เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น นิยาย บท 229

“ที่รักไปกันเถอะ ฉันง่วงมากแล้ว”เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนลากมือของเซียวเซิ่ง เพราะไม่อยากให้เขาพูดมากไปกว่านี้

คนอย่างเอียนหยู่โรว ขี้เหนี่ยวยิ่งกว่าขนมหนิวผีถังอีก ตะกละยิ่งกว่างูพิษ ถ้าไม่ให้ชีวิตคนในครอบครัวก็ตกลงกันไม่ได้

“อืม ไปนอนกันเถอะ” เซียวเซิ่งโอบเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนขึ้นบันไดและพูดอย่างรู้สึกผิดว่า “ผมขอโทษนะที่รัก ที่ทำให้คุณต้องมาชดใช้หนี้รักกับผมไปด้วยเลย"

“ช่างเถอะ!ถ้าไม่มีหล่อน เราสองคนคงไม่ได้อยู่ด้วยกัน” ใบหน้าของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนยิ้ม แต่ในใจกลับรู้สึกเต้นแรง

เอียนหยู่โรวเป็นคนน่ารำคาญมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว และเมื่อตกเป็นเบี้ยล่างของเซี่ยจิ่นก็ได้สิทธิพิเศษ ยิ่งยากที่จะต่อเผชิญหน้า

“เซิ่ง ขอร้องโปรดอย่าทิ้งฉันไป ฮือฮือฮือ” เอียนหยู่โรวกลายเป็นเหมือนสุนัขขี้เรื้อนที่ค่อยตามติด “คุณนายให้ฉันรับใช้คุณ หากคืนนี้คุณไม่มาห้องฉัน ฉันจะมีแรงใช้ชีวิติต่อไปยังไง?”

“คุณเอี๋ยนเจียมตัวหน่อย” เดิมทีโอเล่ย์นอนหลับแแล้ว แต่เมื่อรู้ว่าเอียนหยู่โรวมาก่อกวนท่านประธาน จึงรีบมาช่วย “ถ้าเธอยังก่อกวนท่านประธานอีกละก็ ฉันจะไม่เอาเธอขึ้นศาลอย่างไม่ปราณี”

“นายคิดว่านายเป็นใคร คุณนายให้ฉันพักที่นี่!”

เอียนหยู่โรวตะคอกด้วยความโกรธเคือง น้ำตาและน้ำมูกแทบจะกระเด็ดใส่หน้าของโอเล่ย์ “เซียวเซิ่ง คุณอย่าโหดร้ายกับฉันแบบนี้ได้มั้ย? พวกเราเคยมีอดีตที่สวยงามร่วมกัน!ฉันก็เคยขึ้นเตียงกับคุณนะ!”

สีหน้าของเซียวเซิ่งดำคล้ำแทบจะเป็นน้ำหมึกได้แล้ว เขายืนตรงโด่อยู่ตรงนั้นและเส้นเลือดบนขมับก็ปูดโปน

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนนึกถึงสิ่งที่สามีของตัวเองและพี่สาวทำด้วยกัน ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ แต่เนื่องจากเป็นสามีภรรยากัน เราต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขและต้องปกป้องเขา “ที่รัก คุณเข้าไปข้างในก่อน ฉันขอคุยกับหล่อนสักหน่อย”

เธอคิดว่าเอียนหยู่โรวไม่ควรก่อกวนด้วยเรื่องนี้ตลอด ดังนั้นวันนี้เธอต้องแก้ไขเรื่องนี้ให้จบสิ้น

เซียวเซิ่งนิ่งไม่ไป และใช้มือข้างหนึ่งโอบเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเอาไว้อย่างแน่น “เอียนหยู่โรว ผมให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย หากอยากเจรจาเงื่อนไขอะไร คืนนี้ไปคุยกับโอเล่ย์ให้เรียบร้อย ช้ากว่านี้คุณจะไม่ได้รับโอกาสอีก”

“เอียนหยู่โรว มีโอกาสก็รับไว้เถอะ!”เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเหลือบไปมองหล่อนและพูดอย่างเย็นชา “อย่าเป็นคนโลภมาก ระวังจะไม่ได้อะไรเลย”

เดิมทีเอียนหยู่โรวใจอ่อนแล้ว คิดว่าจะเรียกเงินเยอะๆและจากไป แต่เมื่อได้ยินเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนพูดอย่างนั้นก็รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที “วิลล่าหลังนี้เซียวเซิ่งสร้างขึ้นให้ฉัน เธอแย่งผู้ชายของฉันและบ้านของฉัน ใครกันแน่ที่โลภมากหะ?”

“เอียนหยู่โรว”เมื่อเห็นผู้หญิงของตัวเองถูกต่อว่า น้ำเสียงของเซียวเซิ่งก็ดูโหดร้ายขึ้นทันที “อย่าคิดเข้าข้างตัวเองฝ่ายเดียว วิลล่านี้ไม่ใช่ของคุณ ผู้ชายก็ไม่ใช่ของคุณ จะอยู่ที่นี่ต่อไปคุณก็ไม่ได้หรอก!”

“ฉันจะไม่เอาอะไรทั้งนั้น เงินทอง ชื่อเสียง ฐานะ...ทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีอะไรสำคัญเท่าคุณ!”

เอียนหยู่โรวนั่งร้องไห้อยู่กับพื้นราวกับการไว้ทุกข์ ทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกผิดอย่างบ้าคลั่ง “ฉันไม่ได้อยู่ที่นี่เพราะวิลล่าหลังนี้ แต่เป็นเพราะฉันอยากอยู่ใกล้ๆคุณ ได้เห็นหน้าคุณทุกวัน ฉันคิดถึงคุณมาก ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคุณ...”

เซียวเซิ่งหลับตาลง ไม่มีใครรู้ว่าเขาจะต้องทนได้อีกนานแค่ไหน ถึงจะส่งเอียนหยู่โรวไปเขตป่าเถื่อนในแอฟริกาได้!

เอียนหยู่โรวคิดว่าเมื่อเขาเข้าใจ หล่อนจึงร้องเรียกคะแนนสงสารต่อไป “พวกเราอยู่ด้วยกันมา4ปีแล้ว มันยากที่แยกจากกันในช่วงแรก เซียวเซิ่ง คุณช่วยให้เวลาให้ฉันทำใจหน่อยเถอะ!ขอร้องล่ะ!”

ขณะที่พูดหล่อนก็คุกเข่าลงต่อหน้าเขา ก้มศีรษะอ้อนวอนอย่างคนไร้เกียรติ

แต่น่าเสียดายที่เซียวเซิ่งไม่หวั่นไหว “เอียนหยู่โรว ผมพูดในสิ่งที่ผมควรพูดไปหมดแล้ว คุณคิดเอาเองละกัน”

“ไม่…เรายังรักกันอยู่!” เอียนหยู่โรวร้องห่มร้องไห้ไม่หยุด

นี่กำลังคุยกับคนปัญญาอ่อนอยู่เหรอ เพลียจริงๆ เซียวเซิ่งรู้สึกทุกข์ใจเหลือนเกิน คุยกับเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนที่แข็งทื่อเหมือนหิมะน้ำแข็ง ฉลาดและงดงามคนนี้ยังสบายใจกว่าอีก

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนรู้สึกโล่งอกอยู่ภายในใจ เพราะเห็นแก่พ่อ เธอจึงไม่อยากทำอะไรกับเอียนหยู่โรวไปมากกว่านี้ เธอเตือนหล่อนด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล “พี่สาวคะ ให้มันจบในตอนที่เซียวเซิ่งยังมีความรู้สึกที่ดีต่อพี่เถอะ!คุณนายสัญญาอะไรไว้กับพี่ เซียวเซิ่งให้พี่ได้ทั้งนั้น ทำไมต้องไปทำให้เขารำคาญใจด้วยล่ะ?”

เอียนหยู่โรวสูบหายใจเข้าและหยุดร้องไห้ “คุณนายเซียวยึดบ้านที่เราอาศัยอยู่ตอนนี้แล้ว”

ดึกดื่นปานนี้แล้วอย่ารบกวนคุณนายเลย แค่นี้นายน้อยก็โกรธจะบ้านอยู่แล้ว ต้องลำบากแน่ถ้าทะเลาะกับคุณนายอีก

“รอดตัวไปที่พวกแกยังฉลาด!” เอียนหยู่โรวสะบัดแขนของหล่อนและกลับเข้าไปในวิลล่า หล่อนนั่งร้องไห้อยู่ที่หน้าประตูห้องของเซียวเซิ่ง หวังว่าเสียงร้องไห้นี้จะทำให้เซียวเซิงเปลี่ยนใจและยังห่วงใยเหมือนที่ผ่านมา

เมื่อเซียวเซิ่งออกมาจากห้องอาบน้ำหลังอาบน้ำเสร็จก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของเอียนหยู่โรว เขาโมโหขึ้นมาทันที “เซี่ยจิ่น จะไล่นายออก มันทำให้ฉันบ้าคลั่ง!”

“เอาละ อย่าไปโกรธผู้อาวุโสเลย ไปนอนกันเถอะ” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนปิดไฟตรง เหลือเพียงโคมไฟติดผนังอ่อนๆ

“ผีหอนขนาดนี้จะนอนหลับได้ยังไง” เส้นเลือดบนขมับของเซียวเซิ่งกระตุก เขาโทรหาเซี่ยจิ่นด้วยความโกรธ ขณะที่เขากำลังจะโมโหโทรศัพท์ก็ถูกแย่งไปแล้ว

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนซุกโทรศัพท์ไว้ใต้หมอนเพื่อไม่ให้สามีหุนหันพลันแล่น เซี่ยจิ่นอยู่สนามบินถึงดึกดื่น เหนื่อยมากแล้ว ยังต้องมาโดนลูกชายด่าอีก จะใช้ชีวิตต่อไปยังไงได้?

เซียวเซิ่งไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงไปเข้านอนกับภรรยา

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนนอนอยู่ในอ้อมแขนของสามี ในหัวก็ปรากฏภาพที่เซียวเซิ่งนั่งอยู่ในสนามบินอย่างโดดเดี่ยว จึงถามขึ้นว่า“เซียวเซิ่ง คุณป้ากับแม่ไม่ถูกกันเหรอ?”

“ไม่ดีเลย” นิ้วมอของเขาลูบไล้แก้มนุ่มๆของภรรยาเบาๆ เซียวเซิ่งเล่าด้วยใจที่สั่นอย่างนุ่มนวล “หลายปีมานี้พวกเขาไม่ได้เจอกันเลย จึงไม่สำคัญว่าพวกเขาจะมีความสัมพันธ์ดีหรือไม่ดี”

“เรื่องอะไรที่ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ดี?”

“ผมไม่รู้ค่อยรายละเอียดและพวกเขาไม่กล้าพูดถึงเรื่องนี้ เรื่องของผู้ใหญ่เธออย่าได้กังวลไปเลย อืม…” เซียวเซิ่งเอียงศีรษะและริมฝีปากร้อนชื้นของเขาก็จูบไปที่ริมฝีปากของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนปล่อยให้เขาจูบ แต่ในใจก็คิดทบทวน:เซียวเซิ่งเป็นคนเลือดเย็นในด้านความรู้สึก มีปมฝังใจกับพ่อ ไม่สนใจแม่ ราวกับว่าทุกอย่างในบ้านไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลย…

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น