เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น นิยาย บท 143

“ท่านประธาน พวกเราจะให้คุณไปเสี่ยงคนเดียวได้ยังไงครับ!”

หลังจากฟังการตัดสินใจของเซียวเซิ่ง คนที่ติดตามมาด้วยปฏิเสธอย่างแข็งขัน “เอาเงินเดือนจากผู้อื่น ก็ต้องทำงานให้ผู้อื่น! ปกติเป็นเพราะการดูแลจากเจ้านาย พวกเรากินดีอยู่ดี ภรรยาลูกสาวลูกชายได้อาศัยบารมีไปด้วย! ช่วงเวลาสำคัญ ถ้าหากคิดว่าชีวิตของตัวเองมีค่า งั้นก็น่าขำมาก!”

“ไม่ผิดครับ ทุกคนฝ่าเข้าไปด้วยกัน พวกเราไม่กลัวตาย!” สามคนที่มาด้วยกันอารมณ์ฮึกเหิม ความรู้สึกภาคภูมิใจในการปกป้องครอบครัวและเจ้านายถูกกระตุ้น แต่ละคนกระตือรือร้น คันไม้คันมือ

คนพวกนี้เป็นทหารผ่านศึก ซื่อสัตย์เป็นอย่างมาก ปกติก็ได้บุญคุณมาจากเซียวเซิ่งมากมาย

เซียวเซิ่งถึงแม้จะเลือดเย็น ไร้รอยยิ้ม แต่ไม่ดูถูกคนอื่น และไม่วางท่าต่อหน้าพวกเขา พูดว่าเป็นสถานะนายจ้างลูกน้อง แต่อันที่จริงก็เหมือนกับพี่น้อง ดังนั้นจึงเป็นที่รักใคร่ของผู้อื่น

ช่วงเวลาสำคัญ มีคนยอมตายเพื่อเขา นี่คือเสน่ห์เกียรติคุณของเซียวเซิ่งที่มีอยู่

“พวกนายเฝ้าไว้ตรงนี้ ไม่แน่อาจจะจับกระต่ายได้” เซียวเซิ่งมองไปรอบด้านอย่างเย็นชา เขาแอบรู้สึกว่ารอบด้านมีคนแปลกหน้าอยู่ ดวงตาร้ายกาจสีดำหรี่ลง

“กระต่าย? ท่านประธาน คุณหมายความว่า...”

เซียวเซิ่งยิ้มเยาะ “ถ้าหากคนที่อยู่บนเกาะร้างไม่ใช่เย่เฟิงก็โชคดี แต่เมื่อเป็นเย่เฟิงเอี๋ยนต้าฟา เรื่องก็ใหญ่แน่”

“ท่านประธาน ถ้าหากเป็นพวกเขา พวกเราควรจะดีใจสิ!” ทุกคนไม่เข้าใจ

เซียวเซิ่งดวงตาเคร่งขรึม ยกมือชี้ไปทางทิศเหนือ “ระยะทางตรงนี้จากเกาะร้างที่ หุบเขารอยเลื่อนจงโจว อย่างน้อยหลายสิบล้านไมล์ทะเล พวกนายเชื่อว่าพวกเขาถูกลมพัดมาที่นี่เหรอ? ถูกพัดมาที่นี่ยังจะมีวิตรอดเหรอ?”

ทุกคนตกตะลึง มองตากันและกัน พวกเขารู้สึกเสียงสันหลังในทันที “ท่านประธาน คุณหมายความว่า...มคนใช้เฮลิคอปเตอร์พาพวกเขามาที่นี่?”

“เบื้องแรกเดาว่าเป็นแบบนี้ มีคนอยากจะเล่นกับฉัน” เซียวเซิ่งบอกไม่ถูกว่าทำไมตัวเองถึงมีความรู้สึกอะไรแบบนี้ แต่ความรู้สึกนี้ยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรง

ครั้งก่อนที่เอี๋ยนต้าฟาตกน้ำที่โรงเรียนอนุบาล จนถึงตอนนี้คนร้ายตัวจริงยังสืบหาไม่พบ เขาคิดมาตลอดว่าไม่ธรรมดา ครั้งนี้เล่นหายสาบสูญ

เกินความคาดหมายมนุษย์ เหมือนว่ามีมือใหญ่ที่มองไม่เห็นเล่นกับโชคชะตา...แต่ความเป็นจริง เป็นฝีมือของคน รู้ว่าเขาให้ความสำคัญกับเด็กคนนี้ ก็จัดการเด็กคนนี้ให้เขาร้อนใจ

เหมือนกับเอาเชือดรัดคอเขาไว้ ผ่านไปช่วงหนึ่งก็จะรัดเชือกแน่น รอให้เขาหายใจไม่ออก ก็ปล่อยเชือก...ทำแบบนี้ซ้ำไปมา

“เป็นไอบ้าที่ไหนที่ระยำขนาดนี้ เล่นลับหลัง?” ทุกคนขุ่นเคือง

“ไม่ต้องไปสนเขาก่อน เดี๋ยวฉันจะขับเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งเข้าไป ถ้าหากเห็นสถานการณ์ไม่ดี พวกนายถอยไปก่อน” เซียวเซิ่งตรวจสอบปืนตรงบริเวณเอว แล้วหยิบมีดพกขึ้น “รีบหยิบอาวุธขึ้น ป้องกันมีคนโจมตี!”

ปัง ปัง!

