"พัด!!" เสียงตะโกนจากทางด้านหลังที่ดังขึ้นพร้อมๆกับเสียงฝีเท้าของใครบางคนที่กำลังวิ่งลงมาจากชั้นสองทำพัดชาที่กำลังยืนมองคาไลน์เดินห่างออกไปสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ รีบหมุนตัวกลับไปหาเจ้าของเสียงนั้นในทันที
"จะไปไหน" พารันสาวเท้าเข้าไปสวมกอดแฟนสาวไว้หลวมๆด้วยเข้าใจว่าเธอคงคิดน้อยใจกับถ้อยคำเหล่านั้นของเขา มือหนาสางผมยาวดำขลับที่ตกลงมาปกพวงแก้มนวลระเรื่อของเธออย่างอ่อนโยน "ที่พูดไปไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นนะ แค่ไม่อยากให้เป็นห่วงเฉยๆ"
"เราไม่ใช่แฟนกันเหรอ ทำไมถึงไม่อยากให้เป็นห่วง" พัดชาได้ทีตีสีหน้าเรียบเฉย นึกสนุกอยากกลั่นแกล้งให้แฟนหนุ่มสำนึกผิดมากกว่านี้ที่ดูถูกความห่วงใยของเธอ
"งอน? กลายเป็นเด็กขี้งอนตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วเดินลงมาทำไม"
"ไม่ได้งอน แค่น้อยใจที่เป็นห่วงไม่ได้"
"ทำไมต้องคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องแค่นั้น ตอบมาว่าลงมาทำไม ไม่ใช่ว่าน้อยใจจนจะหนีกลับไทยทั้งแบบนี้นะ"
"เห็นแบบนี้ฉันก็มีขอบเขตในการน้อยใจนะยะ ไม่ทำอะไรปัญญาอ่อนแบบนั้นหรอก แค่อยากได้อะไรนิดหน่อยเลยให้คาไลน์ไปซื้อให้"
"เบื่อใช่ไหมที่ไม่ได้ออกไปไหนเลย พรุ่งนี้ก็ต้องไปงานเลี้ยงวันเกิดหยางหมิงแทนพ่ออีก แต่ถ้าอยากออกไปซื้อของเดี๋ยวกูพาไปเอง หลังจากเสร็จงานที่พ่อโยนให้ค่อยไปเที่ยวกัน โอเคไหม"
"อยากไปเที่ยวทะเล"
"โอเค เดี๋ยวจะเตรียมชุดว่ายน้ำสวยๆให้"
"หวังว่าคราวนี้จะไม่ใช่ทริปทะเลเดือดเหมือนครั้งที่แล้วอีกนะ"
"ให้สัญญาเลยว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นคนที่ตกอยู่ในอันตรายต้องเป็นกูคนเดียว ไม่ใช่มึง" น้ำเสียงหนักแน่นของพารันไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจเลยแม้แต่น้อย กลับกันความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันตรงกันข้าม ทั้งที่เป็นเพียงคำพูดแต่กลับทำให้หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบได้ เธอเกลียดคำสัญญาเหล่านั้น เพราะมันมักจะมาพร้อมกับความโชคร้ายเสมอ
"ขึ้นห้องกันดีกว่า หนาวๆแบบนี้นอนต่ออีกสักหน่อยน่าจะดี" เมื่อเห็นแฟนสาวเงียบไปพารันจึงหันหลังให้ ค่อยๆย่อตัวลงเล็กน้อย
"ทำอะไร"
"ให้ขี่หลังไง ขึ้นมา" ใบหน้าหวานกลับมาเปื้อนรอยยิ้มอีกครั้งเพราะพ่ายแพต่อความน่ารักของคนตรงหน้า พัดชาถอยหลังออกมาสองสามก้าว ก่อนจะกลั่นแกล้งแฟนหนุ่มด้วยการกระโจนใส่เขาเต็มแรง สองแขนเรียวเล็กกอดรัดลำคอหนาไว้แน่นจนคนโดนกลั่นแกล้งเบ้หน้า
