เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น นิยาย บท 142

เขตชายแดนทะเล เกาะร้าง

ป้าย “SOS” สี่ป้ายที่ใช้ก้อนหินจัดวาง กระจายเป็นสี่ทิศทางบนเกาะร้าง SOSเหล่านี้เป็นเย่เฟิงที่ลากขาไร้ความรู้สึกข้างหนึ่ง กับเอี๋ยนต้าฟาจัดวางด้วยกัน

“อย่ากังวล ในไม่ช้าก็จะมีคนมาช่วยพวกเราแล้ว” เย่เฟิงหายใจแรง และไม่ลืมที่จะปลอบเด็กน้อย “SOSคือสัญลักษณ์ขอความช่วยเหลือเมื่อประสบภัยที่ใช้กันทั่วโลก ไม่ว่าใครได้รับสัญญาณนี้ ไม่ว่าประเทศไหนก็มีหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ ความหวังในการอยู่รอดของเรายังมีอยู่มาก”

“ครับ” เอี๋ยนต้าฟาพยักหน้า เขาใช้เกล็ดหินขุดดิน เย่เฟิงก็รีบมาเข้าร่วม สองมือขุดจนเต็มไปด้วยเลือด พวกเขาขุดหลุมก็เพื่อกลบตัวเองเอาไว้

ที่นี่อุณหภูมิแย่มาก กลางวันร้อนจนแทบจะตาย แดดแผดเผาคนจนน้ำมันไหลซึม ตอนเย็นหนาวจนตัวสั่น ขัดหลุมเสร็จสองอาหลานก็หลบเข้าไปในหลุมด้วยกัน จากนั้นก็ใช้สาหร่ายตากแห้งปิดไว้ด้านบน เพื่ออยากจะหลับสักคืน

เอี๋ยนต้าฟาไม่ได้ดื่มน้ำมาสองวันล้า กระหายจนหน้าซีดเหลือง เขานั่งยองๆ ข้างตัวคุณอาโดยไม่พูดอะไรสักคำ อ่อนโยนเหมือนกับแพนด้าน้อย เย่เฟิงมองดูอย่างสงสารจนแทบจะบ้า

เสียงลมทะเลสวบสวบ คลื่นกระทบซู่ซ่า ตรงหน้าคือท้องทะเล แต่ไม่มีน้ำสักหยุดที่สามารถดื่มได้

เย่เฟิงมีจิตวิญญาณการผจญภัยอย่างเต็มที่ เขาดื่มปัสสาวะเด็กของเอี๋ยนต้าฟา จึงมีแรงขึ้นเยอะ

กลางวันร้อนเกินไป เหมือนกับนึ่งหมั่นโถวอย่างไรอย่างนั้น ขาของเขาบวมและเกิดหนองอย่างรวดเร็ว เลือดไหลออกมาจากกระดูก จากนั้นก็เริ่มป็นไข้สูง เขาสะลึมสะลือ ไม่เพียงดูแลเอี๋ยนต้าฟาไม่ได้ กลับยังต้องให้เอี๋ยนต้าฟามาดูแลเขา

เย่เฟิงรู้สึกผิดมากๆ แต่ก็หมดปัญญา จึงทำได้เพียงสอนทักษะการเอาชีวิตรอดให้กับเด็กน้อยในตอนที่มีสติ “ต้าฟา อดทนไว้นะ! พรุ่งนี้เช้า นายก็จะได้ดื่มน้ำแล้ว ทุกวันตอนเช้าจะมีทะเลหมอก ถึงเวลาจะกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ ถึงแม้จะน้อย แต่ก็พอที่จะประทังชีวิตได้”

“ผมอดทนได้ครับ คุณอาก็จะต้องทนไว้นะ...” เอี๋ยนต้าฟาสัมผัสขาข้างที่หักของเย่เฟิงเบาๆ ปากเล็กๆ ขยับเข้าไปใกล้แล้วพ่นลม เหมือนกับเป่าแล้วก็จะไม่เจ็บแล้ว

“ขอบคุณนะเด็กน้อย” ยามลำบากถึงจะได้เห็นความจริงใจ เย่เฟิงซาบซึ้งจนอยากจะร้องไห้ แต่ในที่สุดก็ยิ้มแล้ว “อาของนายรักสวยรักงาม ชอบทำเท่า ใครจะไปคิดว่ายังหล่อไม่พอ ก็จะกลายเป็นคนขาเป๋แล้ว”

เขาถูกทรมานจนหมดสภาพแล้ว ใบหน้าที่หล่อเหลาผมซูบจนซีด หนวดเคราก็ยาวออกมา ลากขาไร้ความรู้สึกเหมือนกับคนบ้า น่าเสียดายจริงๆ นะ!

“คุณอา ขาของคุณอายังดีอยู่เลย”

เอี๋ยนต้าฟาขยับเข้าในอ้อมกอดของเขา แล้วพูดอย่างจริงจัง “อีกอย่างต่อให้ขาพิการ ก็เป็นทหารขาพิการ เป็นคนพิการที่หล่อเหลา คนสวยแต่ละคนแย่งชิงกันเพื่ออยากจะเป็นขาให้คุณอา ถ้าหาก อูเจินจูฟื้นแล้ว จะต้องตกหลุมรักคุณอาตั้งแต่แรกเห็น”

“ฮ่าฮ่า...ปากหวานจริงเลยนะ” เย่เฟิงยิ้มอย่างพึงพอใจ เขายกมือขึ้นอย่างกินแรง แล้วขยี้หัวของเอี๋ยนต้าฟา “นายรู้ได้ยังไงว่า อูเจินจูชอบอา?”

