แป๊บเดียวทางกวินทร์ก็ส่งตำแหน่งของวันวิวาห์มา
จอมพลเปลี่ยนชุด ขับรถไปที่บริษัทของวันวิวาห์
รถจอดลงที่ชั้นล่างตึกเชลน่า
ตึกที่มืดมิดมีเพียงหน้าต่างบานเดียวที่มีไฟสว่างอยู่
นั่นเป็นโซนห้องทำงานของวันวิวาห์
จอมพลที่หายโกรธแล้ว นั่งอยู่ในรถและจ้องมองไปที่หน้าต่างนั้นไม่ขยับอย่างเหม่อลอย
ข้างบน
ก่อนนอนวันวิวาห์อาบน้ำ เช็ดผมเพิ่งออกมาจากห้องน้ำ แล้วจู่ๆบนยอดหลังคาก็ส่องแสง และดับไป
วันวิวาห์นิ่งไปแป๊บหนึ่ง สัมผัสสวิตช์แล้วกดไปมาสองสามครั้ง แต่ก็ไม่ตอบสนองใดๆ
เธอรีบคลำความมืดหาโทรศัพท์ เปิดไฟฉาย โทรศัพท์ส่งเสียง“ปิ๊บปิ๊บ”สองครั้ง แสดงออกมาว่าแบตเตอรี่ต่ำและก็ปิดเครื่อง
วันวิวาห์หมดคำพูดสุดๆ:“เวลาคนเรามันซวยก็ซวยจริงๆ”
เธอโยนโทรศัพท์ วิ่งไปที่หน้าประตู มองซ้ายมองขวา
ไฟตรงทางเดินที่เปิดอยู่ก็ดับลง เหลือแค่ไฟฉุกเฉินที่ไม่สว่างมากนักไม่กี่ดวงที่ยังเปิดอยู่ ดูเหมือนว่าทั้งอาคารจะไฟดับ
วันวิวาห์ตัวสั่น รีบหดหัวเล็กๆด้วยความกลัว ล็อกประตู แล้วขึ้นไปที่เตียง
ม่านไม่ได้ปิด แสงนีออนจากชั้นบนฝั่งตรงข้ามส่องเข้ามาในห้อง สะท้อนแสงเล็กน้อย
ในใจเธอจึงมีความรู้สึกปลอดภัยเล็กน้อย
ตอนที่เตรียมจะหลับตา จู่ๆก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นตรงทางเดินที่เงียบสงัดนอกประตู
วันวิวาห์ลืมตาขึ้นมาทันที ลงมาจากเตียงอย่างกังวล
เสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ สุดท้ายหยุดลงที่หน้าประตู
“ก๊อกก๊อกก๊อก!”
วันวิวาห์ได้ยินหัวใจตัวเองเต้นดังขึ้น แรงขึ้น เหมือนจะออกมาจากหน้าอก
เธอกลืนน้ำลายอย่างกังวล ใช้ประโยชน์จากแสงสะท้อนของแสงนีออน มองซ้ายมองขวาจากข้างในห้อง สุดท้ายก็เหลือบเห็นแจกันตกแต่งที่วางอยู่ข้างๆชั้น จึงรีบเข้าไปคว้ามาไว้ในมือ ซ่อนตัวอยู่หลังประตู
“คลิก!”
เสียงปลดล็อกประตูดังขึ้น ประตูถูกคนผลักออกจากด้านนอก
วันวิวาห์กำแจกันไว้แน่น มองดูโอกาสอย่างระมัดระวัง แล้วจึงยกแจกันขึ้นและทุบลงไป
……
ณ ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลอุ่นรัก
กวินทร์ที่ถูกปลุกสองครั้งกลางดึก ใบหน้าที่ดูเป็นผู้หญิงนั้น จัดการแผลที่หน้าผากให้จอมพลอย่างไม่พอใจ
“หึ พี่พล ดูพี่สิดึกๆดื่นๆไม่ยอมนอน อารมณ์ของพวกพี่สองสามีภรรยานี่……รุนแรงไปหน่อยนะ”
หนึ่งชั่วโมงก่อนยังคุยเรื่องพี่สะใภ้กับเขาอยู่ หนึ่งชั่วโมงต่อมา ก็หาเจอ
ก็แค่สองสามีภรรยาคู่นี้มารวมกันที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเขา
สีหน้าจอมพลดูเหยเก เหลือบมองไปอย่างเยือกเย็น กวินทร์รีบหุบปากกลั้นขำ
วันวิวาห์พูดด้วยสีหน้าราบเรียบ:“หาเรื่องใส่ตัวเอง ถ้าเขาไม่ทำตัวเหมือนโจรแอบเข้ามาที่ห้องฉัน ฉันจะตีเขาไหม?”
คืนนี้จอมพล ระงับความโกรธไว้ แล้วก็พุ่งเข้ามาที่หัวทันที:“คุณมาที่บริษัทเอง ไม่ล็อกประตู และยังโทษคนอื่นที่มาเปิดห้องคุณ?ถ้าไม่ใช่ว่าผมกลัวคุณอยู่สถานที่โทรมๆแบบนั้นคนเดียวจะถูกคนข่มขืนและฆ่าได้ ผมก็ไม่ไปหรอก ยัยผู้หญิงใจดำ!”