"คิดจะฆาตกรรมผัวรึไง"
"หอมจัง" ปลายจมูกเชิดรั้นคลอเคลียแก้มสากเบาๆอย่างนึกมันเขี้ยว
"เดี๋ยวนี้ทำตัวใกล้เคียงกับโรคจิตเลยนะ"
"ขี้บ่นเหมือนคนแก่เลย"
"มึงต่างหากที่ทำตัวเด็กลง"
"บ่นอีกแล้ว" พารันได้แต่ทำหน้าเอือมระอา ก่อนจะเดินขึ้นไปบนชั้นสองอีกครั้ง ปล่อยให้คนข้างหลังลากปลายจมูกไปทั่วใบหน้าตามอำเภอใจ
@สามชั่วโมงต่อมา
ท่ามกลางความเงียบภายในห้องนอนที่มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศทำงาน พัดชาค่อยๆหยัดกายลุกขึ้น เขย่าตัวพารันที่นอนอยู่ข้างๆอย่างไม่แรงนักเพื่อเช็กให้แน่ใจว่าเขาจะไม่ตื่นขึ้นมาตอนนี้ เมื่อเห็นว่าเขายังนอนหลับสนิทจึงค่อยๆก้าวลงจากเตียง เดินตรงไปยังห้องน้ำทันที หยิบอุปกรณ์ตรวจครรภ์ที่แอบเอาไว้ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ขาสั้นออกมา
หัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งขณะทำตามวิธีที่ระบุอยู่หลังกล่องอุปกรณ์อย่างถูกต้อง เธอทรุดตัวนั่งลงพลางหลับตาแน่น ฝ่ามือทั้งสองข้างเย็นเฉียบขณะรอผลการตรวจ
"มามุกนี้อีกแล้ว เดี๋ยวนี้หัดมีความลับเหรอ"
"ไม่ใช่ความลับ" เธอปัดมือหนาออกจากใบหน้า แล้วเดินตรงไปที่เตียงนอน ทำให้พารันต้องรีบเดินตามไป
"ไม่ใช่ความลับแล้วทำไมถึงบอกไม่ได้" หญิงสาวเพียงแค่อมยิ้ม แล้วล้มตัวนอนลง ไม่ได้ให้คำตอบกับแฟนหนุ่ม
"หรือแอบทำอะไรผิดมา"
"แอบจูบพายตอนหลับถือว่าเป็นความผิดไหม"
"นี่กวนตีน? อ้วกทั้งวันทั้งคืนจนเหนื่อยยังต้องมารับมือกับความกวนตีนของเมียอีก เห็นใจกูหน่อยเถอะ" พารันตบหน้าผากตัวเองเบาๆ แล้วก้าวขึ้นไปนอนข้างๆ มองหน้าพัดชาอย่างกดดัน แต่เธอกลับลอยหน้าลอยตายิ้มหวานอย่างไม่สะทกสะท้าน แล้วค่อยๆปีนขึ้นมานอนทำหน้าใสซื่อบนแผงอกแกร่ง
"นอนเถอะ พรุ่งนี้มีเรื่องต้องทำอีกเยอะ ขอพักเอาแรงหน่อย"
"นี่อะไร" มือหนาบีบคลำสิ่งของในกระเป๋ากางเกงขาสั้นของพัดชาเบาๆเพราะรู้สึกถึงอะไรบางอย่างในตอนที่มันโดนต้นขา
"กะ..กล่องคอนแทคเลนส์"
"มึงไม่ใส่คอนแทคเลนส์นะพัด" พารันหรี่ตามองคนบนอกอย่างจับผิด ไม่รอให้เธอคิดหาคำแก้ตัวก็พลิกตัวเธอลงไปอยู่ใต้ร่างทันที
"เฮ้! ทำบ้าอะไรเนี่ย!" พัดชาโวยวายกลบเกลื่อนเมื่อโดนรวบแขนทั้งสองข้างไว้ด้วยมือหนาเพียงข้างเดียว หัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งจนกลัวว่ามันจะหลุดออกมานอกเบ้าในตอนที่พารันใช้มืออีกข้างหนึ่งล้วงเข้าไปหยิบของที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงยีนส์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เพื่อน(ไม่)สนิท