สาวใช้ชาวฟิลิปปินส์เตือนด้วยความหวังดีว่า “คุณภีมบอกว่าเขาจะกลับเมืองไนร์ก้าแล้ว ดังนั้นให้คุณเตรียมตัวทันที”
“ตอนนี้?” เมื่อคืนเธอนอนไม่หลับ เธอยกข้อมือขึ้นแล้วเหลือบมองนาฬิกา “เพิ่งตีห้าน่ะ!”
สาวใช้ชาวฟิลิปปินส์กล่าวว่า “เขาบอกว่าคิดถึงภรรยา เมื่อคืนเขานอนไม่หลับ เขาไม่อยากรอแม้แต่วินาทีเดียว คุณรีบเตรียมตัวเถอะ”
ญาณีพูดไม่ออก “ฉันเข้าใจแล้ว” เธอปิดประตูแล้วเปลี่ยนเสื้อด้วยความหงุดหงิด จากนั้นก็เก็บสัมภาระ
สิบนาทีต่อมา
บนเครื่องบินส่วนตัวที่บินจากนิวยอร์กไปเมืองไนร์ก้า ญาณีมองอาหารเช้ามากมายที่อยู่บนโต๊ะ เธอไม่รู้สึกอยากอาหารแม้แต่น้อย แต่กลับรู้สึกกระสับกระส่าย!
แต่เด็กทั้งสองคนกินอย่างเอร็ดอร่อย
ภีมพลนั่งตรงข้ามญาณี มองทิวทัศน์ที่อยู่นอกหน้าต่าง ใบหน้าที่หล่อเหล่าของเขามีรอยยิ้มจาง ๆ
แสงยามเช้าที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่าง และส่องอยู่บนร่างกายของเขา ทำให้เขาเหมือนคนอ่อนโยน ไม่เหมือนประธานแม้แต่น้อย
ความเป็นจริงแล้ว หลังจากเด็ก ๆ ปรากฏตัวออกมา ภีมพลก็กลายเป็นคนอ่อนโยนขึ้น
หลังทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว เด็ก ๆ หยิบแท็บเล็ตออกมาเล่น
“คุณพ่อ แย่แล้ว!” แชมป์ยื่นแท็บเล็ตไปอยู่ตรงหน้าเขาทันที “คุณพ่อดูข่าวนี้สิ!”
ญาณีได้สติกลับมาเช่นกัน เธอรีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา
“ภาพถ่ายครอบครัวสี่คน” ชัดเจนทุกภาพ เป็นภาพที่สมบูรณ์แบบมาก แต่ละภาพก็อบอุ่นและน่ารัก
แคปชั่นและพาดหัวข่าวของสื่อต่างประเทศบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง พวกเขาทำทุกอย่างเพื่อให้กลายเป็นข่าวดังโดยไม่คำนึงถึงอะไรทั้งนั้น
ไม่รู้ว่าพวกเขาเจตนาหรือไม่ พวกเขาเขียนข่าวว่าญาณีเป็นแม่ของเด็ก ๆ และเรียกเธอว่าคุณนายญาณี
ภีมพลไม่ได้อ่านอย่างละเอียด เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาด้วยสีหน้าเย็นชา แล้วโทรไปหาวริศอย่างรวดเร็ว
คะนึงนิตย์สวมหน้ากากครึ่งหน้า เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า เธอหันมามองนภาลัยด้วยสายตาเย็นชา
“คุณอย่าทำร้ายฉันอีก” นภาลัยยืนห่างจากเธอหนึ่งเมตรและกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ไม่ใช่เพราะภีมพลกลับมาแล้ว ฉันเลยมีที่พึ่ง แต่เป็นความอดทนมีขอบเขต”
คะนึงนิตย์ขมวดคิ้ว ผู้หญิงคนนี้เป็นคนเอ่ยปากพูดก่อน?
“ถ้ามีเรื่องอะไรก็คุยกันดี ๆ พวกเราต่างก็เป็นคน และสามารถสื่อสารผ่านภาษาได้” นภาลัยสบตาเธอ ไม่อ่อนน้อมถ่อมตนหรือเย่อหยิ่ง “ฉันรู้ว่าคุณไม่ชอบฉัน แต่ฉันไม่ใช่ธนบัตร ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะชอบฉัน”
“คุณพูดจบหรือยัง?” คะนึงนิตย์หรี่ตาอย่างรวดเร็ว และมองเธอด้วยสายตาเตือน
“ยังไม่จบ” เธอกล่าวต่อไปว่า “ถ้าคุณจงใจทำให้ฉันรู้สึกลำบากใจต่อหน้าเด็ก ๆ ฉันจะไม่กล้ำกลืนฝืนทน ฉันจะบอกคุณว่าฉันเคยฝึกเทควันโด และเป็นสายดำระดับ 9”
ตอนนี้สีหน้าของคะนึงนิตย์เย็นชามาก
“สิ่งที่ฉันพูดวันนี้ไม่ใช่เพื่อยั่วยุคุณ เพียงแค่เตือนคุณด้วยความหวังดีเท่านั้น” เธอพูดช้า ๆ ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน “ฉันเคารพคุณด้วยใจ และต้องการรักษาคุณให้หายเป็นปกติ ฉันพูดจบแล้ว ตอนนี้คุณพูดเถอะ ฉันจะตั้งใจฟัง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก