เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น นิยาย บท 202

“หม่ามี๊ วันนี้จะไปส่งผมที่โรงเรียนกับแด๊ดดี้ใช่ไหม?”น้ำเสียงของเด็กน้อยเอ่ยถามด้วยความออดอ้อน

“ใช่!” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนรีบตอบทันที เมื่อเธอลืมตาขึ้นพบว่าชุดนอนของเธอถูกเปิด ผิวพรรณเป็นสีชมพูเรื่อ ถูกฝ่ามือของสามีลูบไล้เสียจนแดง ช่างน่าอายจริง “ที่รักคะ คุณรีบ......ลุกขึ้นมา”

เซียวเซิ่งโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขน แล้วติดกระดุมให้เธออย่างใจเย็น “ไปล้างหน้าเถอะ”

“ต่อจากนี้ถ้าตอนลูกอยู่ อย่าแตะต้องฉันอีกนะ” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนตะคอกออกมาเบาๆ แล้วเดินไปทางห้องน้ำด้วยเท้าเปล่า

“เรื่องนี้เธอจัดการได้หรือไงกัน?” เซียวเซิ่งยกมือขึ้นลูบผมสีดำขลับ และเดินตรงไปที่ประตูเพื่อให้ลูกชายเข้ามาข้างใน......

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนยืนอยู่ด้านหลังประตูในห้องน้ำแล้วเงี่ยหูฟังเหตุการณ์ด้านนอก

พบว่าสองพ่อลูกสนทนากันได้ดีทีเดียว จึงรู้สึกโล่งใจและอารมณ์ดีไม่น้อย ชีวิตของเธอราวกับถูกคลุมไว้ด้วยชุดเกราะ ท่ามกลางการต่อสู้ ถังเหวยและเอียนหยู่โรวไม่ใช่ปัญหาเลย แต่สำหรับแม่สามีเธอ......เธอต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมหน่อยแล้ว

หลังจากล้างหน้าล้างตาเสร็จ เซียวเซิ่งก็พาภรรยาและลูกไปรับประทานอาหารที่ร้านเก่าแก่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง พวกเขากินเกี๊ยวและซาลาเปาไส้อย่างมีความสุข ภาพอันอบอุ่นของทั้งสามคนดึงดูดสายตาผู้คนไม่น้อย

ตรงข้ามกับร้านอาหารมีรถมาเซราติสีทองจอดอยู่ เซี่ยจิ่นมองผ่านฉากนี้ด้วยแว่นตากันแดดของเธอแล้วอยากจะพาลูกชายออกมาเสียจริง

เธอไม่ชื่นชอบเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนอย่างมากจนเข้ากระดูกดำ คาดว่าชีวิตนี้คงไม่อาจพลิกผันสถานการณ์ได้

เซี่ยจิ่นนวดไปที่หัวคิ้วของเธอ แท้จริงแล้วเธอก็ไม่ใช่คนเลว และไม่อยากจะไปทำร้ายสองแม่ลูก เพียงแต่ว่าเธอไม่สามารถยอมรับเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเป็นสะใภ้ได้ และจะไม่มีวันนั้นแน่นอน เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนอยากจะเข้ามาอยู่ในตระกูลเซียวเหรอ? ไม่มีทาง

เธอได้วางแผนในการจัดการเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนไว้สามอย่าง และหากไม่เป็นผล เธอก็จะใช้ความตายในการบีบบังคับ

ต่อให้เซียวเซิ่งจะเลือดเย็นเพียงใด คาดว่าคงไม่สามารถมองเห็นแม่ของตัวเองตายไปแบบนี้ได้ เขายังไม่ได้อกตัญญูถึงขั้นนี้......

ในขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น

เซี่ยจิ่นหงุดหงิดมาก เธอกำลังจะวางสายลง แต่เมื่อพบว่าหมายเลขที่โทรมาขึ้นชื่อว่าพี่สาวใหญ่ เซี่ยจิ่นลนลาน เธอก็ถึงกับตกตะลึงแล้วรีบรับสายอย่างรวดเร็ว “พี่คะ”

“ถ้าไม่อยากรับสายก็กดวางไปสิ จะฝืนรับด้วยความรู้สึกเจ็บปวดแบบนี้ทำไม พอเธอรู้สึกแย่ เธอก็ไปเป่าล้มที่ข้างหูน้องชายฉัน และเขาก็ไม่ยอมรับพี่สาวคนนี้แล้ว ฉันกลัวจริง!” เซียวจวินหรูพูดจบก็วางสายลง

เซี่ยจิ่นทั้งโมโหและอับอาย จึงรีบโทรกลับทันที

เซียวจวินหรูไม่ใช่คนที่จัดการได้ง่ายดาย เธอไม่ชื่นชอบน้องสะใภ้คนนี้เสมอมา หลายต่อหลายหนที่เธอตั้งใจจะขัดขวางการแต่งงานของพวกเขา แต่ท้ายที่สุดแล้วน้องชายผู้น่าเบื่อก็แต่งงานกับเซี่ยจิ่น ด้วยความโมโหเธอจึงย้ายรกรากไปที่ต่างประเทศ

ดังนั้นทุกครั้งที่กลับมา เซียวจวินหรูจะทรมานเซี่ยจิ่นทุกวิถีทาง ทั้งกดขี่ข่มเหงทางจิตใจ ใช้วาจากระแทกแดกดัน สิ่งเหล่านี้เพียงพอแล้วที่จะเป็นฝันร้ายของเซี่ยจิ่น

ก่อนหน้าที่เธอจะแต่งงานกับเซียวจวินเซิง เธอรู้สึกดีที่เธอไม่ต้องมีแม่สามีคอยกดดันและคอยรับความโกรธเหล่านั้น ใครจะรู้เล่าว่าพี่สาวของเขาจะเป็นปรปักษ์กับเธอยิ่งเสียกว่าแม่สามีนับสิบคนเสียอีก หัวใจของเธอช่างเย็นชา

ผ่านไปเนิ่นนานทีเดียว เซียวจวินหรูจึงได้รับสายขึ้นด้วยความเมตตา เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดเย็นชาว่า “มีเรื่องอะไร?”