คำว่า“ข่มขืน”นี้ แทงใจมาก แทงเข้าไปในใจของวันวิวาห์
เรื่องเมื่อคืนผุดเข้ามาในหัวอีกครั้ง
เธอถลึงตาอย่างโกรธจัด
ใครจะไปรู้ว่าตัวล็อกเสียล่ะ
เธออุตส่าห์ล็อกประตูแล้ว!
“ดึกๆดื่นๆแบบนี้ ใครกันที่กินอิ่มแล้วไม่มีอะไรทำแต่ไปบริษัท?ข่มขืนและฆ่า ฉันว่าคุณนั่นแหละที่มีความคิดสกปรกแบบนี้ได้!”
วันวิวาห์ตัดบทอย่างเฉยเมย:“ไปๆมาๆอยู่ทั้งคืน พอหาโรงแรมได้ ฟ้าก็สว่างแล้ว สู้เอาเวลานั้น นอนพักที่บริษัทสักแป๊บหนึ่งดีกว่า คุณกลับไปเถอะ”
วีระเห็นเธอยังโกรธอยู่ ก็ไม่กล้าโน้มน้าว
“งั้นถ้าคุณมีอะไรก็ติดต่อผมเลยนะครับ ผมจะรีบมาทันที”
วันวิวาห์พยักหน้า
วีระหันกลับ ก็คิดจะกลับไป
จึงนอนบนรถ เฝ้าอยู่ที่ชั้นล่างทั้งคืน
“วีระ”วันวิวาห์เรียกเขา
วีระหันไป
วันวิวาห์กัดริมปากพูดออกไป:“จอมพล……แผลที่หัวเขา คุณกลับไปพูดกับป้าสมหน่อย ให้เธอทำอาหารก็ระวังหน่อย เลี่ยงของพวกนั้น เลือกอาหารรสอ่อนและบำรุงแผล”
วีระปลอบโยนไปว่า:“คุณหญิง ผมพูดตรงๆนะ คุณอย่าโกรธล่ะ ที่จริง Boss เขาเป็นคนปากแข็งแต่ใจอ่อน แสดงออกไม่เป็น แต่ในใจเขาใส่ใจคุณมากนะครับ”
วันวิวาห์เงียบไปสักพักแล้วพูด:“ฉันรู้ แต่บางครั้งคนก็มักจะแบบนี้ พออารมณ์ขึ้น ก็พูดใส่แบบนี้ เขาก็ไม่ผิดหรอก พูดตรงๆแล้ว ฉันแค่ฟังแล้วไม่สบายใจก็เท่านั้น”
เงียบไปสักพัก เธอก็ดูหมิ่นตัวเอง:“น่าจะเพราะผู้หญิงชอบอะไรที่ดูถือตัว ชอบฟังอะไรน่าฟัง อะไรที่ตัวเองอยากได้ยินเท่านั้น”
ดูหมิ่นตัวเองเสร็จ วันวิวาห์ก็พูดด้วยรอยยิ้มนิ่งๆ:“วีระ ขอบคุณนะ คำพูดในวันนี้ คุณอย่าไปพูดให้จอมพลฟังล่ะ เขาดีมาก ฉันรู้ เขาก็เป็นคนธรรมดา เรื่องที่เกิดขึ้นคืนนี้แค่เป็นการระบายของเขา อย่าให้เขาคิดว่านั่นเป็นข้อเสียของเขา”
วีระชื่นใจและประทับใจ รีบพยักหน้า:“วางใจเถอะ”
เหนื่อยมาทั้งคืนแล้ว วันวิวาห์ก็ง่วงมาก
เธอหาเก้าอี้มาพิงไว้หลังประตู แล้วจึงหลับตาลงหลับสนิท
พอตื่นมา ด้านนอกก็ฟ้าสว่างแล้ว นอกห้องทำงานมีคนเดินไปมา เป็นเวลาทำงานแล้ว
เธอเก็บอย่างรวดเร็ว เปิดประตูห้องทำงาน
ริชชี่ที่อยู่ห้องเลขาเห็นเธอ ก็แปลกใจทันที:“ประธานวันวิวาห์ ทำไมคุณมาเช้าแบบนี้?”
เธอวิ่งเข้าไปอย่างดีใจ เอาโทรศัพท์ที่เปิดฮอตเสิร์ชมาไว้ตรงหน้าวันวิวาห์:“คุณรีบดูสิคะ ในเวยป๋อตอนนี้เรื่องพลิกกลับแล้ว เพียงเวลาทั้งคืน เรื่องที่คุณลอกวิทยานิพนธ์ได้ตาลปัตรแล้ว ตอนนี้ทุกคนต่างกำลังสงสัยหอมจันทร์ ไม่ใช่แค่สงสัยว่าวิทยานิพนธ์ฉบับนั้นของคุณไม่ได้ลอกเธอ แต่อาจจะเป็นไปได้ว่าเธอลอกของคุณต่างหาก และก็ เพราะเรื่องวิทยานิพนธ์นี้ เลยส่งผลต่อผลงานอื่นๆที่หอมจันทร์เคยตีพิมพ์ ตอนนี้ เธอน่าจะกดดันสุดๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสพรักร้อน กลางใจตัวพ่อ