“คุณนายครับ มีเรื่องนึง......ไม่รู้ว่าคุณภีมเคยบอกกับคุณหรือเปล่า” พ่อบ้านสีหน้าจริงจัง “แต่ว่า...... ผมคิดว่า ในเมื่อคุณเป็นคู่ของเขาแล้ว คุณก็มีสิทธิ์ที่จะรู้”
“เรื่องอะไรหรอ?”
“เขาเป็นโรคกระเพาะอาหารมานานแล้ว หลายปีมานี้ได้แต่พึ่งการฉีดสารละลายธาตุอาหารในการเลี้ยงชีวิตครับ”
นภาลัยตกใจมาก
พ่อบ้านพูดต่ออีกว่า “นอกจากของเหลว ไม่ว่าเขาจะกินอะไรลงไปก็จะอาเจียนออกมา”
“เมื่อวานเขาไม่ได้กินบะหมี่จนหมดหรอ?” นภาลัยจำได้อย่างแม่นยำเพราะเขาแย่งชามเธอไป
พ่อบ้านมองเธอด้วยรอยยิ้มที่ชื่นใจ “ดังนั้น คุณคือผู้ช่วยชีวิตของเขา นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีมานี้ที่เขากินอาหาร นอกจากนั้นยังไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนอีกด้วย”
“......” นภาลัยไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีเรื่องแบบนี้ด้วย?
“แต่ว่าเรื่องการเข้าครัวนี้ไม่สามารถให้คุณมาทำได้ตลอดเพราะว่าที่นี่มีพ่อครัว” พ่อบ้านพูด “ดังนั้น ผมก็เลยอยากจะเรียนการทำอาหารของคุณ ต่อไปผมจะได้ทำให้คุณภีมกินได้”
“ฉันทำอาหารไม่เก่งเลย” นภาลัยพูดตามความจริง “ไม่มีฝีมืออะไรเลยด้วยซ้ำ”
“วันนี้คุณจะทำบะหมี่ไหมครับ? ผมอยากเรียน”
“......” นภาลัยจึงให้เขาเข้าครัวไป
ทีเอ็ม กรุ๊ปสูงเทียมเมฆ ดูน่าเกรงขาม นับเป็นอาคารที่โดดเด่นและเพียบพร้อมที่สุดในเมืองไนร์ก้า
พนักงานที่เพิ่งมาถึงบริษัทเห็นพาดหัวข่าวของวันนี้ก็ได้แต่พูดคุยกันอย่างไม่อยากจะเชื่อ ——
“อะไรนะ? คุณภีมแต่งงานแล้ว? แม้แต่ลูกก็มีแล้วด้วย?”
“เป็นไปได้ยังไงกัน?”
“ผู้หญิงคนนั้นคือใครกัน? นี่ต้องสะสมแต้มบุญมากี่ชาติกันเนี่ย? นึกไม่ถึงเลยว่าคุณภีมจะซ่อนเธอเอาไว้ตั้ง 7 ปี!”
“ฉันเข้าใจมาเสมอว่าคุณภีมไม่มีอารมณ์ความรู้สึกและความปรารถนาแบบคนทั่วไป ดูท่าว่าพวกเราจะคิดไปกันเองแล้วล่ะ”
“ผู้หญิงคนนี้ดูเด็กมากเลย”
“ฉันอกหักแล้ว แม้ว่าฉันจะไม่ได้คบกับคุณภีม แต่อยู่ๆ ก็มีผู้หญิงข้างกายคุณภีม ยังไงฉันก็ยังไม่อยากจะยอมรับอยู่ดี!”
“......”
ในห้องทำงานของท่านประธานที่อยู่ชั้นบน วริศรู้สึกหน้าชา ท่านประธานช่างทำอะไรรวดเร็วจริงๆ นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะประกาศแล้ว
รถยนต์เบนท์ลีย์สีแดงกำลังมุ่งหน้ามาที่ทีเอ็ม กรุ๊ป ——
เสียงเรียกอย่างยกย่องมากมายทำให้ญาณีเดินช้าลง เธอหันกลับมาถาม “คุณภีมมาหรือยัง?”
“มาแล้วค่ะ”
เธอรีบเดินไปที่ลิฟต์เพื่อขึ้นไปข้างบน! แต่ก็ไม่วายที่จะได้ยินเสียงกระซิบดังมาจากด้านหลัง
“อยู่ๆ คุณภีมก็ประกาศว่าแต่งงานแล้ว คุณญาณีจะต้องเสียใจมากแน่ๆ เลยเนอะ?”
“ฉันคิดว่าคุณภีมและคุณญาณีเป็นเป็นแฟนกันมาตลอด แต่อย่างนี้ก็ดี ไม่มีหวังแล้ว”
เมื่อกดปุ่มปิดที่ประตูลิฟต์ สายตาของญาณีก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา ในใจเธอรู้สึกเป็นทุกข์มากจริงๆ
เธอขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนและตัดขาดจากเสียงเหล่านั้น
ที่ระเบียงทางเดิน เธอเดินมุ่งหน้าไปยังห้องทำงานของท่านประธานด้วยความรวดเร็ว!
เธอมองข้ามผ่านกำแพงกระจกที่สะอาดไปก็เห็นชายหนุ่มที่ใส่สูทและกำลังวางแผนการทำงานอยู่ที่โต๊ะทำงาน
เมื่อเห็นเขา เธอก้รู้สึกใจอ่อนขึ้นมาทันที มีความคิดถึง มีความคาดหวัง...... อารมณ์ต่างๆ ปะปนซับซ้อนกันไปหมด
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” เธอเดินเข้าประตูมาและมุ่งตรงไปหาเขาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม “กลับประเทศมาคราวนี้ มีข่าวดีจะมาบอกกับคุณด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก