ตอนที่ ๘
“เซ็นซะ” โคบี้ส่งสัญญาให้กับเสี่ยทรงพล ที่ลังเลแต่ก็รับมาอ่านคราวๆ ก็ไม่ได้อะไรมาก แค่บอกว่าชลินทราไม่มีหนี้สินค้างกับตนแล้ว และห้ามมาข่มขู่หรือยุ่งเกี่ยวกับคนบ้านหลังนี้อีก และทันทีที่ได้เช็คเสี่ยทรงพลก็สั่งลูกน้องกลับ
ชลินทราจึงเดินออกมาพร้อมกับแก๊ปและเกรซ ก่อนที่ ชลินทราจะบอกให้ทั้งสองกลับบ้านไปก่อน เพราะเธอมีเรื่องต้องคุยกับคนบางคน แต่ก่อนจะไปแก๊ปก็เห็นว่ามีบุรุษไปรษณีย์เอาจดหมายส่ง จึงอาสาไปรับและนำมาให้กับชลินทรา คิ้วเรียวขมวดยุ่งเล็กน้อย เพราะไม่คุ้นชื่อนามสกุล อีกทั้งชื่อนามสกุลก็แปลกๆ ด้วย ทว่าเธอก็เลิกสนใจแล้วหันมาเชิญนิคเตอร์เข้าไปคุยในบ้าน
“เชิญ..เชิญนั่งค่ะ แต่ฉันต้องขอโทษด้วยนะคะที่บ้านไม่เรียบร้อย” เพราะพวกของเสี่ยทรงพลใส่ร้องเท้าเข้ามาทำให้บ้านของเธอเลอะเทอะไปหมด ส่วนข้าวของก็วางดีอยู่หรอก ทว่าบางส่วนก็วางไม่ตรงที่เดิม
“ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่คุณเชิญผมมามีอะไรเหรอครับ” ทั้งที่รู้แก่ใจก็ยังถาม ชลินทราเลยค้อนขวับเข้าให้ อยากจะเคืองจะโกรธอยู่หรอกแต่เห็นแก่ที่เขาไปอยู่ช่วยงานและคอยให้กำลังใจเธอตลอดงานศพของป้าจุรี ส่วนเตชินท์ เธอโทรหานับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ไม่เคยรับสายของเธอเลย
“คุณใช้หนี้แทนฉันไปเท่าไหร่คะ”
“หกแสน”
“หกแสน!!!” ชลินทราตาโตจนแทบถลน เพราะป้าเธอไปกู้เงินเสี่ยทรงพลมาแค่แสนห้าเองบวกร่วมดอกเบี้ยแล้วก็คงไม่เกินสองแสนหรอก หรือถึงจะเกินก็ไม่น่าจะมากมายถึงหกแสน
“ผมให้ฟรี คุณไม่จำเป็นต้องไปหาเงินมาคืนผม”
“ว่าไงนะ” ชลินทราตกใจรอบสอง แล้วบอกเลยว่าตอนนี้เธอชักกลัวเขาแล้ว
“ผมใช้หนี้ให้ฟรี” นิคเตอร์ย้ำชัด
“ฉัน...ฉันไม่เชื่อหรอก”
“ฟรีจริงๆ แต่ถ้าคุณอยากจะใช้หนี้ผม ผมมีข้อเสนอ...”