“ขอโทษค่ะพี่ ฉัน......”

“ฉันอะไร?” เซียวจวินหรูพูดขึ้นขัดคำพูดของเธอ แล้วตัดบทว่า “ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าให้รับสายฉันตั้งแต่วินาทีแรก”

“พี่คะ ขอโทษ เมื่อสักครู่ฉันขับรถอยู่เลยรับสายช้าไปหน่อย” เซี่ยจิ่นนยิ้มด้วยใบหน้าอันรู้สึกผิด ก่อนจะเอ่ยถามสารทุกข์สุกดิบต่าง ๆ นานา ท่าทางดูต่ำต้อยดุจดั่งผู้รับใช้ ไร้ซึ่งรัศมีของหญิงแกร่งไปอย่างสิ้นเชิง

“เอาเถอะ” เซียวจวินหรูพูดขัดเธอขึ้นอย่างรำคาญใจ “ฉันจะขึ้นเครื่องแล้ว บอกไม่ได้หรอกว่าเมื่อไหร่จะถึงจงโจว เธอไปรอรับฉันที่สนามบินตั้งแต่ตอนนี้ ถ้าฉันลงเครื่องเมื่อไหร่จะต้องเห็นเธอเป็นอันดับแรก อ้อ แล้วก็ช่วยโทรศัพท์เรียกเซียวจวินม่อกลับมาด้วยนะ บอกว่าฉันคิดถึงเขา แล้วครั้งนี้อย่าเผลอตัวเข้าไปในอ้อมกอดเขาอีก”

นี่เป็นครั้งแรกที่เอี๋ยนต้าฟามาโรงเรียนโดยพ่อและแม่มาส่งพร้อมหน้ากัน ทำให้เขาอารมณ์ดีมาก

ก่อนจะเข้าไปนั้น เขาจับไปที่ใบหน้าของแม่ตนเองพูดว่า “หม่ามี๊ ทำตัวให้ดีนะครับ อย่าทำให้ตัวเองลำบากใจ แล้วก็อย่าอารมณ์เสียใส่แด๊ดดี้ ระวังเขาจะจัดการหม่ามี๊เอา ถึงอย่างไรคนที่รักและเป็นห่วงหม่ามี๊มากที่สุดในโลกก็คือผม......”

เจ้าเด็กนี่......โจมตีแด๊ดดี้อีกแล้ว

ก็แด๊ดดี้ของเขามีประวัติไม่ดีก่อนนี่นา

เซียวเซิ่งเผยอริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยแล้วก้มเอวลงมาอย่างสง่างาม ไว้หน้าเจ้าหนูน้อยไม่เบา “แด๊ดดี้สาบานต่อฟ้าดินว่าทั้งชีวิตนี้ จะไม่ทำร้ายทุบตีหม่ามี๊อีก ไปโรงเรียนได้แล้วไม่ต้องกังวล”

เอี๋ยนต้าฟาอยากได้ยินเพียงประโยคนี้ ดังนั้นเขาจึงโค้งตัวเคารพพ่อแม่อย่างนอบน้อมแล้วหันหลังเอามือล้วงกระเป๋าเดินเข้าไปในโรงเรียนอย่างเท่ ใบไม้ใบหนึ่งหล่นลงมาบนกระเป๋าหนังสีดำของเขา

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนตั้งใจจะเข้าไปปัดใบไม้นั้นให้กับลูกชาย

เซียวเซิ่งรู้ดีว่าเธอไม่อยากไปจากลูกชาย จึงยกมือขึ้นรั้งเธอเอาไว้พูดว่า “อย่าปฏิบัติกับลูกชายแบบเอาอกเอาใจให้เคยชิน จะไม่ดีต่อนิสัยส่วนตัวของเขา”

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนไม่มีทางเลือกอื่นจึงทำได้เพียงยอมแพ้ แล้วเอนกายเข้าไปในอ้อมแขนของเขา ดวงตาแดงเรื่องมองดูลูกชายน้ำตาแทบจะไหลออกมา

เอี๋ยนต้าฟาสวมเสื้อสีขาว เป็นชุดสูทที่พอดีตัว มองไปช่างเหมือนสุภาพบุรุษ ทำให้ผู้คนพากันชื่นชอบ แต่นิสัยอันเย็นชาและสไตล์ที่สงบเงียบของเขา ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกเคารพ

“เด็ก ๆ คะ วันนี้โรงเรียนของเราจะมีการตรวจร่างกายนะ” เมื่อไปถึงห้องเรียนคุณครูก็ออกมาประกาศหน้าชั้นเรียนแล้วพาเด็ก ๆ ไปเจาะเลือด เก็บตัวอย่างเส้นผม

ตอนที่เจาะเลือด เด็กคนอื่นล้วนพากันหวาดกลัว มีเพียงเอี๋ยนต้าฟาที่ยังคงไม่เปลี่ยนสีหน้า ทำท่าทางเหมือนกับเป็นราชาขึ้นทันที......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น