กัดฟันอดกลั้นมานาน โอเล่ย์ถึงจะอดกลั้นแรกกระตุ้นที่จะล้มเธอลงกับพื้น
ที่เรียกว่าข่าวลือถูกสร้างขึ้นโดยผู้หญิงอย่างถังเหวยนี้สินะ ? เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเสียเปรียบมาก เขาไม่เชื่อว่าเสี่ยวเนี่ยนจะทำเรื่องเลวร้ายและเบี่ยงประเด็นให้คนอื่นเพื่อพ้นผิด นั่นเป็นเพราะเขาเข้าใจเสี่ยวเนี่ยนดี แต่คนอื่นล่ะ ?
พอดีกับที่มีพนักงานหญิงสองคนเดินผ่านมาจากข้างนอก เสียงพูดคุยของพวกเธอทะลุเข้ามาจากซอกประตู—
“ได้ยินว่าเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนนั่นตอบประเด็นไม่ได้ ก็หาข้อบกพร่องของจอแสดงผล น่าขำจริง ๆ ! รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง !”
“เหอะ ๆ ...ก็จริง เธออาศัยคนตำแหน่งสูงคลุมก็อยากที่จะชุบมือเปิบ เพราะงั้นผู้อำนวยการเซี่ยถึงอยากลงมือกับเธอ”
“ได้ยินว่าผู้อำนวยการเซี่ยเป็นแม่ของผู้อำนวยการ ทำให้จักรพรรดินีโกรธ ตอนนี้น่าเวทนาเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน แต่ถ้าเธอไปเป็นชื่ออันดับแรกในไนต์คลับ คงจะหาเงินได้เยอะกว่าสินะ ?”
“ใช่ รูปร่างของเธอดีจริง ๆ พวกเราผู้หญิงยังอยากดูให้เต็มสองตา ผู้ชายคงทนไม่ไหว...”
โอเล่ย์ทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้วจริง ๆ เปิดประตูห้องควบคุมด้วยใบหน้าเย็นชา เดินไปถอดป้ายพนักงานของพนักงานหญิงสองคน “พวกคุณไปที่แผนกการเงินออกเงินเดือนและจากไปได้ ไปเลย !”
“ฮ๊ะ...” เห็นสีหน้าที่โมโหของโอเล่ย์ พนักงานทั้งสองคนตกใจจนหน้าซีดเผือด “รองโอ พวกเราทำผิดอะไรไปคะ ?”
“พวกคุณใส่ร้ายเพื่อนร่วมงาน แพร่กระจายข่าวลือตามอำเภอใจ ฝ่าฝืนข้อกำหนดความสัมพันธ์ของบริษัท” โอเล่ย์พูดจบ เขาก็ยกมือขึ้นโยนป้ายพนักงานของพวกเธอลงถังขยะ
“นั้นไม่ใช่สำหรับไล่ออกมั้ง ?” ถังเหวยเดินเข้ามาอย่างสง่า ท่าทีคุณธรรมสูงส่งในการตัดสินใจเพื่อเพื่อนร่วมงาน “ตอนนี้เป็นเวลาพัก พวกเธอก็แค่พูดคุยกันเท่านั้นรองโอ ทำไมจะต้องโกรธและตำหนิอย่างรุนแรงด้วย ? ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการวิจารณ์ ราชวงศ์ชิงสิ้นไปนานแล้ว การติดคุกเพราะบทประพันธ์ที่เขียนไม่มีอีกต่อไป”
“ผู้อำนวยการถัง คุณช่วยพวกเราหน่อยสิคะ” พนักงานหญิงสองคนเห็นถังเหวยพูดแทนพวกเธอ ราวกับลูกนกโผเข้าหาแม่นกยังไงอย่างนั้น ซ่อนอยู่ที่ใต้ปีกของถังเหวยซ้ายหนึ่งขวาหนึ่ง
“ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการวิจารณ์ไม่ผิด แต่ไม่สามารถนินทาหรือดูถูกคนอื่น” โอเล่ย์มองพวกเธออย่างเย็นชา พูดอย่างไม่ช้าไม่เร็ว “พวกเธอสองคนจากไปตอนนี้ยังทัน เมื่อสืบสวนความรับผิดชอบทางกฎหมาย พวกเธอก็จะต้องกินข้าวคุก”
“รองโอทำไมจะต้องโต้เถียงกับสาวน้อยสองคนล่ะ ? ดูพวกเธอตกใจจนน้ำตาคลอแล้ว” ถังเหวยดันพนักงานทั้งสองคน “รีบไปเก็บป้ายพนักงานพวกเธอ กลับไปทำงาน”
“ขอบคุณ ผู้อำนวยการถัง” พนักงานสองคนรีบวิ่งหนีไป
ถังเหวยเห็นโอเล่ย์โกรธจนหน้าดำ ในใจมีความสุข หันหลังกลับห้องทำงาน “รองโอ ตอนนี้ทั้งบริษัทต่างเชื่อเรื่องของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน คุณจะไล่พนักงานทั้งหมดออกได้ไหม ?”
