จอมทัพเยาะเย้ย:“แกร่งกร้าวและหยิ่งในศักดิ์ศรีมาก”
เพื่อนของจอมพล จงรักภักดีกันจริงๆ
ในเมื่อเขายุแยงตะแคงรั่วไม่ได้ งั้นก็ได้แต่ควบคุม!
บอดี้การ์ดใช้เท้าเตะกวินทร์
กวินทร์ที่นอนตรงพื้นไม่ตอบโต้ใดๆ
บอดี้การ์ดถาม:“คุณชาย ตอนนี้จะจัดการอย่างไรดี?ปล่อยเขาไปแบบนี้เหรอ?”
จอมทัพคาบบุหรี่ในปาก แล้วจุดไฟ “แช๊ะ”
ท่ามกลางหมอกควันที่ลอยมาช้าๆ เขาหัวเราะอย่างเยือกเย็น:“ปล่อย ทำไม ทำไมไม่ปล่อย?ปล่อยเสือเข้าป่า เกมนี้จะยิ่งน่าสนใจกว่า”
จอมทัพเตะกวินทร์ออกไปเล็กน้อย:“เอาไปทิ้ง”
“ครับ!”
……
โรงพยาบาลอุ่นรัก
แผนกเด็ก ห้องคนไข้ VIP
จีรวรรณได้ข่าว ก็รีบมา
วันวิวาห์กำลังตัดเล็กให้เด็กสาวอยู่
จีรวรรณเห็นเธอก็โมโห เข้ามาไม่พูดอะไร ก็เข้าไปดึงเธอออก
วันวิวาห์ที่ถูกดึงออกไปยังไม่ทันตั้งตัว โซเซเล็กน้อยกว่าจะยืนได้อย่างมั่นคง
หนูกะทิขมวดคิ้วเล็กๆนั้นอย่างไม่พอใจ
จีรวรรณนั่งตรงที่วันวิวาห์นั่งเมื่อครู่:“หลานรัก ทำไมบาดเจ็บอีกแล้วล่ะ?เจ็บตรงไหนอีก รีบบอกย่ามาสิ”
หนูกะทิเหลือบมองวันวิวาห์ที่ทำอะไรไม่ถูกตรงด้านข้าง พูดอย่างเป็นเด็กดีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น:“คุณย่า ได้เลือดมาแล้ว หนูไม่เป็นไรแล้วค่ะ”
เธอกะพริบนัยน์ตาสีดำใส:“ครูบอกว่าต้องรู้จักตอบแทนพระคุณคน คุณย่า ย่าว่าหนูจะตอบแทนคนที่บริจาคเลือดให้หนูอย่างไรดี?”
จีรวรรณขมวดคิ้ว:“หลานรักอยากตอบแทนอย่างไรล่ะ?ย่าช่วยหลานเอาเงินให้เธอสักก้อนดีไหม?”
เด็กสาวส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย:“เธอมีเงินค่ะ”
วันวิวาห์:“……”
ไม่!เธอไม่มี!
เธอยังเป็นหนี้จอมพลก้อนโตอยู่เลย!
จีรวรรณพูดอย่างเอ็นดู:“แบบนี้นี่เองงั้นหลานเลือกของขวัญกับตัวหรือว่าทำของขวัญสักอย่างให้เธอดีไหม?เลือดของราคาแพงหน่อย แบบนี้สิถึงจะมีความจริงใจและแสดงออกถึงความขอบคุณ?”
“อันนี้ดีค่ะ”เด็กสาวพูดอย่างดีใจ:“งั้นคุณน่าไปเลือดกับหนูนะ?”
“ได้สิ”
จีรวรรณไม่เคยใส่อารมณ์ต่อหน้าหลานสาว
เธอบีบจมูกเล็กๆของเด็กสาวอย่างเอ็นดู:“กะทิของพวกเราอยากซื้ออะไรก็ได้ทั้งนั้น”
หนูกะทิยิ้มอย่างพอใจ
เธอเงยคางขึ้นอย่างเย่อหยิ่งข้ามย่าตัวเอง มองไปที่วันวิวาห์ แล้วหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์:“วันวิวาห์ ได้ยินไหม คุณชอบอะไรเลือกตามสบายเลย ย่าหนูรวยและใจกว้างมาก”
จีรวรรณสะอึกกับคำพูดหลานสาวตัวเอง สีหน้าดูไม่ค่อยดีนักแต่ก็แสดงออกไม่ได้
วันวิวาห์พยายามพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม:“งั้นฉันต้องขอบคุณกะทิสุดที่รักซะแล้ว!”
“คนในครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องเกรงใจหรอก”เด็กสาวโบกมืออย่างใจกว้าง
วันวิวาห์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
จีรวรรณกลับโกรธอีกครั้ง โกรธจนหายใจไม่ออก
ใครเป็นครอบครัวเดียวกับเธอกัน!
เห็นสีหน้าที่ดูแย่ของจีรวรรณ วันวิวาห์ก็รู้สึกอารมณ์ดีมาก:“อือ หนูก็รู้ว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกันเหรอ ฉันเป็นแม่หนูนะ สมควรช่วยหนูอยู่แล้ว ดังนั้น กะทิมีน้ำใจแบบนี้ก็พอแล้ว ขอบใจนะจ๊ะ”
“ทำไมต้องทำตัวอ่อนแอให้ผู้ชายมาปกป้องด้วยล่ะคะ?”
ใบหน้าเล็กๆของวันวิวาห์ยิ้มอย่างมั่นใจ:“ฉันมั่นใจกับความรู้และประสบการณ์ในหลายปีนี้ ฉันเชื่อว่า จากความสามารถของฉันแล้ว อยู่ที่ไหนก็เปล่งประกายได้ ไม่เป็นตัวถ่วงของพลแน่ค่ะ!”
เธอเคลื่อนไหวดวงตาที่สวยงาม มองไปที่จอมพลอย่างอบอุ่น:“แน่นอนว่า ถ้าสุดวิสัยจริงๆ ได้แต่เป็นภรรยาที่อยู่ข้างกายพลเงียบๆ ฉันก็ยินยอม เพื่อพล เพื่อครอบครัวเล็กๆที่มีความสุขของพวกเรา ฉันสามารถทิ้งอาชีพและอุดมคติของตัวเองได้!”
พูดถึงตรงนี้ เธอก็จงใจถอนหายใจ:“นี่เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้นี่นา ใครให้ลูกชายคุณมีเสน่ห์ขนาดนี้ล่ะ ใครได้เจอ ก็ไม่อยากจะพลาดไป”
ใบหน้าจีรวรรณที่บำรุงมาอย่างดีกระตุกเล็กน้อย
หนูกะทิแอบย่ายกนิ้วให้วันวิวาห์
วันวิวาห์กะพริบตาไปที่เธอ สื่อว่าเห็นแล้ว
สงครามระหว่างพวกผู้หญิง จอมพลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆตั้งแต่ต้นจนจบ
แค่หลังจากวันวิวาห์พูดจบ เขาก็ยกมุมปากขึ้นมาอย่างเงียบๆ
พอเห็นสงบศึก เขาจึงหันไปที่ลูกสาว พูดว่า:“หนูกะทิ ตอบพ่อมา จะกลับไปเมืองโตตูกับย่าไหม?”
หนูกะทิเงยหน้าพูดเงื่อนไขกับพ่อตัวเอง:“งั้นพ่อต้องรับปากหนูก่อนว่าจะพาวันวิวาห์กลับไปด้วย หนูถึงจะกลับไปกับย่าก่อน”
“อือ”จอมพลตอบนิ่งๆ
จอมพลออกไป จีรวรรณก็เรียกวันวิวาห์ออกไปจากห้องคนไข้
คุณย่าตัวเองร้ายแค่ไหน ไม่มีใครรู้ดีกว่าหนูกะทิ
เธอมองวันวิวาห์อย่างกังวล
วันวิวาห์ยิ้มให้เธออย่างปลอบโยน แล้วออกไปจากห้อง
ประตูห้องคนไข้ปิดลง ฝ่ามือของจีรวรรณก็สะบัดออกไปข้างหน้า
วันวิวาห์ป้องกันไว้แล้ว ยื่นมือไปหยุด จับข้อมือของจีรวรรณแล้วหยุดไว้กลางอากาศ
เธอพูดอย่างเกรงใจ:“คุณน้าคะ ฉันเคารพที่คุณเป็นแม่ของพล ย่าของกะทิ ดังนั้นครั้งนี้จะไม่ติดใจเอาความคุณน้า แต่ครั้งหน้า ถ้าคุณน้ายังกล้าลงมือกับฉันอีก ก็อย่าหาว่าฉันไม่เคารพผู้ใหญ่ และก็……”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสพรักร้อน กลางใจตัวพ่อ