่ให้เกียรติเลยสักนิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียเสี่ย