โอเล่ย์เดินไปถึงหน้าโต๊ะทำงานหยิบรายงานตรวจวัดคืน “ถังเหวย ฉันปล่อยพนักงานสองคนนั้นได้ ส่วนเธอ ฉันจะตามเรียกร้องจนถึงที่สุด”
“รองโอ ทำไมจะต้องไร้น้ำใจขนาดนี้ ? พวกเราเคยเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีขนาดนั้น ทำงานด้วยกันมา 4 ปี มีความสุขร่วมกัน”
ถังเหวยไม่ได้อยากจะทำให้โอเล่ย์ไม่พอใจมาก ใช้น้ำเสียงผ่อนคลายพูด “ฉันเองก็เป็นคนที่อุทิศให้กับบริษัท แต่คุณเพราะเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเป็นแฟนสาวของคุณ ก็ใช้เรื่องส่วนรวมล้างแค้นเรื่องส่วนตัวฉัน ถึงขนาดอยากจะไล่ฉันออก ฉันก็ต้องต่อต้านเป็นธรรมดา”
โอเล่ย์ยังคงยืนยัน เดินไปสองก้าวก็หยุดฝีเท้าพูด “บันทึกกล้องวงจรปิดถูกส่งไปที่สถานีตำรวจแล้ว ผู้เชี่ยวชาญของแผนกสืบสวนคดีอาญากำลังวิเคราะห์ ถูกผิด พวกเรารอดูได้เลย”
ในเมื่อพิสูจน์และยืนยันว่าถังเหวยลงมือ จะไม่ง่ายเหมือนไล่ออกแล้ว แต่เธอจะไม่มีที่ยืนในจงโจว !
“เชิญตามสบาย” ถังเหวยยกคางขึ้น ท่าทางอย่างผู้บริสุทธิ์ไม่จำเป็นต้องพูดอะไร
เธอถังเหวยทำอะไรตลอดมารอบคอบไม่มีที่ติ ยาชนิดนั้นมองไม่เห็นจับไม่เจอ สังเกตการณ์ก็เทียบไม่ออก เทพเซียนยากจะตรวจสอบ นี่คือเสน่ห์ของอาชญากรรมไอคิวสูง
“ทำสิ่งไม่ชอบธรรมจะพินาศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เดินทางกลางคืนมากเขามักจะเจอกับผี เธอไม่มีทางลอยนวลไปได้ตลอด” โอเล่ย์กล่าวเตือน ยกเท้าก้าวออกไป
“นี่ขู่ใครน่ะ?” ถังเหวยยิ้มอย่างไม่สนใจเลยสักนิด ตอนนี้เธอมีจักรพรรดินีเซี่ยจิ่นหนุนหลัง ใครจะทำอะไรเธอได้ ?
