เพลิงสวาทพันธนาการใจ นิยาย บท 9

ตอนที่ ๙

“พี่จะให้ผมขึ้นไปด้วยหรือเปล่า” หลังจากเข้ามาจอดรถใกล้กับคอนโดหรูแล้ว แก๊ปก็หันมาเอ่ยถามพี่สาวข้างบ้านที่เอาแต่นั่งเงียบมาตลอดทาง

“ไม่ต้องหรอก พี่ขึ้นไปไม่นานหรอก” แค่จะมาให้เห็นกับตาและมาทวงเงินในส่วนของเธอคืนเท่านั้น ที่เธอก็ไม่แน่ใจหรอกว่าแฟนหนุ่มจะมีคืนให้หรือเปล่า

“อย่าบอกนะว่าพี่เต้อยู่นี่ หรูมากเลยนะพี่โซ่ แหมๆ นี่กะเตรียมไว้เป็นเรือนหอหรือไงพี่” เพราะไม่รู้ว่าตอนนี้หัวใจของพี่สาวข้างบ้านกำลังร้าวระบมแก๊ปเลยเอ่ยแซ่วสนุกปาก

“ชาตินี้พี่คงไม่แต่งงานหรอก ว่าแต่เราเอาเงินไปซื้อของกินรอพี่นะ ตะกี้พี่เห็นตรงทางเข้ามีร้านกาแฟ แล้วถ้าไงพี่จะเดินไปหาแก๊ปที่ร้านนั่น” ชลินทราเปิดกระเป๋าหยิบเงินแบงก์พันยัดใส่มือเด็กหนุ่มที่บอกว่าไม่เอา แต่เธอก็ยัดเยียดให้รับไป แล้วหันมาเปิดประตู

“มันไกลอยู่นะพี่” เพราะเขานั่นว่าง เนื่องจากระหว่างทางขับเข้ากรุงเทพฯ แฟนสาวบอกว่ากำลังไปเที่ยวกับเพื่อน ไม่ต้องแวะไปหาที่หอพัก

“พี่เดินได้ แก๊ปไม่ต้องห่วงหรอก ไปหาของอร่อยๆ กินเถอะ” ชลินทราเปิดประตูลงไปแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ จากนั้นเธอก็เดินเข้าไปติดต่อเพื่อเข้าไปภายในคอนโด ทว่ายามกลับไม่ยอมให้เข้าไป

‘บ้าจริง แล้วที่นี่จะเข้าไปได้ยังไงล่ะ’ ชลินทราได้แต่บ่นพึมพำ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ระหว่างนั้นคนที่อยู่ในห้องตามหมายเลขห้องที่ชลินทราต้องการเข้าไปพบก็โทรลงมาถามยามว่ามีใครหาหรือไม่ ครั้นเมื่อมีแล้ว เจ้าตัวก็บอกให้ยามเปิดประตูให้อีกฝ่ายเข้ามาได้เลย

“คุณครับ เชิญเข้าไปได้แล้วครับ”

“ฉันเหรอ เข้าไปได้”

“ใช่ครับ พอดีเจ้าของห้องที่คุณจะมาพบ โทรมาบอกให้คุณขึ้นไปพบได้ครับ เชิญครับ แล้วก็นี่ครับ คีย์การ์ดห้องครับ”

“งั้นเหรอค่ะ ขอบ...ขอบคุณนะคะ” ชลินทราตอบรับอย่างงงๆ เดินเข้าไปภายใน เธอไปหยุดที่หน้าลิฟต์ บอกเลยว่าตอนนี้มือไม้ของเธอสั่นไปหมดแล้ว กระทั่งมาถึงหน้าห้องแล้ว เธอก็ยืนทำใจสักพักกับการที่ต้องเผชิญหน้ากับแฟนหนุ่ม

‘แกต้องทำใจได้ยัยโซ่ ผู้ชายเลวๆ พันธุ์นั้น ไม่มีค่าให้เธอต้องอ้อนวอนขอให้เขากลับมารักสักนิด’ ชลินทราพึมพำบอกตัวเอง ก่อนจะค่อยๆ หยิบคีย์การ์ดออกมา มือนั่นสั่นจนแทบจับคีย์การ์ดไม่อยู่ แต่สุดท้ายแล้วเธอเปิดเข้าไปจนได้