“ฉันไม่รับข้อเสนอ” ชลินทราปฏิเสธแบบไม่ต้องคิด
“ฟังก่อนสิทูนหัว ผมไม่ได้เสนอให้คุณไปเป็นนางบำเรอของผมหรอกน่า” นิคเตอร์บอกเสียงกลั้วหัวเราะ เพราะเดาจากสีหน้าเจ้าตัวแล้ว เขาคงเดาไม่ผิดแน่ๆ
“แล้วอะไรล่ะข้อเสนอของคุณ”
“ก็ไปทำงานกับผม ผมจะให้คุณเป็นแม่บ้าน ส่วนเงินอยากได้เท่าไหร่ก็บอกมาได้เลย ผมยินดีจ่าย แต่บอกก่อนนะว่าถ้าผมต้องกลับไปต่างประเทศ คุณก็ต้องไปกับผมด้วย ตกลงไหม” แล้วหากรู้จักสนิทสนมกันมากขึ้นเขาก็จะเลื่อนขั้นให้เธอเป็นภรรยา คิดแล้วนิคเตอร์ก็แอบยิ้มกรุ้มกริ่ม
“ต้องไปด้วยเหรอคะ” เธอไม่อยากจากบ้านไปไหนเลย แต่คิดอีกทีหากได้ไปอยู่ไกลๆ อาจจะทำให้สภาพจิตใจของเธอแกร่งขึ้นกว่าทุกวันนี้ เพราะตั้งแต่ป้าจากไป เธอก็ไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรเลย
“คุณไม่ต้องคิดมาก ผมยังไม่ได้ไปเร็วๆ นี้ คงอีกสักเดือน หรือไม่ก็นานกว่านั้น” เพราะงานเขาไม่ได้มีปัญหาอะไรแล้ว หรือหากมีเรื่องด่วนเขาก็บินไปตามลำพังแล้วก็กลับมาพักผ่อนต่อ ถึงคราวนั้นชลินทราก็คงตัดใจได้แล้ว
“ขอคิดดูก่อนนะคะ แล้วฉันก็ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้ทำอาหารไปส่งให้คุณเลย”
“ไม่เป็นไรทูนหัว ถ้างั้นผมขอตัวกลับก่อน” นิคเตอร์ไม่ได้อยากกลับเลย แต่เขาก็ไม่อยากรบกวนเธอ อีกทั้งก็อยากให้เธอมีเวลาคิดและจัดการบ้านให้เรียบร้อย
“เย็นนี้ผมขอข้าวผัดสับปะรดได้ไหม” ก่อนจะเข้าไปนั่งในรถ นิคเตอร์ก็หันมาบอกเมนูที่อยากรับประทานเย็นนี้พร้อมยิ้มละมุน
“ได้ค่ะ”
“มีอะไรครับ”
“แก๊ปว่างไหม ไปกรุงเทพฯ เป็นเพื่อนพี่หน่อยสิ” เธอชวน เพราะแก๊ปเรียนมหาลัยอยู่ที่กรุงเทพฯ คงจะรู้เส้นทางดีกว่าเธอ ที่แทบไม่ได้ย่างกายไปกรุงเทพฯ เลย
“ว่างครับ แต่เดี๋ยวแก๊ปไปบอกป้าก่อน แล้วจะเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย แล้วเดี๋ยวผมขับรถมารับพี่หน้าบ้าน” เพราะเขาเองก็ว่าจะเข้ากรุงเทพฯ อยู่เหมือนกัน เพราะจะไปหาแฟนสาว
ชลินทราพยักหน้ารับรู้ ก่อนที่เธอจะไปล้างหน้าล้างตาแล้วหยิบกระเป๋าและเก็บภาพถ่ายนับสิบใบลงซองแล้วยัดลงกระเป๋า ก่อนจะเดินออกมาหน้าบ้านก็พอดีกับที่แก๊ปขับรถมารับ จากนั้นทั้งสองก็เดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยมีคนบางคนกำลังได้รับรายงานจากลูกน้องว่าชลินทราไปกรุงเทพฯ กับเด็กหนุ่มข้างบ้าน
‘หรือว่าไอ้เด็กนี่จะชอบ ชลินทรา’ คิดแล้วนิคเตอร์ก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา เพราะเท่าที่เห็นเด็กหนุ่มไม่มีท่าทีจีบ ชลินทราเลย แต่ถึงจะไม่จีบ เห็นทีเขาต้องรีบลงมือทำอะไรสักอย่างแล้ว ส่วนแฟนหนุ่มของเธอ เขาสืบรู้แล้วว่าไอ้หมอนี่นอกใจชลินทรามานาน แต่เขาไม่อยากบอก เพราะอยากให้เธอรู้ได้ด้วยตัวเอง
“ตามไปดูแล้วกัน จะได้สบายใจ” ว่าแล้วก็กดโทรศัพท์สั่งให้โคบี้ขับรถมารับที่บ้าน แล้วก็รีบขับรถตามชลินทราไปอยู่ห่างๆ
“ดูคุณนิคจะเป็นห่วงคุณโซ่มากเลยนะครับ”
“เงียบไปเลย โคบี้” นิคเตอร์บอกเสียงเหี้ยม
“โธ่เจ้านาย”
“ยังจะพูดมากอีก ถ้าตามไม่ทัน แกโดนไล่ออกแน่” นิคเตอร์ขู่ไปอย่างนั้น เพราะเขารู้อยู่แก่ใจดีว่าแฟนหนุ่มของ ชลินทราอยู่ที่ไหน เพราะได้ให้โคบี้สืบประวัติมาหมดแล้ว ตั้งแต่เขาถูกตาต้องใจชลินทรา
“ผมเงียบก็ได้ครับเจ้านาย” โคบี้ยิ้มนิดๆ แล้วตั้งหน้าตั้งตาขับรถตามว่าที่คุณผู้หญิงคนใหม่แห่งบ้านเพรสเลอร์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เพลิงสวาทพันธนาการใจ