แน่นอนว่าโอเล่ย์รู้ว่าถังเหวยมีที่พึ่ง ไม่ได้รับมือง่ายขนาดนั้น อดทน รอจนพบความผิดของเธอค่อยว่ากัน
อย่างมากก็ลดไปเป็นเสมียนฝ่ายบุคคลหรือฝ่ายงานบริหาร ถ้าลดมากกว่านี้ไม่ต้องบอกว่าผู้อำนวยการรับไม่ได้ เขาเองก็ยังรับไม่ได้
แต่ทว่า ถังเหวยไม่มีศีลธรรม เป็นไปได้มากว่าจะไปเสนอกับเซี่ยจิ่นให้ลดเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเป็นพนักงานเก็บขยะหรือช่างซ่อมบำรุง...หรือว่าพนักงานเก็บขยะที่สวยที่สุดจะถือกำเนิดจริง ๆ แล้ว
“ชอบไหม ที่รัก ?” ในลิฟต์ เสียงอัดแน่นของผู้ชายที่เป็นเอกลักษณ์อ่อนโยนถึงชีวิต
แค่ได้ยินเสียงของเขา เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนก็มัวเมาแล้ว และปัญหาของระดับความอับอายนี้ 100 %จะให้เธอตอยยังไง ? พูดอีกอย่างเขาเองก็สัมผัสได้อย่างแน่นอน ว่าเธอชอบมาก ชอบมาก ๆ !
“อ้อ ไม่ชอบเหรอ ? งั้นก็ทำจนชอบละกัน !” เขากอดเอวเธออย่างแรง เหมือนกับหมาป่าผู้หิวโหยกอดรัดแกะน้อยเบาะบาง รุนแรงและบ้าคลั่ง
“ชะ ชอบ” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมองไปยังสามีอย่างระมัดระวัง สบตากับตาสีดำคู่นั้นของเขาที่หล่าเหลาล้ำค่า แต่กลับกลืนกินคนอย่างไม่ถูกควบคุม ทันใดนั้นก็วิงเวียงนราวกับไปฟ้าซ็อตอย่างต่อเนื่อง
“เด็กดี~” ฝ่ามือลูบคลำแผ่นหลังขาวเนียนราวกับหยกขาวของภรรยา เซียวเซิ่งมองไปยังพนังฝั่งกระจกข้าง ๆ ยิ้มบางเอ่ยถาม “ชอบมากแค่ไหน ?”
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนกัดริมฝีปาก คลอเคลียที่หัวไหล่ของสามี มองดูใบหน้าหล่อเหลาที่เหงื่อไหลรินของเขา คิดว่าผู้ชายคนนี้เป็นของตัวเอง ก็มีความอบอุ่นที่หวานอมเปรี้ยวไหลเข้ามาในหัวใจเธอ ไม่สามารถปกปิดรสชาติแห่งความสุขได้
“ชอบมาก ชอบจน...ลอยได้”
คำตอยดีมาก ที่รัก ! เซียวเซิ่งมองไปยังภรรยาอย่างชื่นชม ดวงตาของเขาลึกล้ำราวกับค่ำคืน “ที่รักส่งให้เธอลอยทุกวัน...ให้เธอได้เสพสุขความสุขสูงสุดเป็นหน้าที่ของที่รัก เนี่ยนเอ๋อร์ ฉันอยากทำให้เธอสุขสันต์จากร่างกายจนถึงหัวใจ”
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนอายใบหน้าแดงก่ำด้วยคำพลอดรัก ในใจกลับสงบและชุ่มช่ำอย่างมาก ร่องรอยความหมานค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาที่มุมปาก ท่าทางน่ารักนั่นเหมือนกับสนักจิ้งจอกน้อยที่ขโมยของล้ำค่าไป
เซียวเซิ่งโอบรัดภรรยา นัยน์ตาเต็มไปด้วยประกาย เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเองก็กอดสามีที่รักยิ่งแน่นเช่นกัน ตอบรับเขาอย่างอบอุ่น
มีที่รัก ตัวเองก็เหมือนมีโลกทั้งใบ...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น