“พี่เต้ขา หยุดมือก่อนได้ไหม แจมยังเหนื่อยยังอยู่เลยนะคะ นะคะพี่เต้ ขอแจมนอนพักเอาแรงเดี๋ยวเดียวนะคะ”

“เหนื่อยอะไรกันน้องแจม ยกที่แล้วพี่เป็นคนทำนะ ส่วนน้องแจมก็นอนแหก...” เตชินท์พูดค้างไว้ เพราะรู้ดีว่าอาภัสดาเข้าใจความหมายเป็นอย่างดี

“พี่เต้นี่ พูดจาหยาบคายจังเลย” ปากก็พูดตอบไป มือก็เลื่อนต่ำมาลูบไล้ท่อนเนื้อที่แข็งขึงของแฟนหนุ่ม ลูบไล้ไม่นานเตชินท์เงยหน้าร้องครวญคราง ประหนึ่งว่ากำลังถูกทำร้าย โดยหารู้ไหมว่าประตูห้องนอนที่เปิดอ้าไว้ ตอนนี้มีใครบางคนกำลังยืนมองภาพนั่นด้วยน้ำตานองหน้า ทั้งที่เธอบอกตัวเองแล้วว่าจะไม่ร้องไห้

“โอ้ว แต่...พี่รู้ว่าน้องแจมชอบให้พี่พูดหยาบคายเวลาสองคนเอากัน”

“แจมให้ตอนนี้ไม่ได้หรอกพี่เต้ แจมว่าพี่เต้หันไปที่ประตูแล้วก็เคลียร์กันให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า เดี๋ยวแจมขอเข้าไปอาบน้ำก่อนนะคะ” อาภัสดาอาศัยจังหวะที่เตชินท์หันไปทาประตูตามคำบอกเล่า ครั้นเมื่อเห็นหน้าชลินทรายืนอยู่จริงๆ ก็ตกใจแทบช็อกเลยทีเดียว แต่ไม่นานเขาก็ทำหน้าได้ปกติ ผิดกับอีกคนที่พยายามข่มกลั้นน้ำตาเอาไว้สุดกำลัง

“จะมาทำไมไม่โทรบอกผมก่อนล่ะ” หลังจากคว้าผ้าเช็ดตัวมาพันรอบสะโพกเรียบร้อยแล้วเตชินท์ก็หันมาถามแฟนสาว

“ถ้าบอกก่อน โซ่ก็คงโง่ไปอีกนานเลยสิ เต้ทำแบบนี้ทำไม”

“เต้ทำแบบนี้ก็เพราะโซ่นั่นแหละ”

“หมายความว่าไง”

“เต้เป็นผู้ชายนะโซ่ จะให้อดยากปากแห้งรอจนกว่าเราแต่งงานกันเลยหรือไง แล้วจะบอกให้ว่าทั้งหมดเนี่ยโซ่เป็นคนผิด ที่ไม่ยอมเต้ตั้งแต่แรก เพราะงั้นไม่ต้องบีบน้ำตาเรียกร้องความสงสาร เต้ไม่สน กลับไปได้แล้ว”

“เต้!!” ชลินทราช็อกพอๆ กับตอนได้เห็นภาพแนบชิดของแฟนหนุ่ม มือที่กำแนบลำตัวสั่นอีกครั้ง เธอพยายามเหลือเกินที่จะยืนให้อยู่

“บอกให้กลับไปไง แล้วไม่จำเป็นก็ไม่ต้องมาอีก”

“โซ่...โซ่ก็ไม่อยากจะมาเจอหน้าผู้ชายเลวๆ แบบนี้เต้นักหรอก แต่ที่มาก็เพราะอยากมาให้เห็นกับตาว่าเต้มีคนอื่นแล้วจริงๆ” เสียงของเธอสั่นมากขึ้นจนแทบพูดออกมาไม่เป็นคำ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เพลิงสวาทพันธนาการใจ