“น้าเจินจูชอบคนหล่อ วันนั้นพวกเราจอดรถตรงประตู คฤหาสน์ตระกูลเซียว ตอนที่ถูกอาขับไล่ เธอตาค้างแล้ว ภายหลังเธอเหม่อลอย จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่อย่างงั้นจะถูกรถชนได้ยังไงล่ะ?

เสียงเล็กของเอี๋ยนต้าฟาแหบเพราะขาดนั้น แต่เพราะมากๆ

“พูดมีเหตุผลดี” เย่เฟิงอารมณ์ดี สภาพจิตใจก็ดีขึ้นเยอะ

เอี๋ยนต้าฟาขอโทษ อูเจินจูในใจ: ขอโทษด้วยนะครับ น้าเจินจูผมบรรยายคุณน้าแบบนี้เพื่อที่จะช่วย คุณอาเย่เฟิงให้กำลังใจเขา ผมรู้ว่าบางทีคุณน้าอาจจะไม่ชอบเขา แต่ในช่วงความเป็นความตาย หวังว่าคุณน้าจะไม่ใจแคบนะครับ...

เช้าวันต่อมา บนสาหร่ายแห้งมีหยดน้ำค้างอยู่

อาการบาดเจ็บของเย่เฟิงร้าแย่ลงยิ่งกว่าเดิม แต่ก็ยังฝืนตั้งสมาธินำหยดน้ำในฝ่ามือ ให้เอี๋ยนต้าฟาดื่ม เขาไม่มีความจำเป็นที่ต้องดื่มแล้ว

เห็นเด็กน้อยแลบลิ้นเลียมือของตัวเอง เย่เฟิงทั้งสงสารทั้งเจ็บปวดใจ เขาร้อนใจจนในปากเกิดร้อนใน เขาแทบอยากจะสับตัวเองเป็นเนื้อสับแล้วให้เด็กน้อยกิน

ฟ้าเพิ่งสว่าง พระอาทิตย์เริ่มทอแสง เย่เฟิงฝืนต่อไปไม่ไหวแล้ว สุดท้ายพูดเขาประโยคหนึ่ง “ต้าฟา นายห้ามตื่นน้ำทะเลเด็ดขาดนะ” จากนั้นก็สลบไป และไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นขึ้นมาอีก

SOS!

ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่สามตัวนี้สะท้อนชัดเจนในดวงตาดำอันชาญฉลาดของเขา เซียวเซิ่งเลือดสูบฉีดในทันที

สามวันแล้ว เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอี๋ยนต้าฟาจะอยู่ที่นี่

ตั้งแต่จงโจวค้นหาตลอดทาง เปลืองเวลาไปแล้วหนึ่งวัน เป็นเวลาสามวันแล้วที่เอี๋ยนต้าฟาหายตัวไป สามวันเป็นตัวเลขที่อันตราย ถ้าหากมนุษย์ไม่ดื่มน้ำ เกิน 72 ชั่วโมงความเป็นไปได้ในการมีชีวิตรอดนั้นน้อยมาก

“ท่านประธาน ด้านนั้นมีสัญลักษณ์ SOS อยู่ครับ ไม่รู้ว่าใช่พวกเย่เฟิงหรือเปล่า” นักบินก็เห็นป้ายที่วางด้วยหินขาว คนที่อยู่ในเฮลิคอปเตอร์สองลำพากันตื่นเต้น แลกเปลี่ยนมุมมองอย่างต่อเนื่องบนโทรศัพท์ผ่านดาวเทียม

ไม่ว่าในใจของเซียวเซิ่งจะร้อนใจขนาดไหน แต่คำพูดที่พูดออกมาก็ยังเคร่งขรึม “ไม่ว่าจะใช่เย่เฟิงหรือไม่ ก็จะต้องช่วย”

เขาช่วยคนอื่น และก็หวังว่าคนอื่นจะช่วยลูกของเขา

“ท่านประธานครับ กระแสน้ำวนนี้น่ากลัวเกินไป พวกเราไม่มีทางเข้าใกล้ได้เลย ไม่อย่างงั้นอาจจะถูกดูดเข้าไป” นักบินคนหนึ่งคาดสถานการณ์

เซียวเซิ่งรู้ว่าเขาไม่ได้พูดเว่อร์ ตัวอย่างเช่นเขตสามเหลี่ยมในมหาสมุทรแอตแลนติกซึึ่งครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 10 ตารางไมล์ เรียกว่าสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา เรือและเครื่องบินที่ผ่านไปมาจะต้องถูกดูดเข้าไป...

แต่ถ้าหากรอให้พายุทอร์นาโดหยุดลง ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ คนที่ถูกปิดล้อมไม่สามารถรอได้แล้ว

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เซียวเซิ่งตัดสินใจฝ่าเข้าไป ชีวิตของทุกคนมีค่า เขาไม่อยากบังคับให้คนที่ตามเขาเข้าไปส่งมอบความตาย…

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น