ทุกคนยังไม่ทันตั้งตัว จู่ๆ เฮลิคอปเตอร์ถูกกระสุนยิง หางเริ่มติดไฟ อาจจะระเบิดได้ตลอดเวลา

ทุกคนรีบหมอบลง มองหาคนที่ยิ่ง แต่ระหว่างท้องฟ้ากับพื้นบกว่างเปล่า ไม่มีสักคนเดียว

เซียวเซิ่งไม่คิดอะไรทั้งนั้น เขากระโดดขึ้นเฮลิคอปเตอร์แล้วบินออกไป ขึ้นสู่ความสูงระดับหนึ่ง แล้วตรงไปที่เกาะร้าง ขณะเดียวกันก็กดกลไกเปิดใช้งานการดีดที่นั่งออกพร้อมกัน...

ตูม!

เฮลิคอปเตอร์ปีกหมุนก่อนแล้วถูกระเบิด จากนั้นกระจกบังก็บินออกไป เซียวเซิ่งถูกเด้งออก วินาทีต่อมาเฮลิคอปเตอร์ก็ระเบิดกลางอากาศ แตกสลาย...

“กรี๊ด...เซียวเซิ่ง!”

ที่จงโจวเป็นเวลากลางดึก เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนอนหลับไม่สนิท จู่ ๆ กรีดร้องแล้วลุกขึ้นนั่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตา

มึนงงอยู่พักหนึ่ง ถึงได้คิดได้ว่าตัวเองฝันร้าย ฝันว่าเซียวเซิ่งตายแล้ว ผู้ชายที่เคยนอนข้างกายเธอ คนที่ตามตื๊อให้เธออาบน้ำให้ ถูกระเบิดแหลกเป็นเสี่ยงๆ...

หัวใจเหมือนถูกมีดแทง เจ็บเป็นอย่างมาก เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนรีบหาโทรศัพท์ อยากจะโทรหาเซียวเซิ่ง ถึงได้พบว่าตัวเองไม่รู้เบอร์ของเขา

เธอบันทึกเบอร์ของทุกคน เว้นเพียงแต่เซียวเซิ่ง เหมือนกับว่าแบบนี้ก็สามารถมองข้ามความมีอยู่ของเขาได้...

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนตกใจ แล้วยืนจ้องมองเขาอย่างประหลาดใจอยู่ตรงนั้น เธอกัดปาก

โอเล่ย์รู้สึกตัวว่าตัวเองรุนแรงเกินไป เขารู้สึกผิดเล็กน้อย แต่ก็ใจร้ายขึ้นมาอีก “ทุกอย่างที่ท่านประธานทำ ไม่ใช่เพื่อได้รับความรักจากเธอเหรอ ไม่อย่างงั้นเธอคิดว่าเขาว่างขนาดน้นเลยเหรอ วนเวียนอยู่รอบตัวเธอทุกวัน? เธอบีบบังคับให้เขากลายเป็นโรคจิต เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน ฉันไม่เคยเจอผู้หญิงใจร้ายแบบเธอมาก่อน! ท่านประธานตายแล้วก็พอดีเลย เธอจะได้ไม่ต้องลำบากก่อเรื่องหย่า...”

แต่ละคำพูดทิ่มแทงใจ

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเจ็บปวดหัวใจ ดวงตาถูกหยดน้ำบดบังไว้ “ฉันไม่ได้ให้เขาวนเวียนอยู่รอบตัวฉัน เป็นเขาเอง...พลั่ก!”

ยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกโอเล่ย์ผลักอย่างแรง ผลักไปบนเตียงของเขา กลิ่นหอมจางๆ ของโคโลญจน์โชยเข้าจมูก

“ผู้หญิงไร้จิตใจ ฉันไม่รู้ว่าเขารักเธอตรงไหน ฉันไม่รู้ว่าฉันรักเธอตรงไหน!” โอเล่ย์พูดอย่างเศร้าโศก เขาเปิดประตูเดินออกไป

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยคนร้อนใจ ไม่ได้คิดถึงความหมายของเขา เธอลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วตามโอเล่ย์มา “นายวู่วามขนาดนี้ เกิดอะไรขึ้นใช่ไหม? นายบอกฉันว่าเกิดเรื่องขึ้นใช่ไหม?”

“เธอทำไมไม่คิดในแง่ดีหน่อย?” โอเล่ย์จับลูกบิดประตูเย็นเยือกไว้แน่น

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเบือนหน้าหนี น้ำตาไหลลง “โอเล่ย์ ฉันไร้จิตใจยังไง? เซียวเซิ่งบ้าอำนาจขนาดไหน นายก็รู้ อีกอย่างสวี่เจียนก็ไม่ได้ทำผิดกับฉัน ยังไงฉันก็ทอดทิ้งเขาก่อนไม่ได้! เปลี่ยนความคิดดู ถ้าหากฉันรักนายสี่ปี จู่ๆ นายไปรักคนอื่นโดยไม่บอกกล่าว นายจะคิดยังไง?”

“ได้ เธอมีความรู้สึก มีเลือดมีเนื้อ”

โอเล่ย์อยากจะออกไป แต่เห็นเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนน้ำตาไหลนอง ความงามที่น่าเศร้า เขาใจอ่อนขึ้นมาในทันที จากนั้นถอนหายใจจับเธอกดลงตรงหน้าอก “ไม่ได้เกิดอะไรขึ้น สาวน้อย เธอคิดว่าตัวเองนักพยากรณ์เหรอ ฝันถึงใครตาย คนนั้นก็ต้องตาย? กลับไปนอนซะ อย่าดื้อนะ”

พูดจบ เขาอดไม่ได้ที่จะจูบหน้าผากเธอด้วยความสงสาร การจูบที่ร้อนผ่าว เร่าร้อน และสั่นคลอน

โอเล่ย์มีชีวิตยี่สิบสี่ปี เธอคือผู้หญิงคนแรกที่เคยจูบ ถึงแม้จะแค่หน้าผาก แต่ก็เหมือนไฟช็อต ร่างกายครึ่งหนึ่งอ่อนปวกเปียก…

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น